วันที่ 27 มีนาคม 2556 แม่อุ้ม หรือ ครูทองใบ ขันสมบัติ ครูโรงเรียนเทศบาลวัดป่าเรไร จ.ร้อยเอ็ด นำเรื่องเล่าให้ผมอ่าน ..... ขอบคุณแม่อุ้มมากครับ อ่านแล้วมีความสุขมาก เลย อยากนำมาแบ่งปันไว้ในบันทึกนี้
.... วันที่ 1 เมษายน 2556 ผมได้เจอท่านในการประชุมฯ อีกครั้ง เลยขออนุญาตท่านแล้วครับ ......
เรื่องมีอยู่ว่า.....
..........ก่อนการเข้าค่ายลูกเสือ – ยุวกาชาด....ข้าพเจ้าเป็นครูที่ปรึกษาผู้เรียนห้อง ม.๓ ข จำนวน ๓๐ คน มีนางสาวพรนภา มีนาภา (ไอซ์) เป็นหัวหน้าห้อง ข้าพเจ้าได้มอบหมายให้ผู้เรียนจัดกิจกรรมการแสดงร่วมกัน โดยกำหนดว่า ทุกคนต้องได้ร่วมกิจกรรมที่กำหนดขึ้น ซึ่งประกอบด้วย การแสดงรอบกองไฟ การประกอบอาหารและรับประทานอาหารร่วมกัน ครูนัดประชุมเพื่อให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ให้แบ่งหน้าที่กันทำ โดยครูจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกต่าง ๆ และให้คำปรึกษาอยู่ห่างๆ จากการสังเกต หัวหน้าห้องเรียกประชุม เรื่องการประกอบอาหารก่อน มีการโหวดเสียงและขอมติที่ประชุม เมื่อที่ประชุมเห็นชอบ เลขาก็ทำหน้าที่จดบันทึก ครูชื่นชมห่าง ๆ หลังจากนั้นร่วมกันวางแผนการจัดกิจกรรมการแสดงรอบกองไฟ กำหนดเนื้อเรื่อง แบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างมีความสุข ....... ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงเดินไปสังเกตด้านนอก จากนั้นประมาณ ๑๕ นาที ผ่านไป ข้าพเจ้าเห็น นายสมปอง (นามสมมติ) สมาชิกคนหนึ่งในห้องเดินออกจากห้องที่ฝึกซ้อมการแสดง หน้าตาไม่พอใจ มองดูครูแล้วรีบแต่งกายเรียบร้อย เดินหนีไปที่สนาม ..... เมื่อผิดสังเกต ข้าพเจ้าจึงเดินเข้าไปในห้อง ทุกคนหยุดการแสดง นั่งเงียบ ๆ ข้าพเจ้าถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น.....ทราบว่า...นายสมปองไม่พอใจเพื่อนที่สั่งงานและตำหนิเล็ก ๆ น้อย ๆ ....ครูให้ข้อคิด ...ข้อตกลงของเราคือ ทุกคนต้องร่วมมือกันเป็นองค์กรเดียวกัน....ปัญหามันอยู่ที่ไหน?....ทุกคนนิ่ง.....มีผู้เรียนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ก็หนูแค่พูดว่าให้ไปยืนเป็นคนที่สามเพราะตัวเล็ก และเตี้ย” เขาบอกว่า “เรื่องมากไม่แสดงก็ได้ แล้วเดินออกไปทันที” ข้าพเจ้าให้ข้อคิดผู้เรียนกลุ่มที่เป็นผู้นำ “พวกเรามีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้สมปองเข้าใจและให้ความร่วมมือ งานเราจะสำเร็จหรือไม่ ไอซ์ (พรนภา) หัวหน้าห้องลอง ประชุม แล้วหาวิธีการพูดดูนะคะ” ทุกคนรับปากจะทำให้สมาชิกในห้องเป็นหนึ่งเดียวให้ได้โดยเฉพาะสมปอง จากนั้นเหลือเวลาอีก ๒ วัน จะมีกิจกรรมค่ายพักแรม คุณครูจึงขอพบและชมการแสดงเบื้องต้น ลูก ๆ ในห้องบอก “พวกเราพร้อม ๑๐๐ % ที่ร่วมมือกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คุณครูไม่ต้องห่วงรอชมการแสดงของพวกเรานะคะ” ข้าพเจ้าก็ยังหวั่น ๆ จริงหรือที่ทุกคนสามารถร่วมมือกันได้ จึงรอ....จนถึงวันนั้น..วันที่มีกิจกรรมค่ายพักแรมลูกเสือ – ยุวกาชาด ลูก ๆ ห้อง ม.๓ ข : ๑๐๐ % มีหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดงรอบกองไฟ การประกอบอาหาร การรับประทานอาหาร ดูทุกคนมีความสุขมาก ทุกกิจกรรมจะมี นายสมปอง ร่วมด้วยอย่างมีความสุข..... เมื่อสิ้นสุดค่ายพักแรม..คุณครูประเมินความพร้อม ความร่วมมือของห้อง ม.๓ ข ปรากฏว่า ผลการประเมินพฤติกรรม และการแสดง ยอดเยี่ยม มีคุณภาพเหมาะสมกับวัย ทุกคนมีส่วนร่วม ทุกคนมีความสุข มีความสามัคคีในหมู่คณะ....ข้าพเจ้า...จึงถามถึงวิธีการเชิญชวนเพื่อนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทำอย่างไร...ไอซ์ (พรนภา) หัวหน้าห้อง ....บอกครูได้ทันทีว่า..เราน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดกิจกรรม โดยถามถึงปัญหาและสิ่งที่จะตามมาเมื่อเราขาดความสามัคคี นายสมปอง ยังไม่เข้าใจ แต่ทุกครั้งในการฝึกซ้อมก็จะมีนายสมปองร่วมด้วย ดูแลในส่วนที่ตัวเองมีความถนัด และชอบ คือ เครื่องเสียง, เตรียมห้อง เตรียมเปิดเพลงให้กับเพื่อน ๆ อย่างไม่เกี่ยงงอน” ข้าพเจ้าพอใจมาก จึงสรุปให้ลูก ๆ ฟังอีกครั้งว่า “หลักพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อเรารู้จักนำมาปรับใช้ในกิจกรรม หรือการดำเนินชีวิต จะทำให้ทุกคนผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างงดงาม ทุกคนมีคุณค่า งานมีคุณภาพนี่ล่ะคือความสุข”
ผมอ่านแล้ว ขอตั้งข้อสังเกตและตีความ ดังนี้ครับ
ขออนุโมทนาบุญกับครูเพื่อศิษย์ แม่อุ้ม ทองใบ ขันสมบัติ ด้วยครับ
ต๋อย
ไม่มีความเห็น