บ่ายแก่ของเมื่อวาน...ผมกะจะนั่งทำงาน เพื่อสะสางงานเอกสารที่คั่งค้างให้ระบายออกไปมากที่สุด
เพราะช่วงเช้าผมได้ออกหมู่บ้าน...จนเกิดอาการขาดน้ำ...แสบหน้า...เพราะอากาศร้อนมากจริงๆ
เมื่องานถาโถมเข้ามารอบด้าน ทั้งงานตนเอง...งานผู้อื่นที่ให้ผมช่วย...และงานวิจัยที่เก็บข้อมูลภาคสนามแล้ว ที่ต้องนั่งเรียบเรียง และวิเคราะห์ข้อมูลในยามดึกๆ...
และพรุ่งนี้...ก็เป็นวันเปิดเทอมใหม่ของลูกชาย...ผมอยากไปส่งลูกวันแรกของการเรียน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้เป็นคลินิกโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยต้องมารอหมอ ตั้งแต่ตีสี่....รอผมเพื่อเจาะเลือด
(ความทุกข์ของผมในช่วงนี้) คือ งานที่ถาโถม กับความรู้สึกความเป็นพ่อที่แย่...
แต่เมื่อเวลาบ่ายแก่ๆ ...พี่นักศึกษาปริญญาโท...ที่มาลงเก็บงานวิทยานิพนธ์ภาคสนามในพื้นที่
ขอให้ลงหมู่บ้านช่วย...เพราะไม่คุ้นเคยกับกลุ่มเป้าหมาย....และไม่มั่นใจว่า จะเดินทางไปถูกกับกรอบแนวคิดวิจัยหรือไม่?
ตอนแรกผมว่า จะปฏิเสธเพราะพี่นักศึกษาไม่ได้บอกผมล่วงหน้า...และงานเอกสารของผมไม่เสร็จเลย
แต่พี่เล่าว่า...พี่ต้องส่งงานอาจารย์แล้ว...แต่เวลาของพี่หายไปกับการดูแลแม่ที่ชรามาก...พี่ชายที่กำลังป่วยด้วยมะเร็ง...และรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างถนน...จอดซื้อของ แต่กลับถูกรถพ่วงมาเฉียด...จับตัวไม่ได้...หมดค่าซ่อมรถครึ่งหมื่น
ผมก็เลยใจอ่อน...กับความทุกข์ของพี่นักศึกษา
(และผมก็มีความทุกข์เพิ่มขึ้น)...กับความทุกข์ในความทุกข์ของพี่นักศึกษา
ผมและพี่นักศึกษา...ลงไปเยี่ยมบ้าน “ป้าลำดวน”
ครอบครัวมีทั้งหมด 7 คน และใน 3 คน รวมกับป้าลำดวน ที่อายุ 55 ปี เป็นพิการ...(ผมรับความทุกข์มาอีกข้อ)...
ป้าดวน...เป็นแม่ของลูก 4 คน ส่งเสียลูกๆ ให้เรียนจบอย่างน้อยมอหก...ด้วยอาชีพแม่ค้าขายอาหารถุงในหมู่บ้าน...(ผมเริ่มมีความสุขในใจขึ้นมาบ้าง)
ด้วยความขยัน เพราะสามีตายไปนานแล้ว ป้าดวนดูแลแม่ที่พิการตามองไม่เห็น และพี่ชายที่พิการขาข้างหนึ่งเดินไม่ได้
ตนเองต้องทำงานคนเดียว...เลี้ยงทั้ง 7 ชีวิต
ป้าดวนเกิดอุบัติเหตุตกรถ และรถชน ถึง 4 ครั้ง
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เดินไม่ได้ และปัสสาวะด้วยตนเองไม่ได้...
รักษาไปรักษามา...รู้ว่าเป็น “กระเพาะปัสสาวะพิการ” และผู้ป่วยพิการด้านการเคลื่อนไหว
นับแต่นั้นมา ป้าดวนต้องไปโรงพยาบาลที่ห่างจากบ้านร้อยกิโลเมตรทุกเดือน...ทุกหกเดือนต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อตรวจระบบทุกอย่างเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์อย่างน้อย
ป้าดวนเดินไม่คล่อง แต่สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางไปโรงพยาบาลเองด้วยตนเองโดยลำพัง
ถ้านอนโรงพยาบาล...ขอให้ลูกไปแค่วันแรก...เพราะต้องเซนชื่อยินยอมรักษา
และก็ให้ลูกกลับมาบ้าน เพื่อทำงาน...ไม่ต้องเสียเวลากับป้าดวน...
ทุกๆ วัน...ป้าดวน...ต้องสวนปัสสาวะด้วยตนเอง...โดยการสอดท่อพลาสติกเข้าในรูปัสสาวะ
ทำทุกๆ 4 ชั่วโมง และต้องทำความสะอาดเครื่องมือ...แช่น้ำยาเครื่องมือ...
จนพวกเราอดห่วงการติดเชื้อไม่ได้...แต่ป้าดวลบอกว่า...ไม่เคยติดเชื้อเลย
ต่างจากที่เคยคาสายสวนปัสสาวะไว้กับตัวตลอดเวลา
ผมถามว่า...ทุกข์ทรมานไหม...กับชีวิตและความเจ็บป่วย?
ป้าดวลยิ้มและตอบอย่างไม่รีรอว่า “ไม่เคยท้อ พยายามทำอะไรด้วยตนเอง รบกวนคนอื่นน้อยที่สุด
ไม่อยากเป็นภาระของคนอื่น...ทำวันนี้ให้ดีที่สุด...มีความสุขที่ได้อยู่กับแม่...พี่ และลูกๆ
ความสุขคือเห็นทุคนในบ้านมีความสุข...”
ผมกับพี่นักศึกษาลาป้าดวลกลับอนามัย
เมื่อนั่งบนรถ...ผมยิ้มให้พี่...พี่ยิ้มให้ผม
และเราต่างบอกความรู้สึกจากชีวิตป้าดวลว่า
“ชีวิตของเราขี้ปะติ๋วเลย เมื่อเทียบกับชีวิตของป้าดวล”
คุณหมอ ไม่ได้เป็นพ่อที่แย่สักหน่อยครับ
แต่เป็นพ่อที่น้อง ทิมดาบ ควรภูมิใจในความเสียสละต่อส่วนรวม และชุมชน...
ขอชื่นชมคุณหมอ
และเป็นกำลังใจให้ครับ
มาชื่นชมค่ะ เพราะคุณทิมดาบได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว
สู้ สู้ ครับ ;)...
ค่ะ. ทุกข์ของเราขี้ปะติ๋วเลย เมื่อเทียบกับของป้าลำดวน.
เป็นกำลังใจให้คุณหมอทิมดาบค่ะ
เข้าทำนอง
ชื่นชมป้าลำดวนครับ
...มาให้กำลังใจค่ะ
ขอบคุณมากครับไม่มีคำใดเหมาะมากกว่าคำนี้ "แพทย์หัวใจมนุษย์" อาจารย์ประเวศพูดไว้...
เป็นสิ่งที่ kunrapee จำได้มั่น และแนะนำผู้อื่นเสมอค่ะ
ให้มองคนที่ด้อยกว่าเรา แล้วเราจะรู้สึกดีขึ้นแถมมีพลังที่จะทำงานหรืออยู่ต่อไป
อ่านบันทึกนี้ แล้วพูดไม่ออก
ป้าดวนเก่ง และ เข้มแข็งและอดทนมากจริง ๆ ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ป้านะคะ สู้ สู้ ค่ะ
ทุกครั้งที่เข้ามา..ไม่เคยผิดหวังกลับไป
..
ขอเป็นกำลังใจให้เสมอ นะครับทิบดาบ
ตอนนี้จะไม่บ่นที่ต้องปลุกลูกทุกเช้าแล้วค่ะ อย่างน้อยก็มีโอกาสไปส่งลูก เป็นกำลังให้ทั้งคุณหมอ พี่ป.โท และป้าดวนด้วยค่ะ
ลูกชายต้องภาคภูมิใจในตัวคุณพ่อแน่นอนค่ะ ทุกบันทึกของคุณหมอเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่วันหนึ่งลูกชายจะได้เข้ามาอ่าน และรู้สึกยิ่งกว่าที่ผู้อ่านทุกคนรู้สึกในตัวคุณหมอค่ะ ยิ่งได้เห็นคุณป้าผู้สู้ชีวิตเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ป่วยหลายต่อหลายคนแล้ว คุ้มค่ามากค่ะที่คุณพ่อทำเพื่อความดีงาม
อ่านทีไรก็มีความสุขคะขอบคุณน่ะค่ะ ทุกข์ของเราติ๊ดเดียวเองจริงๆด้วย
ให้กำลังใจนะคะ ขอแชร์เรื่องดีๆนี้นะคะ
มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ชีวิตที่น่าสรรเสริญ...เป็นชีวิตที่ไม่หวั่นไหวในยามขึ้นหรือลง...เมตตาทำให้เกิดจิตที่มีคุณภาพ....สอนลูกชายและให้กำลังใจเขาในต้นแบบพ่อแม่ที่สามารถเรียกศรัทธาอย่างเป็นธรรมชาติ...ไม่บังคับ คาดว่าสิ่งดีๆน่าจะติดตามมา
ป้าดวน ผู้ป่วยเพียงกาย แต่กำลังใจ ยอดเยี่ยมเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณหมออีกคนนะคะ