โขงเจียม....โขงสีปูน มูลสีแดง (ไทยลาวเราพี่น้องกัน)


"ข้อยมาหาหมอ" อืมน่าคิด และโชคดีที่ผมเห็นระบบการ refer ส่งต่อระหว่าง 2 ฝั่งที่ปรากฏ คือ ระหว่างฝั่งลาวและไทย (รพ.บุณฑริก)

โขงเจียม....โขงสีปูน มูลสีแดง 


   ผมเป็นปกติเวลาไปไหนมาไหน สิ่งแรกที่ผมต้องไปและไปจะรู้คนแถวนั้นมีวัฒนธรรมอย่างไร คือตลาดครับ เพราะตลาดบอกได้ทั้งการกินอยู่ และบอกได้ว่าคนที่นั่นเป็นแบบไหน เอาง่ายหากไปตลาดในเมืองอุบลจะเจออาหารถึงเยอะมาก แต่มาตลาดโขงเจียมทั้งตลาดมี 2 เจ้า แสดงถึงอะไรครับ คนที่ในเมืองไม่มีเวลาทำกับข้าว แต่คนโขงเจียมมีเวลา และของที่ขายในตลาดโขงเจียมนั้นจึงเป็นของที่ปลูกเองและเน้นอาหารป่า (ไม่ได้ผิดกฏหมายนะ) เมื่อผมไปจึงเจอของดีเข้า 






     ตลาดเช้า โขงเจียมมีมากมายหลายอย่าง วันนี้เจอไข่มดแดง ผักหวาน ดอกกระเจียว และหนังควายจี่ พร้อมกับปลากรายปลาเนื้ออ่อนที่ตัวเบ้อเร้อ กทม. เราอาจเห็นที่สำเร็จรูป แต่นี่ตัวเป็นๆ ชาวบ้านหาเอง ตบท้ายด้วยอาหารเช้าโจ๊กที่ท่านเห็นราคา 30 บาท มีตับ เห็ดหอม ไข่ลวก หมูสับ น้ำชาร้อน 1 แก้ว ชาเย็น 1 แก้ว ปล.ชาฟรี เทียบ กทม ความเป็นอยู่ต่างมาก ราคาตั้ง 50 บาทขั้นต่ำมั้งครับถ้าใส่ขนาดนี้ ลองจินตนาการเทียบราคาโจ๊กสยาม  

     แต่ก็อดหาเรื่องไม่ได้จริงผม พอดีไปกินข้าวเราก็ถามไป แต่เพื่อเป็นข้อมูล ตามประสานไจแอ้นท์ขี้สงสัย  ณ พี่น้องแรงงานลาวข้ามมาทำงานฝั่งไทย เป็นพนักงานเสริฟค่าแรง 2,500 บาทต่อเดือน ทำงาน 6 โมงเช้า เลิก 2 ทุ่ม (14 ชั่วโมง) แต่นายจ้างมีอาหารเลี้ยงกินอยู่ที่นั่น ผมนึก 300 บาทหรอกกันหรือเปล่า แต่ลองมานั่งคิดเขาอยู่ด้วยกันมากกว่านายจ้างและมีสายสันพันธ์หนึ่ง อย่างที่ทราบที่บอกว่าค้ามนุษย์ก็มี แต่ที่เป็นการทำงานต่างอาศัยช่วยเหลือเองก็มีเช่นกันอย่างโขงเจียมครับ แต่ที่สำคัญ เรามักไม่ได้รับข้อมูลเหล่านี้มากนักในวงการ แรงงาน 3 สัญชาติ แต่ประมาณการณ์ที่มี ที่รับรู้แรงงานลาวที่ลาวทะเบียนนั่นประมาณ 10 เปอร์เซนต์ แต่แบบรายวันนั้นไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน และรายได้พี่น้องแรงงานลาวเป็นเท่าไหร่เป็นต้น 

     คิดเสร็จผมเองก็นั่งกินข้าวต่อ และสัมผัสโขงสีปูยมูลสีแดงของผมเรื่อยไปเรื่อยๆ


ไทยลาว....เราเป็นพี่น้องกัน

     

