เช้าวันนี้ดูจะเต็มไปด้วย "ปัญหา" และเป็นปัญหาที่ยังไม่มีข้อสรุปลงตัว พวกเราทำได้ได้เพียงแต่ "วิเคราะห์" เท่านั้น ปัญหาจากเหตุการณ์ถึงสองเหตุการณ์ ซึ่งต่างกรรมต่างวาระ.............
รายแรก......
แพทย์โทรมาจะส่งตรวจ Lactic acid ซึ่งใช้หลอด NaF (สำหรับตรวจน้ำตาล) และเจาะไปแล้ว 2 ครั้ง Clotted ทุกครั้ง เลือดเด็กซะด้วย โทรมาปรึกษาห้อง Lab. นายดำเป็นคนรับค่ะ บอกว่าสงสัยหลอด NaF จะมีปัญหาซะแล้ว พี่นุชจึงเป็นคนรับช่วงต่อค่ะ บอกทั้งวิธีการเก็บถูกหรือไม่ใช้หลอดถูกมั๊ย ?Mix ดีรึเปล่า เขาก็บอกทำตามขั้นตอน ผู้เขียนจึงเดาเอาว่าเป็นเพราะหลอด Stock ไว้นานรึเปล่า ? พี่นุชจึงได้แนะนำให้ลองมาเบิกหลอดจากพัสดุและลองเจาะอีกครั้ง ส่งมาใหม่ โชคดีไม่ clotted
แม้ปัญหาถูกแก้ไปแล้ว แต่สาเหตุหรือต้นเหตุที่แท้จริงล่ะ พวกเราลองคุยๆ กันค่ะ รวมทั้งคุณประจิมหัวหน้าโครงการด้วย ซึ่งพบว่าปัญหาการ Clotted ไม่ลดลงสักเท่าไร หรือจะลองซื้อ Tube NaF มาลองเปรียบเทียบใช้ดูบ้าง เพราะขั้นตอนการเตรียมก็ยุ่งยาก เตรียมครั้งละ 5000 - 6000 หลอด ทั้งล้างหลอด เรียงหลอด เติมน้ำยา อบ ปิดจุก ติดสลาก นับ Pack และส่ง (ตอนนี้พี่ดา และพี่นุช ไฟเขียว แต่ อ.ประสิทธิ์ ยังไม่แน่ใจ ) แล้วเราก็ จบ !! ตรงแค่นี้
รายที่สอง (แม้เป็นรายที่สองแต่เกิดก่อน)
เกิดอุบัติการณ์และอุบัติเหตุขึ้นในห้อง Lab. เคมี แต่เช้าเลย......ขวดปัสสาวะที่เก็บ 24 ชั่วโมง เกิดร้าวและแตกขณะพี่ผอบนำไปวัดปริมาตร ผลก็คือพี่อบต้องกลับไปอาบน้ำบ้านพี่ดาใหม่อีกรอบ
เหตุการณ์นี้เคยเกิดกับผู้เขียนแล้วด้วย ผู้เขียนเลยเสนอว่าถ้าเราใช้ขวดที่เป็นพลาสติกล่ะ (จะได้ไม่แตก) แต่พี่โอ๋และพี่นุชแนะนำว่ายังไงผ่านการล้างและอบหลายครั้งก็คงจะกรอบเหมือนกัน อีกทั้ง Toluene ซึ่งเป็นสาร Preservative ก็ยังกัดพลาสติกได้อีก....
แล้วเราจะสามารถใช้สาร preservative ตัวอื่นได้ไหม??? (เพราะสาร Tolune เป็นสารที่ค่อนข้างอันตราย ทั้งต่อระบบหายใจ สัมผัส และมีมลพิษกับสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก)
พี่นุชบอกว่า อาจจะได้ และให้ผู้เขียนลองไปค้นดู.....
ตอนนี้ยังไม่มีเวลาค้นค่ะ แต่ผู้เขียนคลับคล้ายคลับคลาว่า
"Tolune มีคุณสมบัติเป็นเหมือนน้ำมันที่เคลือบผิวชั้นบนของปัสสาวะไม่ให้สัมผัสกับอากาศ"
ผู้เขียนนึกสงสัยขึ้นมาอีกแล้วค่ะ ว่า.....
หากเราจะใช้น้ำมันอื่นๆ เช่นน้ำมันพืช น้ำมันทาตัวเด็ก น้ำมันมะกอก มาเคลือบผิดของปัสสาวะไม่ให้สัมผัสกับอากาศแทนจะได้ไหมหนอ ??
แค่ลองคิดดูเล่น ๆ แต่คิดดัง ๆ ค่ะ
แต่นายดำเสนอให้ลองถามพี่อนุชาดูค่ะ ได้คำตอบค่ะ คือในน้ำมันพืช ก็อาจจะมีสารอาหารทำให้แบคทีเรียเติบโตได้เช่นกัน
แต่ผู้เขียนก็ยังนึกสงสัยอยู่เช่นเดิมค่ะ เป็นต้นว่า....
แล้วน้ำมันทาตัวเด็กล่ะ หรือน้ำมันมะกอกล่ะ.....
แล้วจะต่างกันอย่างมีนัยสำคัญรึเปล่า ?????หนอ!!!!
พี่ Mito ค๊ะ
ปัญหาแรก ตอนนี้เพิ่งมีการเพิ่ม lot No. ไปเมื่อการเตรียมครั้งล่าสุดที่ผ่านแล้วค่ะ ให้ชื่อว่า A, B, ...ไปเรื่อย ๆ ค่ะ เนื่องจากเนื้อที่ของสติ๊กเกอร์มีจำกัด จึงเขียนได้แค่นั้นค่ะ แล้วจึงไปบันทึกในสมุดว่า lot A เตรียมวันไหน เมื่อไร ??
ปัญหาที่สอง ขอบคุณพี่ไมโตฯ ที่ชี้ช่องทางเลือกให้อีกหนึ่งทางค่ะ ผู้เขียนมีความคิดขึ้นมาว่า ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะการเกษตร หรืออื่น ๆพยายามใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด ทางแพทย์หันมาใช้สมุนไพร เราชาว Lab. ก็น่าจะหาอย่างอื่นทดแทนได้บ้างมั๊ย ???