ชื่นชมสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่
เงินทอง เวลา และสุขภาพ คือ สิ่งสำคัญในชีวิตของเรา หากมีครบทั้งสามอย่าง ชีวิตย่อมมีความสุขและสามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้มาก แต่โดยทั่วไปแล้ว การที่เราจะมีทั้งสามอย่างครบถ้วนในเวลาเดียวกันนั้นเป็นเรื่องยากมาก
มีผู้หนึ่งตั้งข้อสังเกตไว้ดีมากว่า เมื่อยังเด็กเรามีีเวลาและสุขภาพ แต่ไม่ค่อยมีเงิน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เรามีิเงินและสุขภาพ แต่ไ่ม่ค่อยมีเวลา ครั้นแก่ตัวเรามีเงินทองและเวลา แต่สุขภาพไ่ม่ค่อยดี
ผู้ใหญ่ทุกคนคงจำได้ดีว่า ตอนเป็นเด็กนั้นเรามีเวลาวิ่งเล่นได้ทั้งวัน กำลังวังชาล้นปรี่ แต่้ถ้าอยากได้ของเล่นสักอย่าง มันช่างยากเย็นเหลือเกิน เพราะไม่มีเงิน ขอพ่อแม่ก็มักถูกปฏิเสธ แต่เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ มีงานทำ ชีวิตมีความสะดวกสบาย มีปัญญาหาเงินซื้อทุกอย่างที่อยากได้ แต่กลับไม่ค่อยมีเวลาใช้ของเหล่านั้น รวมทั้งไม่มีเวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว เพราะมัวแต่ทำมาหากิน
เมื่อเข้าสู่วัยชรา เกษียณจากการงาน เรามีเวลาเหลือเฟือ เงินที่เก็บไว้ก็มีไม่น้อย ถึงตอนนี้สุขภาพไม่อำนวยให้ทำอย่างที่อยากจะทำ จะไปเที่ยวไหนก็ไม่สะดวกเหมือนก่อน จะกินตามใจปากก็ไม่ได้เพราะถูกโรคร้ายคุกคาม
ใช่หรือไม่ว่าชีวิตนี้หาความสมบูรณ์พร้อมได้ยาก มักจะมีบางอย่างขาดหายไปเสมอ เมื่อดิ้นรนจนได้สิ่งใหม่มา สิ่งเก่าก็พลันสูญหายไป จะเรียกว่าชีวิตนี้มีความพร่องเป็นนิจก็ได้ ใครที่ต้องการความสมบูรณ์พร้อมจากชีวิตก็เตรียมใจพบกับความผิดหวังได้เลย
แทนที่จะัมัวไขว่คว้าหาสิ่งที่ยังไม่มี ไม่ดีกว่าหรือหากเราจะหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรามีอยู่กับตัว อย่าลืมว่าสิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้ สักวันหนึ่งก็จะสูญหายหรือกลายเป็นของหายากขึ้นมา ถ้าปล่อยปละละเลยสิ่งนั้น วันหน้าก็จะเสียใจเมื่อสิ่งนั้นพลัดพรากไปจากเรา
ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่มักไม่ตระหนักว่า สิ่งที่ตนมีอยู่ตอนนี้ วันหน้าจะกลายเป็นอดีต เรามักทึกทักเอาเองว่าอะไรที่เรามีนั้นจะอยู่กับเราไปตลอด ดังนั้นจึงไม่ค่อยเห็นคุณค่า หาไม่ก็ใ้ช้ไปอย่างฟุ่มเฟือย เช่น เด็กและวัยรุ่นมักจะใช้เวลาที่มีอยู่มากมายไปอย่างเปล่าประโยชน์ พอโตเป็นผู้ใหญ่ถึงค่อยมานึกเสียดายเวลาที่ผลาญไปในวัยเด็ก ส่วนผู้ใหญ่เองก็กลับไม่ค่อยถนอมสุขภาพ ใช้ร่างกายอย่างไม่บันยะบันยัง เอาแต่ทำมาหากินจนไม่ได้พักผ่อน ยิ่งเครียดก็ยิ่งหันเข้าหาอบายมุข กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเที่ยวกลางคืน กว่าจะรู้ตัวว่า ทำอะไรกับร่างกายของตนเองก็ต่อเมื่อถูกโรคนานาชนิดเล่นงาน
เมื่อถึงวัยชรา หลายคนย่อมนึกเสียใจที่ก่อนหน้านั้นไม่รู้จักถนอมรักษาสุขภาพ ถึงตอนนี้มีเวลามากมาย แต่ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว จึงปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ นั่งเหม่อลอยหวนคิดถึงแต่อดีต หรือปล่อยใจไปกับความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง แต่เขาอาจจะลืมไปว่า เวลาที่มีอยู่มากมายในวันนี้ พรุ่งนี้ อาจไม่เหลือแม้แต่นาทีเดียวเพราะความตายมาพราก ถึงตอนนั้นอาจนึกเสียดายที่ไม่ได้ทำหลายอย่างที่ควรทำ โดยเฉพาะการเตรียมใจรับมือกับความตาย
