555. "วินาทีพลิก..ชาติภพ"


 วันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ผมว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุดสำคัญของศาสนาพุทธของโลกเท่านั้น หากแต่เป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดของจักรวาลทีเดียว เป็นวันที่เราจะระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และความมหัศจรรย์ของพระธรรมคำสอน ผ่านบุญพิธีในรูปแบบต่างๆ .. รวมทั้งปฏิบัติบูชา                                       

วันนี้ผมไปวัดที่ผมเคยไปบวชมา เจอหลวงพ่อกล้วย พระอาจารย์ กัลยาณมิตร ลูกศิษย์ ....ชีวิตเราเหมือนเดินบนเส้นทางใครเส้นทางมัน แต่บางขณะเราก็เดินมาเจอกัน มอบกำลังใจ มอบน้ำใจ มอบธรรมะให้กัน แล้วเราก็จากกัน เดินไปบนหนทางของตนเอง....

เหตุการณ์ในเช้าวันนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งคือ Cloud Atlas หนังที่ผมอยากดูมานานแต่พึ่งได้ดู จะว่าไปเป็นหนังที่แสดงถึงการเดินทางข้ามภพข้ามชาติ ของคนหลายๆ คนที่บังเอิญมาสร้างกรรมร่วมกันในชาติๆ หนึ่ง เราจะเห็นการพบกันจากกัน พวกเขาเดินทางร่วมกันบ้าง จากกันบ้าง บางครั้งก็กลับมาเจอกัน แล้วก็อาจทำอะไรดีๆ ร่วมกัน หรือทำร้ายกันในรูปแบบเดิมๆ ตอนหนึ่งที่ผมประทับใจมากๆ คือในบางตอนความคิดของคนคนหนึ่งที่ดูต้อยต่ำ ถูกรังแกจนตาย กลายเป็นแรงบันดาลใจข้ามรุ่น ไปนานอีกหลายศตวรรษ เรียกว่ากลายเป็นศาสดาของศาสนาใหม่ไปเลย

ผมประทับใจหนังเรื่องนี้ที่แสดงออกถึงแนวคิดว่า คนเราเลือกได้ เราอาจเคยเจอกันไปในชาติภพไหนก็ตาม เมื่อกลับมาเดินทางร่วมกันกับคนรัก หรือคนแปลกหน้าอีกครั้ง ไม่ว่าจะเคยร้ายต่อกันมาขนาดไหน คือแทนที่จะเลือกทำซ้ำๆ ในหนทางเดิม ในเรื่องของชาติภพนั้น เราเลือกที่จะสร้างหนทางใหม่ได้เสมอ                      

ในสาขาวิชา Appreciative Inquiry (AI) เราเรียกหลักนี้ว่า Constructionist Principle  ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของ AI ... คือไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ในจุดใดของประวัติศาสตร์ คุณเลือกที่จะ “สร้างสรรค์ชะตากรรม” ขึ้นมาใหม่ได้

เมื่อย้อนกลับมาที่ตัวผม จากประสบการณ์การบวช เรื่องนี้ชัดมากๆ ก่อนบวช ผมได้ไปขออโหสิกรรม .... ผมตกใจครับ ว่า ผมค้นพบว่า จริงๆ แล้วที่ผมเคยล่วงเกินคนอื่นไปนั้น มันหนักครับ ทำไมมันรู้ว่าหนัก.. ก็เพราะพอเราขออโหสิกรรม มันปลดภาระทางใจลง เราวางมันลงได้ เราแบกมานาน แบกจนชิน ไม่วางเลยไม่รู้ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากๆ ถึงกับไปขออโหสิกรรมเพื่อนบ้าน ที่ทะเลาะกันเรื่องหมาในสมัยก่อน แม้ไม่ได้เป็นความอะไร และพอคุยกันได้ แต่พอขออโหสิกรรม ผมก็พึ่งรู้ว่า ผมปลดพันธนาการอะไรบางอย่างไป.... ช่วงนั้นภาระทางใจผมถูกปลดปล่อยไปมาก อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน... ผมรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ตอนนั้น

ในทางบวกวันนี้ก็ได้เจอหลวงพ่อกล้วยที่ธรรมะของท่านเป็นอะไรที่สั้นๆ แต่สงบ เดินไปในวัดก็ร่มเย็น เหมือนอยู่อีกมิติ.. นอกจากนี้ยังไปเจอพระอาจารย์ที่ให้ธรรมะที่เป็นแรงบันดาลใจ ที่เราประทับใจจนบอกต่อ 

มีตอนหนึ่งท่านพูดเรื่องครอบครัวว่า “อาจารย์ ดูแลครอบครัวด้วยปัจจัยสี่ เกื้อกูลด้วยพรหมวิหารสี่นะ”  แค่นี้ชีวิตก็คงเปลี่ยนไปอีก..  เจอกัลยาณมิตร ที่จากบวชร่วมกัน ตอนนี้มาวางแผนออกแบบหลักสูตรร่วมกัน มาสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ร่วมกัน  ก่อนกลับก็นึกถึงหลวงตาแก่ๆ ที่ร่างกายหง่อม เดินตัวงอ แล้ว ท่านอยู่หลังวัด ทำงานเกื้อกูลศาสนาด้วยการทำไม้กวาดให้วัด ญาติโยมไม่ค่อยรู้จัก เลยเดินเข้าไปทำบุญกับท่าน ท่านก็ให้พรที่เหมือนเดิม คือฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็เชื่อว่าปัจจัยเล็กน้อยคงเป็นกำลังใจให้ท่านในการ “เดินทาง” ของท่าน ไม่มากก็น้อย ...

เอาเป็นว่า ชีวิตคือการเดินทางข้ามภพ ที่มีสิ่งมีชีวิตนับล้านๆ มาเดินผ่านคุณ บางทีก็ขวางทาง คุณรู้บ้างไม่รู้บ้าง บางทีรู้ก็ยังเหยียบมันเฉยเลย บางทีก็ไปทะเลาะกับชาวบ้าน หาเรื่องเขา  เกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวร คือผูกเวรกันมาเรื่อยๆ บางคนดีต่อกัน ก็ยังผูกใจกันในทางดีมาเรื่อยๆ                       

แน่หละ เมื่อเรามาเจอกันอีกครั้ง เราจะทำอย่างไร ... ถ้ามองจาก Cloud Atlas ก็ต้องบอกครับ เราโชคดีที่ได้มาเจอกัน เรามีโอกาสจะเปลี่ยนเส้นทางกรรมของเรา... ถ้าคนมาดี คุณรู้สึกดี ก็บ่มเพาะความดีที่คุณทำร่วมกันเขาในทางที่ถูกต้องและถูกธรรม เราก็จะเจริญร่วมกันไปเรื่อยๆ แต่หากเจอคนที่คุณรู้สึกไม่สบายใจ... ก็เอาเลยครับ ขออโหสิกรรม... ถ้าไม่ได้ก็รักษาใจไม่ให้กระเพื่อม รักษาจิตไม่ให้ปรุงแต่งไปในทางทำลาย... เพื่อที่เมื่อเราได้เจอกันอีกครั้ง ไม่ว่าชาติภพนี้ หรือชาติภพใด ที่ดีต่อกันก็จะเสริมกันให้ดียิ่งขึ้น ที่ร้ายต่อกันก็จะคลาย จะพัฒนาจนมาเจริญขึ้นด้วยกันในที่สุด

" การพบกันของพวกเราในสังสารวัฎนี้จะไม่เป็นการพบกันที่สูญเปล่าอีกต่อไป แต่กลับเป็นการพบกันเพื่อเป็นกำลังใจ  เพื่อการส่งเสริมกัน การดูแลกัน จนกว่าเราทั้งหมดจะเข้าสู่นิพพาน...."

ในวันวิสาขบูขานี้นอกจากจะเป็นวันที่จะอยู่ในบุญ นึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ยังเป็นวันที่คุณจะได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ร่วมกันกับทุกชีวิต ที่เดินทางร่วมกับคุณ หรือสวนทางกับคุณแม้เพียงชั่วขณะ ไม่ว่าจะมาดีมาร้าย นั่นคือโอกาส... โอกาสเป็นของคุณแล้ว ที่จะเปลี่ยนเส้นทางจากวิถีกรรมเดิม สู่วิถีกรรมใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์กว่า เบาสบาย ผ่องใสกว่า บริสุทธิ์กว่าเดิม...

                     

คุณล่ะรู้สึกอย่างไร ส่วนผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ผมอยากบอกว่าวันนี้เป็นวันมหัศจรรย์ของผมวันหนึ่ง เป็นวันที่ทำให้ผมได้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมากๆ ... 

วันวิสาขบูชา จึงเป็นวันมหัศจรรย์ของจักรวาลอย่างแท้จริง

เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจาณาดูนะครับ

อ้างอิง

www.aithailand.org
Credit (Pictures)

 

 

รูปแรก http://www.allposters.com/-sp/Buddha-Mosaic-Art-Poster-Print-Posters_i8759063_.htm

รูปสอง http://www.davidbelbin.com/

รูปสาม http://fromlondonwithlovebyiulia.blogspot.com/2013/01/my-week-in-words-cloud-atlas.html

รูปสี่ 

http://travel.sanook.com/575681/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A1/

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 536958เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2013 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม 2020 14:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สาธุ สาธุ ครับ ท่าน

เป็นวันที่ได้พักจิตใจค่ะ

เขียนดีจริงๆขออนุญาตนำไปใช้และเผยแพร่ต่อนะคะ

เป็นเรื่องราวที่ดีมากค่ะ อ่านแล้วอยากไปหาหนังมาดู^^

เป็นวิธีคิดที่ดีมากๆคะ การอโหสิกรรม ทำให้จิตเราเบาและมีความสุขมากขึ้นจริงๆค้ะ ^^

ชอบบทความนี้มากค่ะ อ่านง่าย ได้แรงบันดาลใจ ขอบคุณมากค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท