ตำนาน ขนม ครก


                                                                     ตำนาน ขนม ครก

                                                           นายอานนท์ ภาคมาลี (หมอแดง)

ไอ้กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบมีความรักกับ หนูแป้ง สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกัน

ไอ้กะทิก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงิน เพื่อมาสู่ขอลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธ แถมยังโดนผู้ใหญ่บ้านส่งชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่ไอ้กะทิก็ไม่ว่าอะไร มันพาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน นอนหยอดน้ำข้าวต้มซะหลายวัน แต่ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาสู่ขอหนูแป้งใหม่จนกว่าผู้ใหญ่บ้านจะใจอ่อน

แต่แล้วความฝันของเจ้ากะทิ ก็พังพินาศเมื่อผู้ใหญ่บ้านยกหนูแป้งลูกสาวคนสวยให้แต่งงานกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้กะทิ รู้ข่าวจึงรีบกระเสือกกระสนหมายจะยับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็วางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุดหลุมพรางดักรอไว้ แต่หนูแป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนีออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไม่ให้ตกหลุมพราง

คืนนั้น เป็นคืนเดือนแรม หนูแป้งวิ่งฝ่าความมืดออกมาเพื่อดักหน้าไอ้กะทิ ไอ้กะทิ เห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่วิ่งเข้าหากัน ฉับพลัน…ร่างขอหนูแป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่บ้าน ผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าต่อตา ไอ้กะทิ อารามตกใจ ไอ้กะทิ ก็รีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือหนูแป้ง อารามดีใจสมุนชายฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้านแอบสุ่มอยู่ ก็รีบโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไปเพราะคิดว่าในหลุมมีเพียง ไอ้กะทิ ผู้เดียว

รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อดูผลงาน แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ ไอ้กะทิ ประคองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวคนเดียวของตน ทั้งคู่นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนน้ำตาผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า…พ่อไม่น่าคิดทำลายความรักของลูกเลย

ตั้งแต่นั้นมาอนุสรณ์แห่งความรัก ที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม 6 ค่ำ เดือน 6 ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของ ไอ้กะทิ กับ หนูแป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะ จากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน เป็นสัญลักษณ์ จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก หรือขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อว่า ขนม ค-ร-ก นั่นเอง

 ขนมครก ขนมหวานไทยอร่อยๆ นิยมรับประทานกันมาช้านาน รสชาติ หวาน มัน เค็ม อร่อยๆ กำลังพอดีๆ โรยหน้านิดๆ ด้วย ต้นหอมซอย เผือก ข้าวโพด ฯลฯ อร่อยได้ใจทีเดียวเชียว

ชีวิตเด็กบ้านนอกนี่ ภาพคุ้นๆ สายตาไม่เคยลืมก็คือ บรรดาญาติๆ ผู้ใหญ่ หยอดข้าวจ้าวแช่น้ำกับหางกะทิลงไปโม่ด้วยหินโม่แป้งทรงกระบอกที่วางซ้อนกัน 2 อัน อีกคนก็ออกแรงค่อยๆ หมุนเพื่อให้ได้แป้งสำหรับสำหรับทำขนมครกทานกัน กลิ่น หอมๆ รสชาติ หวาน มัน เค็ม กลมกล่อมพอดีๆ โชยมากจากเตาขนมครก เติมเต็มด้วยความกรอบนิดๆ นี่ทำให้ขนมครกเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้รับประทานทีเดียว

เวลาผันเปลี่ยนอะไรๆ ช่างดูสะดวกช่างดูสบาย เช้าๆ อยากจะหาซื้อขนมครกอร่อยๆ รับประทานก็ห่างจากบ้านไม่กี่ก้าว หรืออยากจะละเลงฝีมือเอง แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียวก็มีพร้อมสรรพไม่ต้องเสียเวลาโม่ หรือจะใช้แป้งขนมครกสำเร็จรูปก็หาง่ายๆ คลุกเคล้าบรรเลงกับกะทิหน่อยก็พร้อมแล้วสำหรับการการทำ ขนมครก อร่อยๆ สำหรับรับประทานกัน ว่าไหม?

ส่วนผสมตัวแป้งขนมครก

แป้งข้าวเจ้า 400 กรัม แป้งข้าวเหนียว 50 กรัม กะทิ 3 ถ้วยตวง น้ำร้อนจัด 4 ถ้วยตวง

ส่วนผสมหน้าขนมครก หัวกะทิ 3 ถ้วยตวงน้ำตาลทราย 2 ถ้วยเกลือ 2 ช้อนชา

เครื่องโรยหน้าขนมครก ต้มหอมซอยเผือกต้มสุก หั่นชิ้นเล็กๆเม็ดข้าวโพดต้มสุกขนมฝอยทอง หั่นเป็นชิ้นเล็กอื่นๆ ตามความชอบ

อุปกรณ์เพิ่มเติม เตาขนมครก ทำความล้างด้วยน้ำให้สะอาด ผึ่งไว้ให้แห้ง

ขั้นตอนการเตรียมแป้งขนมครก ผสม แป้งข้าวจ้าว และแป้งข้าวเหนียว ในถ้วยผสม ให้เข้ากันดี

ค่อยตะล่มคนด้วยตะกร้อผสม พร้อมๆ กับค่อยใส่ กะทิ ลงไปให้หมด ค่อยๆ ใส่น้ำร้อนจัดๆ ลงไป พร้อมๆ กับคนด้วยตะกร้อผสม ตะล่อมคนจนเข้ากันดี พักไว้

ขั้นตอนการเตรียมหน้ากะทิขนมครก ผสม น้ำตาลทราย และเกลือ ในอ่างผสมค่อยๆ ตะล่อมคนด้วยตะกร้อผสม พร้อมๆ กับค่อยๆ ริน หัวกะทิ ใส่ลงไปให้หมดค่อยๆ ตะล่อมคนจนส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้

ขั้นตอนวิธีทำขนมครกใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชทาหน้าเตาขนมครกให้ทั่ว ตั้งไฟร้อนปานกลาง รอจนเตาขนมครกร้อนได้ที่ (เริ่มมีไอขึ้น) ตีไข่ไก่ 2 ใบให้ฟูเทราดบางๆ ไปให้ทั่วหน้า รอจนไข่ไก่ไหม้ดำให้ปิดไฟ รอจนเตาขนมครกเริ่มเย็นให้ใช้ผ้าเช็ดไข่ไก่ออกให้สะอาดโดยไม่ต้องล้างน้ำ (วิธีนี้จะช่วยให้ขนมครกแคะหลุดร่อนง่ายไม่ติดเตา)

ใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชทาให้ทั่วหน้าเตาขนมครก ตั้งไฟร้อนปานกลางค่อนข้างอ่อน  รอจนเตาขนมครกร้อนได้ที่ (สังเกตดูเริ่มมีไอขึ้น)  ค่อยๆ หยอดแป้งขนมครก ลงไปแต่หละหลุม ให้เหลือขอบหลุมเล็กน้อยสำหรับเหยาะหน้าขนมครก เมื่อแป้งขนมครกเริ่มสุกเล็กน้อย ให้หยอดหน้ากะทิขนมครกลงไปกลางหลุมอย่าให้เกินขอบหลุม ปิดฝาเตาขนมครกซักครู่

เหยาะ เครื่องหน้าขนมครก (ต้นหอมซอย เผือก ข้าวโพด ฝอยทอง ) ในขณะที่ขนมยังไม่สุก แป้งขนมครกจะได้ยึดตัวหน้าขนมครกไว้ ปิดฝา เมื่อริมขอบขนมครกเริ่มสุกขอบเริ่มเป็นสีน้ำตาล ใช้ช้อนแคะขนมครกออกมาจากหลุม จัดใส่ภาชนะเสิร์ฟ พร้อมเสิร์ฟ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ ขนมครก หวาน มัน กรอบ พร้อมสำหรับรับประทานแล้ว ดูๆ แล้วไม่ยากเลย


หมายเลขบันทึก: 536123เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2013 06:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2013 06:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

คล้าย ๆ ตำนานปลาท่องโก๋นะจ๊ะ


ขอบคุณมากค่ะ ...คุณหมอแดง... สูตรขนมครกที่มีตำนานเล่าขานนะคะ...

ขนมครกนอกจากจะอร่อย ยังมีตำนานที่สวยงาม น่าจดจำด้วยค่ะ

-สวัสดีครับ..

-ขอบคุณสำหรับตำนานขนมครก..

-เพิ่งทราบนะครับว่า"ขนมครก"มีตำนานด้วย..

-ขอบคุณครับ..


ขนมคนรักกัน ต่อไปจะเรียกชื่อนี้ดีกว่าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท