RoundUp(ราวด์อัพ)___ทำร้ายตับเรา




.
จดหมายข่าว อ.นพ.เกบ เมียคิน ตีพิมพ์เรื่อง 'Roundup may be harmful'
= "อันตรายจากราวอัพ (ยาฆ่าศัตรูพืช ยาฆ่าหญ้า)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่้กันฟังครับ
.
การศึกษาใหม่จาก MIT พบว่า ยาฆ่าวัชพืช (herbicide) ของบริษัทมอนซานโต้ คือ "ไกลโฟเสท (glyphosate)" และชื่อการค้าว่า "ราวอัพ (Roundup)" อาจเพิ่มเสี่ยงโรคต่างๆ หลายอย่าง
.

.
ภาพที่ 1: ข้าวนักดำน้ำ พัฒนาจากความช่างสังเกตของชาวนาบังคลาเทศที่พบว่า ข้าวบางสายพันธุ์ไม่ตายหลังน้ำท่วมนา (ไม่เกิน 14 วัน)

ราวอัพเป็นยาฆ่าหญ้า-วัชพืช-ศัตรูพืช ที่ขายดีที่สุดยี่ห้อหนึ่งในโลก และอาจปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางน้ำตาล ข้าวโพด ถั่วเหลือง หรือข้าวสาลี (ใช้ทำขนมปัง) ได้
.
ราวอัพมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ หรือน้ำย่อยในตับที่ชื่อ "ไซโทโครม พีโฟ ฟิฟที (cytochrome P450)" หรือที่นิยมเรียกย่อๆ ว่า 'P450' ซึ่งเป็น "อภิมหาเอนไซม์ตับ"
.
P450 ได้ชื่อว่า เป็นเอนไซม์ "ล้างพิษ" ที่ช่วยทำลายสารพิษ และสารเคมีที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งของตับ
.
การที่ตับทำลายสารพิษได้น้อยลง ทำให้ร่างกายเสี่ยงอันตรายจากยา และสารเคมีต่างๆ มากมาย เช่น ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช ฯลฯ มากขึ้น
.

.
เอนไซม์ P450 ทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้ระดับสารเคมีต่างๆ เพิ่มขึ้นจนเป็นอันตราย ที่พบบ่อย คือ ยานับสิบนับร้อยชนิด และสารเคมีต่อไปนี้ [ NIH ]
  • แอลกอฮอล์ > เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ
  • บุหรี่-ยาสูบ
  • ยาแก้ปวด > พาราเซตามอล
  • กาเฟอีน (caffeine) > ชา กาแฟ น้ำอัดลม ฯลฯ
จึงมีคำแนะนำว่า หากต้องสัมผัส หรือใช้ยาฆ่าหญ้า-ยาฆ่าวัชพืช-ยาฆ่าศัตรูพืช เช่น พ่นยา ฯลฯ แล้ว ไม่ควรทำอะไรต่อไปนี้ไปอย่างน้อย 1-2 มื้ออาหารได้แก่
  • ไม่กินเหล้า
  • ไม่สูบบุหรี่
  • ไม่ดื่มยาชูกำลัง (มีกาเฟอีน)
  • ไม่กินยาแก้ปวดพาราเซตามอล

.
เพราะอาจทำให้ยาปราบศัตรูพืชกลายเป็นยา "ปราบคนพ่นยา" แทนได้
.
อันตรายจากการได้รับยาปราบศัตรูพืช เช่น ปนมาในผัก ฯลฯ มีอีกหลายอย่าง
.
เช่น อาจไปยับยั้งการสร้างสารเคมีที่มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ (sulfate-containing chemicals) ซึงทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ (anti-oxidants), เป็นโครงสร้างผนังเซลล์ ฯลฯ
.
อนุมูลอิสระทำให้ร่างกายโทรมจากภายใน เช่น ภายนอกอาจดูไม่แก่ แต่ข้างใน เช่น ตับ ไต ไส้ พุง ฯลฯ แก่เกินวัย เพิ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ไตเสื่อม ไตวาย มะเร็ง ฯลฯ ในระยะยาว
.

.
สารที่มีกำมะถันพบมากในผม ขน เล็บ หนัง ซึ่งเป็นด่านแรกของร่างกายในการป้องกันโรค
.
เมื่อด่านอ่อนกำลังลง จะทำให้เชื้อโรค หรือสารเคมีร้ายๆ เข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น
.
การหลีกเลี่ยงยาปราบศัตรูพืช ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง ล้างผักผลไม้ให้ถูกวิธี ซึ่งที่ดีมาก คือ
  • แช่ในน้ำผสมด่างอ่อน = เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียม ไบคาร์บอเนต (มีขายในห้างสรรพสินค้า เช่น โลตัส ฯลฯ) 10 นาที
  • ล้างน้ำรอบ 1
  • แช่ในน้ำผสมกรดอ่อน = น้ำผสมน้ำส้มสายชู 10 นาที
  • ล้างน้ำรอบ 2

.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.

 > [ Twitter ]

  • ขอขอบพระคุณ / Thank Dr.Gabe Mirkin's Sources > Entropy 2013, 15(4), 1416-1463.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์. 21 พฤษภาคม 56. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
  • ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้

หมายเลขบันทึก: 536698เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2013 23:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2013 23:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์หมอ นพ. วัลลภ พร...   ดิฉันมักแช่ล้างผักในแช่ในน้ำผสม เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียม ไบคาร์บอเนต  และเคยถามร้านที่ขายสารเคมีตัวนี้  เวลาแม่ค้าไปซื้อ เขาจะเรียกสารเคมีตัวนี้ว่า ผงแช่ผัก จะไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อทางเคมี   ใช้ผงแช่ผักล้างผัก จะสามารถทำให้ผักเขียวขึ้นด้วยค่ะ

ขอบคุณนะครับ...และเรียนรู้เทคนิคจากคุณ on time ด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท