ระหว่างคนดีจริงๆกับคนดีสถาปนา


การทำความดีนั้นไม่ต้องสร้าง ไม่ต้องเตรียมตัว แต่จะต้องอยู่ในจิตสำนึกของคนและจะต้องออกมาจากการกระทำโดยอัตโนมัติเท่านั้น

ผมไม่เคยเชื่อเรื่องคนดีแบบนายกอไก่นางขอไข่เป็นคนดี นายคอควายนางงองูเป็นคนไม่ดีอะไรแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนี้แล้วสำหรับผมคนดีไม่มีอยู่จริง สิ่งที่มีอยู่จริงมีแต่ความดีเท่านั้น

ถ้าอย่างนั้นคนดีไม่มีในโลกนี้ใช่ไหม ผมก็จะตอบว่าไม่ใช่ครับ คนดีมีอยู่ทั่วทั้งโลก มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทุกคนก็เป็นคนดีได้ทั้งนั้น แต่คนดีในมุมมองของผมไม่ใช่อยู่ติดตัวใครผู้ใดผู้หนึ่งไปตลอดกาลแต่ต้องมีมิติของช่วงเวลาเข้ามาด้วยเสมอ

อดีตนายกอไก่ทำความดีให้กับสังคมไว้มากมายตอนนั้นนายกอไก่เป็นคนดี ต่อมานายกอไก่เกิดความโลภในลาภยศไปเข้ากับกบฏล้มล้างการปกครองยึดอำนาจมาเป็นของพวกตนเองเข่นฆ่าประชาชนตอนนี้นายกอไก่ไม่ใช่คนดีแต่เป็นทรราชเป็นคนชั่ว

เมื่อตอนเป็นวัยรุ่นนายขอไข่เป็นคนเกกมะเหรกเกเรตอนนั้นนายขอไข่เป็นคนไม่ดีเป็นภัยของสังคม ต่อมานายขอไข่ได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้นเกิดสำนึกที่ดีเข้ามาทำงานรับใช้สังคมช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเสียสละ ตอนนี้นายขอไข่ไม่ได้เป็นคนชั่วแล้วเพราะในสังคมยกย่องให้เขาเป็นคนดี

คนดีจึงไม่ได้เป็นสิ่งถาวรเหมือนปากกา permanent ที่เขียนชื่อใครไปแล้วจะอยู่ยงคงกระพันไปชั่วกาลนาน ไม่ใช่เรื่องที่จะไปแต่งตั้งให้ใครคนใดแบบลัทธิบูชาคนดีสถาปนา เหมือนอย่างที่สังคมบางส่วนของเรากำลังโฆษณาชวนเชื่อกันอยู่โครมๆอย่างในปัจจุบัน

แต่สิ่งที่อยู่กับคน(ไม่ว่าใครก็ตาม)ในช่วงที่เขาเป็นคนดีเสมอก็คือ "ความดี" ฉะนั้นการที่จะเป็นคนดีตลอดเวลาก็คือเขาจะต้องทำความดีตลอดเวลาด้วยเช่นกัน

เคยเห็นโษณาส่งเสริมให้คนทำความดีของบ้านเรามาเยอะครับ ส่วนใหญ่ผมว่าเลอะเทอะเพราะแม้แต่คนที่เป็น creative ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้จักจิตวิญญาณของการทำความดีแค่ไหนเลย เท่าที่เห็นพวกเขาคิดว่าการทำความดีคือการที่จะต้อง "สร้าง" ขึ้นเท่านั้นโฆษณาที่ออกมาจึงเป็นการที่ต้องไป 1.สร้างความดี 2.ให้กับคนที่อ่อนแอ(ด้อย)กว่า 3.เพื่อรับรางวัลในการเป็นฮีโร่ นี่เป็นสูตรสำเร็จ

..ซึ่งไร้สาระมาก (ไปหาดูเถอะครับโฆษณาแบบนี้มีคนดูซาบซึ้งน้ำหูน้ำตาทะเล็ดกันมากมาย)

ผมว่าการทำความดีนั้นไม่ต้องสร้าง ไม่ต้องเตรียมตัว แต่จะต้องอยู่ในจิตสำนึกของคนและจะต้องออกมาจากการกระทำโดยอัตโนมัติเท่านั้นแหละครับ