สิ่งที่เรามีมากมายจนล้นเหลือเรามักไม่เห็นคุณค่า ต่อเมื่อสูญเสียสิ่งนั้นไปเราจึงจะซาบซึ้งในคุณค่าของสิ่งนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยใด พึงระลึกไว้เสมอว่า ทั้งหมดที่คุณมีอยู่ตอนนี้จะไม่อยู่กับคุณไปตลอด ดังนั้นจึงควรรู้จักชื่นชมสิ่งเหล่านี้และใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ แม้จะมีไม่ครบถ้วนสมบูรณ์พร้อม แต่หากใช้ให้เป็นก็สามารถสร้างสุขแก่เราได้ ถึงจะมีเวลาและสุขภาพ แต่ไม่ค่อยมีเงิน เราก็ยังสามารถใช้เวลาและกำลังวังชาให้เกิดประโยชน์สุขแก่ตัวเองและผู้อื่นได้ เช่น ศึกษาหาความรู้และช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น มีเงิน มีสุขภาพ แต่ไม่มีเวลา ก็ยังมีความสุขได้ หากรู้จักใช้เงินและสุขภาพอย่างถูกต้อง เช่น ใช้เลี้ยงตนและดูแลผู้อื่นให้ผาสุก ในทำนองเดียวกัน ถึงจะมีเวลาและเงิน แต่สุขภาพไม่ค่อยดี ก็ใช่ว่าชีวิตจะไม่มีความสุข หากรู้จักใช้เวลาที่มีนั้นในการฝึกฝนจิตจนเกิดสติและปัญญา
ความสุข และ ความดี นั้น สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเวลาสุขภาพ และเงินทองครบทั้งสามประการ แม้มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หากรู้จักใช้ก็บันดาลให้เกิดความสุขและความดีได้ จะว่าไปแล้ว แม้ชีวิตจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๓ ประการนี้ แต่หากมีความสุขและความดีแล้ว ชีวิตก็ย่อมเต็มอิ่ม จิตใจจะไม่รู้สึกพร่องเลย
ใช้ชีวิตโดยตระหนักว่า ทุกอย่างที่มีนั้นจะต้องจากเราไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง นอกจากจะทำให้เราไม่ประมาทกับชีวิตแล้ว ยังช่วยให้เรามีความสุขได้ง่ายขึ้น
ขอเพียงแค่รู้จักชื่นชมสิ่งที่มี จิตใจก็เป็นสุข
..............................................................................................................................................................................
"เงินทอง" "เวลา" และ "สุขภาพ"
ฤาจักสู้ "ความสุข" และ "ความดี"
เคยคิดกันบ้างไหมหนอ ?
บุญรักษา คนดีทุกท่านครับ ;)...
...............................................................................................................................................................................
ขอบคุณหนังสือดี ๆ
พระไพศาล วิสาโล. สุขกับชีวิต เป็นมิตรกับความตาย. กรุงเทพฯ : อมรินทร์ธรระ, ๒๕๕๖.
จริงแท้ ตอนนี้เริ่มซ่อมสุขภาพแล้วค่ะอาจารย์
ขอบคุณมากค่ะ
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆเพื่อเตือนตน
จะทำอย่างไรจึงจะสุขได้ในความพร่อง
เอาความสุขเติมใจไม่ให้พร่อง
เติมสติ ไตร่ตรอง มองถ้วนถี่
สอนตน สอนใจ ให้ทำดี
ทุกสิ่งมี ไม่จีรัง ยั่งยืนเลย
สวัสดีค่ะอาจารย์ ...สุขกับชีวิต เป็นมิตรกับความตาย...ทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะ ทุกสถานที่และทุกเวลานะคะ...ขอบคุณค่ะ
ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่มักไม่ตระหนักว่า สิ่งที่ตนมีอยู่ตอนนี้ วันหน้าจะกลายเป็นอดีต เรามักทึกทักเอาเองว่าอะไรที่เรามีนั้นจะอยู่กับเราไปตลอด ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะอาจารย์
หนังสือก็ดีมากอยู่แล้ว ยิ่งอาจารย์ที่ดีมาแนะนำ เห็นทีต้องหามาอ่านแล้วละคะ
อ่านแล้ว ได้รับข้อคิดดีๆ มากมาย...ค่ะ
ยุ้ยเป็นเด็ก เป็นวัยรุ้น แต่ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ เพราะเศรษฐกิจการเงินบังคับ วันข้างหน้าถ้าประสบความสำเร็จ มีเงินอาจจะเสียใจ ว่าน่าจะใช้วัยเด็ก วัยรุ่น ให้คุ้มค่า หรือ....ไม่......?
ไม่เป็นไรครับ น้องยุ้ย สาวน้อยใจดี นู๋ยุ้ยแก้มตุ่ย ;).....
เพียงมีสติทุกลมหายใจก็พอครับ