จากการ line ข้ามทวีป กับ พี่สาว ทุกวัน จึงได้เคส ใหม่ มาทำการศึกษา พัฒนาความรู้ ด้านจิตวิทยาของเรา อีกแล้ว
@@ เรื่องมีอยู่ว่า พี่น้องคู่หนึ่ง ทะเลาะกัน อย่างรุนแรง แทบตัดขาดกัน เพราะ ความเครียดที่เกิดจาก เจ็บป่วยของแม่ -- เค้าทะเลาะกันข้ามทวีปเลยนะ -- เรื่องนี้มีประเด็นตรงที่ พี่สาวอยู่เมืองไทย ต้องรับภาระในการเดินเรื่อง เพื่อย้ายแม่มารักษาตัวที่กรุงเทพ ที่ตัวเองทำงานอยู่ แต่มีปัญหาว่า ไม่ได้ขอใบส่งตัวอย่างเป็นขั้นตอน โดยระหว่างนั้น น้องสาวอยู่เมืองนอก ก็ขอคำแนะนำเรื่องนี้จากเรา ผ่านทางพี่สาวของเรา เราก็แนะนำ ว่า ให้กลับไปขอใบส่งตัวนั่นแหล่ะ -- เผื่อว่าจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้เยอะเลย -- พี่น้องเค้าก็ไปคุยกันอย่างไงไม่รุ้ สรุปว่า ทะเลาะกัน และโกรธกันไปเลย -- พี่สาวเราเลยไม่รุ้จะทำอย่างไง เลยมาเล่าให้ คนต้นเรื่องอย่างเราฟัง -- อีกครั้ง ที่วิญญาณ นักจิต เข้าสิง รัชนี อีกแล้ว ครับท่าน -- เราจึงขอเบอร์ โทรศัพท์ พี่สาวของน้อง มาเพื่อขอคุยด้วยหน่อย ว่าพอจะ ช่วยเหลือ แนะนำอย่างไร ได้บ้าง
## หลังจากที่โทรไป แนะนำ ตัว ว่าเราเป็นใคร ยังไง แล้ว ก็ฟัง และ กล่าวชื่นชม เค้าเป็นระยะ ๆ -- เค้ากลับไปขอใบส่งตัวจริงๆ และสามารถใช้สิทธิค่ารักษาได้ เราก็เป็นคนรับฟังที่ดี และสนับสนุน ให้กำลังใจเค้า ที่ได้ดูแล แม่ที่ไม่สบาย เป็นอย่างดี ฟังน้ำเสียงเค้าผ่อนคลาย สบายใจ และ น่าจะหายโกรธ น้องสาวแล้ว -- ก่อนวางสายเราก็ให้เค้าพาแม่ น้อมนำธรรมะ เข้ามาช่วย บรรเทาความไม่สบายใจ ด้วย หนังสือ ธรรมมะ ของท่านพุทธทาส ว่าด้วยเรื่อง การเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นสิ่งที่เข้ามาเตือนให้เรามีสติ มากยิ่งขึ้น
-- ในเคสนี้ พบว่า น่าจะอยู่ในระยะ ที่ขาดข้อมูลในเรื่องการใช้สิทธิ แสวงหาหนทางในการใช้สิทธิที่ควรได้ แต่อาจจะรับผิดชอบในการเดินเรื่องดังกล่าวคนเดียว และคงเครียด พอเจอเรื่องมากระทบเพียงเล็กน้อย (น้องพูดไม่เข้าหู หรือ น้องให้ข้อมูล (สั่ง)ทำโน่น นี่ นั่น มากไป )จึงอาจเกิดอาการปรี๊ดแตก เจตนาดีทั้งคู่ คือห่วงเรื่องค่ารักษา และรักแม่ -- ดังนั้น ถ้าเจอแบบนี้ควรประเมินสถานการณ์ก่อน ว่าเป็นอย่างไร และพอจะมีช่องทางไหนในการช่วยให้ใช้สิทธิค่ารักษาได้บ้าง พอเรื่องนี้ ผ่านฉลุยก็เหมือนยกปัญหา ออกไปเกือบ 90% แล้ว พอด้านการเงินหมดไป โลกอื่นๆืก็ดูสดใส ขึ้นค่ะ
### หลังทำหน้าที่แล้ว เราไม่ค่อยชอบเล่ามากนัก เลยส่ง ไฟล์เสียงการสนทนา ไปให้ฟัง --เราสองพี่น้อง จึงลงความเห็นว่า สถานการณ์ น่าจะดีขึ้นแล้ว อยากให้น้องสาว ลอง line ข้ามทวีป ไปหาพี่สาวเค้า ใหม่อีกครั้ง เพราะคนเป็น caregiver มักจะเครียดมากกกกกก กว่า ทุกคน ดังนั้น เราควรให้กำลังใจคน ๆ นี้ มากๆ เพื่อเค้าจะได้ยืนอยู่ ข้างๆ คนไข้ ที่เค้ารัก อย่าง เต็มกำลัง ความสามรถ
--- ปฏิบัติการ ด้านจิตวิทยา สำหรับ ครั้งนี้ ผ่านไปอย่าง น่าชื่นชม เพราะอย่างน้อย เราก็ได้ความสัมพันธ์ ของพี่น้องคู่นั้น กลับคืนมา -- พยายามให้ทุกคน ใช้สติในการพูดคุนกัน ให้มากกว่า การใช้อารมณ์ @@ ไม่งั้น นอกจากทุกข์เพราะห่วงแม่ที่เจ็บป่วยแล้ว ยังจะมาทุกข์เพราะทะเลาะกัน ด้วยความห่วงของพี่น้อง ที่ต่างคน ต่างคิด ว่า ถ้าแกคิดว่าทำดีกว่าชั้น ก็กลับมาทำเองไปเลย น่าน... คนเราก็เป็นซะอย่างงี้
^^^ ทุกวันนี้ คนเรารักกันน้อยลง เพราะ พูดคุยกันน้อยลง -- ลองโหลด app ในสมาร์ท โฟน เช่น line tango มาลองใช้ดูซิ แล้วคุณจะรู้ว่า -- ไกลแค่ไหน ก็เหมือนใกล้ ทุกที ทุกที่ ทุกเวลา ที่คิดถึง --- แต่ถ้าคุยกันแล้วยังไม่เข้าใจ ลอง ให้เวลา เป็นคนช่วยเราสักพัก ค่อยกลับไปคุยใหม่อีกที แต่ถ้าถึงที่สุดแล้วไม่ไหว จะขอตัวช่วยก็ไม่น่าเกลียดนะ -- นักจิต (อาสา) อย่างเรา ยินดี บริการค่ะ
ดิฉันมองเห็นความสามัคคี ความอบอุ่น ระหว่างความขัดแย้ง โดยมีความรักอยู่ตรงกลางค่ะ
ขอชื่นชมในบทบาทการช่วยเหลือและสานสัมพันธ์ผู้ดูแลทั้งสองค่ะ ทางทีมงานโครงการจัดการความรู้สุขภาวะระยะท้าย Pal2know ขออนุญาตินำบันทึกนี้ ไปรวบรวมไว้ ที่นี่ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้หัวข้อ "แลดู ผู้ดูแล" นะคะ
ขออนุญาติสรุปเป็นประเด็นเกี่ยวกับผู้ดูแล แบบนี้พอจะได้มั้ยคะ มีอะไรควรปรับหรือเพิ่มเติมหรือไม่คะ จะขออนุญาตินำไปสังเคราะห์บทเรียนค่ะ
ขอบคุณค่ะ