ที่เขียนบันทึกเรื่องนี้ก็เพราะไปเจอข่าวจาก Daily Mail วันที่ 5 พ.ค. นี้แล้วสะอึก (ดูกันเองนะครับผมบรรยายไม่ออก) คนไทยเคยคิดว่าคนรัสเซียเป็นตัวร้ายเพราะเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน (อเมริกันฝังหัวไว้อย่างนั้น) ตอนนี้ต้องคิดใหม่แล้วนะครับ จากนั้นก็ภาวนาให้สังคมของเราเต็มไปด้วยคนดีแบบนี้เยอะๆ

..คนดีจริงๆที่ไม่ใช่คนดีสถาปนา !!!

The good Samaritans caught on dashcam: Video tribute to kindhearted Russians - including one who plucked a baby from the middle of a busy road - becomes internet hit

Read more: http://www.dailymail.co.uk/news/article-2319509/Compilation-heartwarming-good-deeds-goes-viral-dashboard-cameras-capture-samaritans-kindness-including-plucking-baby-middle-busy-road.html

Video ที่โพสลง Youtube (ตามข่าว)
http://www.youtube.com/watch?v=TzBInt4zljQ&feature=player_embedded



ขอขอบคุณ

Daily Mail Online
Youtube


หมายเลขบันทึก: 534815เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 21:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มีข้อสังเกต 2-3 ประการนอกจากเรื่องของ "น้ำใจ" ก็คือ

1. กล้อง Video ติดรถยนต์ที่เรียกว่า Dashboard camera ซึ่งชาวรัสเซียติดตั้งไว้สำหรับบันทึกภาพอุบัติเหตุหรืออาชญากรรมรวมถึงการโกงประกันภัยที่อาจเกิดขึ้นนั้น (ไม่รู้ว่าเขามีกฎหมายบังคับหรือเปล่า) มีประโยชน์มาก เพราะนอกจากได้เห็นสิ่งที่กล่าวมาแล้ว ก็จะรวมถึงเหตุการณ์ทั่วไปบริเวณนั้นด้วย ตัวอย่างเช่นภาพอุกกาบาตที่ตกในรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้ส่วนใหญ่ถูกบันทึกได้โดยวิดีโอติดรถยนต์แบบนี้แหละครับ ที่สำคัญภาพที่ได้ยังสามารถนำมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในภาพรวม เพื่อนำไปใช้ในการออกนโยบายป้องกันต่างๆได้อย่างชัดเจนตรงจุดมากว่าที่จะต้องมาจำลองเอาเองอีกด้วย

2. เราเห็นการมีวินัยในการขับรถรวมทั้งการเคร่งครัดต่อกฏจราจรอย่างชัดเจน ที่เห็นได้จากทุกเหตุการณ์และเป็นจุดเด่นที่อยากให้นักขับบ้านเราศึกษาไว้ก็คือการใช้ไฟฉุกเฉิน (Hazard flashers หรือ Emergency warning devices ที่เมื่อเราเปิดแล้วไฟเลี้ยวจะกระพริบพร้อมกันทั้งสี่ดวงหรือที่เราชอบเรียกว่าไฟผ่าหมากนั่นแหละครับ) บ้านเรามักจะใช้เวลาที่ผ่านสี่แยก ไม่เลี้ยวซ้ายหรือขวาแต่ต้องการที่จะตรงไป ซึ่งเป็นการใช้งานที่ผิดนะครับ (ตำรวจจับได้) เพราะสัญญาณไฟชนิดนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อเมื่อจอดรถซึ่งอาจจะมีปัญหาบางอย่างและต้องการให้รถคันอื่นระมัดระวังหรือเป็นการขอความช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ใช่การขอวิ่งตรงไป ในวิดีโอจะเห็นได้ว่ารถทุกคันที่เขาลงจอดลงไปช่วยเหลือจะปฏิบัติเหมือนกันโดยการเปิดไฟฉุกเฉินนี้ทุกครั้งอย่างเคร่งครัด รถที่ตามมาก็จะชะลอความเร็วหรือหยุดให้

ที่สำคัญไม่มีรถคันหลังบีบแตรไล่เลยครับ

บางประเทศรถติดไฟแดงพอไฟเขียวปั๊บก็บีบแตรไล่ทันที....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท