นานแล้วไม่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของบ้านชานเมือง ระยะนี้อากาศร้อนจัด บางวันมีลมแรง ทำให้ใบไม้ร่วง กิ่งไม้หัก ดอกไม้ต้นไม้หลายชนิดแข่งกันออกดอก และออกผล จึงมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ที่ตามมาหลาย ๆ อย่าง ทั้งเป็นที่ถูกใจและไม่ถูกใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นที่มาของบันทึกนี้......เหรียญย่อมมี สองด้านเสมอ....ต้องเข้าใจ....ต่างคนต่างมุมมอง....ตัวอย่างเช่น...
การปลูกต้นไม้....เมื่อตอนต้นเล็ก ๆ มันก็อยู่ในขอบเขตของบ้านของผู้ปลูก ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งต่อบ้านของตัวเองและบ้านข้างเคียง....แต่เมื่อนานวันเข้า ต้นไม้โตขึ้น ออกดอก ออกผล มีใบร่วงยามแล้ง กิ่งหักยามลมพัดแรง....ซึ่งมุมมองหนึ่งก็เป็นเรื่องธรรมชาติ (ธรรมดา)
การปลูกต้นไม้นั้น ดีมีประโยชน์ ทำให้เกิดสีเขียว ช่วยลดโลกร้อน ลดอากาศเสีย (คาร์บอนไดออกไซด์) เพิ่มอากาศดี (ออกซิเจน) ทำให้เกิดร่มเงา ออกดอกสวยและส่งกลิ่นหอม ให้ความเจริญตาและให้ความสดชื่นแก่เรา ออกผลให้เราหรือสัตว์ต่าง ๆ ทั้งนกและกระรอกได้กินเป็นอาหาร......แต่อีกมุมหนึ่ง...
ต้นไม้ต้นเดียวกัน....มันแผ่กิ่งก้านรุกล้ำเข้าไปยังเขตบ้านนข้างเคียง ใบไม้ ดอกไม้ ผลไม้ ร่วงลงไปสู่พื้นบ้านข้างเคียง สร้างปัญหาให้กับเจ้าของบ้านหรือไม่....แต่ละคนแต่ละบ้านก็มีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน....ขึ้นอยู่กับความคิดและจิตใจของเจ้าของบ้าน......ต้นไม้ต้นเดียวกันเมื่อมันเติบใหญ่ไปเรื่อย ๆ สูงใหญ่มากขึ้น อาจจะมีปัญหาแม้กับบ้านของผู้ปลูกเอง กิ่งก้านไปเบียดหลังคา หลังคาอาจได้รับความเสียหายได้ ยามมีลมพัดแรง ใบร่วงหล่นไปอุดตันรางระบายน้ำ ท่อระบายน้ำ ถ้าไม่กำจัดออก ก็จะมีปัญหาตามมา.....ต้นไม้ที่โตขึ้น ในความเป็นจริง มันไม่ได้โตเฉพาะด้านบนดินหรือเหนือพื้นดินเท่านั้น มันโตขึ้นในด้านใต้ดิน (ระบบราก) ด้วยเช่นเดียวกัน ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกชิดบ้านมากเกินไป รากก็จะสามารถชอนไช สร้างความเสียหายให้แก่พื้นบ้านได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าลองสังเกตุให้ดี ก็จะสามารถมองเห็นได้ บางครั้งรากจะโผล่ขึ้นมาเตือนเราให้ระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป.....ถึงจุดหนึ่งก็คงต้องเลือกว่าจะเอาบ้านหรือเอาต้นไม้ไว้.....หรือจะจัดการอย่างไร....กับสิ่งที่เกิดขึ้น....
“เหรียญมีสองด้านเสมอ...ถ้าระลึกได้ ก็จะไม่มีปัญหา”
ที่บ้าน มีต้นไม้สูงๆ..แม้ได้ร่มเงาเย็นสบาย...ต้องคอยระวังปัญหาเหล่านี้เช่นกันค่ะ....
ขอบคุณพี่ใหญ่มากครับที่ มาให้กำลังและแบ่งปัน