ผมเป็นคนโชคดีที่มักจะมีผู้ใหญ่คอยให้ความเมตตาอยู่เสมอ แม้บางครั้งจะทำผิดอย่างมากจนไม่น่าให้อภัยก็มักจะได้รับการช่วยเหลือและให้อภัยจากผู้ใหญ่เสมอเช่นกัน
KM Workshop เพื่อพัฒนางานวิจัยและคุณภาพการศึกษา ครั้งที่ 1 (2 – 3 ต.ค. 49) สำเร็จลุล่วงด้วยดีอย่างเกินความคาดหมาย (อีกแล้ว)
ครั้งนี้เป็นแบบที่ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ (ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช) เขียนไว้ใน “KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : 66 ทฤษฎีขนมเปียกปูน” ที่ว่าเป็น “สุดยอดของ KM คือไม่ทำ KM เพราะ KM ได้เข้าไปเนียนอยู่ในเนื้องานแล้ว เป็น KM inside”
ผมอยากจะเขียนเล่าอะไรต่ออะไรมากมายแต่ติดด้วยมีภารกิจสำคัญมาก ๆ จำนวนมากมาเป็นอุปสรรคจึงขออภัยทุกท่านที่คอยติดตามความก้าวหน้าเรื่องนี้ ณ ที่นี้ด้วย
จึงอยากชวนเชิญให้ทุกท่านที่เข้าร่วมงานได้มาแสดงความคิดเห็นกันคนละนิดคนละหน่อยครับ ก่อนที่ความรู้สึกดี ๆ จะค่อย ๆ ระเหยหมดไปกับกาลเวลา
มีอย่างหนึ่งที่ผมไม่เขียนไม่ได้คือ ต้องเขียนขอกราบขอบพระคุณทุกท่านทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานจนทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผมขอกราบขอบพระคุณเป็นพิเศษคือ ท่านนายกสภามหาวิทยาลัย (ศ. เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ) ที่กรุณามาอยู่กับเราตั้งแต่วันก่อนวันงานที่ทรัพย์ไพรวัลย์ฯ และอยู่ร่วมงานตลอดเวลาทุกนาทีจนกระทั่งเสร็จงาน
ก่อนกลับท่านยังเมตตา เห็นผมออกอาการไม่สู้จะดีนักจึงได้ซื้อหนังสือที่มีขายบริเวณงานให้ผมหนึ่งเล่มเพื่อปรับปรุงตัวเรื่อง EQ
ก่อนหน้านี้ ผมก็เคยได้รับหนังสือเป็นของขวัญวันปีใหม่จากท่านเช่นกัน ทั้งสองเล่มดังกล่าวหน้าปกเป็นดังแสดงข้างล่างครับ
หน้าปกหนังสือเล่มแรกเป็นของขวัญวันปีใหม่จากท่านคุณหญิงไขศรี
หน้าปกหนังสือเล่มที่สองที่ผมได้รับจากท่านคุณหญิงไขศรี
ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านทุกฝ่ายอีกครั้งครับที่เหนียวแน่นอยู่กับงานตลอดเวลาทุกท่านเช่นกัน ขอขอบคุณจากใจจริงครับ
วิบูลย์ วัฒนาธร