     ผมลงพื้นที่ร่วมกับกับคุณสุนนทร ผอ. ศสอ. และได้ลงพื้นที่เพื่อการพูดคุยแกนนำในพื้นที่การทำงาน ด่านช่องเม็กวันๆแรงงานลาวทั้งที่ข้ามมาทำงานประจำและไปกลับนั้นมีจำนวนมากมายเหลือเกิน แต่มันเป็นวิถีแล้วสำหรับคนที่นี่ไปแล้ว 



     ช่องเม็กจึงมีการไปมาหาสู่เพื่อการข้ามฝั่งไปมา แต่จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้พบปะแกนนำกลุ่มแรงงานลาว ที่เป็นเครือข่ายรถเข็นประจำที่นั่นที่ทำหน้าขนของข้ามฝั่ง และเราคาดว่าเราจะทำงานร่วมกับด่าน สภาพเศรษฐกิจบริเวณด่านไม่แตกต่างไปจากประเทศไท หรือบางครั้งเจริญกว่าในบางที่ครับ ทั้งหมดกำลังบอกว่าความเจริญภายใต้แรงงานลาวนั้นมากมายมหาศาลเหลือเกินครับ 



     ผมเห็นเศรษฐกิจลาวฝั่งนั้นพบว่าพ่อค้า/แม่ค้า ร้านใหญ่ ปล.ใหญ่ๆเจ้าของธุรกิจนั้น เป็นชาวเวียดนาม เป็นส่วนใหญ่เลย เหมือนทางแม่สายพม่า มีพ่อค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ผมลองยกตัวอย่างง่ายๆเลยครับ ใครมาด่านช่องเม็กต้องรู้จัก ห้างปลอดภาษีดาวเรือง คงปฏิเสธไม่ได้ duty free Daoruang ผู้บริหารเจ้ดาวเรืองหญิงเหล็กชาวเวียดนามเอาง่ายๆถ้าใครไปเซเว่นนะครับกาแฟญี่ห้อดาวที่เซเว่นนั้นผลิตมาจากลาวนะครับ แต่คนเวียดนามเป็นเจ้าของบริหาร


     ขณะที่กำลังเดินทางกลับข้ามมาฝั่งไทย เจอเด็กลาวตัวเล็กๆน่าจะป่วย ถามเขาเล่นมาทำไม "ข้อยมาหาหมอ" อืมน่าคิด  และโชคดีที่ผมเห็นระบบการ refer ส่งต่อระหว่าง 2 ฝั่งที่ปรากฏ คือ ระหว่างฝั่งลาวและไทย (รพ.บุณฑริก) แต่ผมถามคนลาวแถวนั้นได้คำตอบว่า มารับแบบนี้รวยๆทั้งนั้นแหละ คนจนน้อยมากมารับแบบนี้ 



     ดังนั้นภาพแรงงานรายวันสลับเข้าออกจึงเยอะไปหมดในที่นี่ และ ตำนาน "รถล่อง" มีจริง รถกระบะเสริมหลังคาทำ 2 ชั้น สามารถขนคนแรงงานลาว 40-50 คนนั้น เป็และอ้วนอย่างผมคงเป็นลมตายแน่ครับ แต่รถล่องจะมีนายหน้า และมีการส่งแรงงานพี่น้องลาวไปตามแต่ละจุด  และแต่ละจุดที่ส่งนั้นก็ไปหลายที่เหลือเกิน และหลายภาพผมไม่สามารถเอามาได้(คงเข้าใจกัน) 

     และรถที่นี่ ปล.ใช้รถเน้นเกาหลีเห็น 2 ยี่ห้อคือ KIA HYUDAI ครับ เน้นเลยนะครับ ต่างบ้านเราที่เน้นรถญี่ปุ่ยไม่เช่นนั้นก็รถฝรั่ง 


     วันนี้คงจบเพียงเท่านี้เรื่องเล่าจากช่องเม็ก และโขมเจียม


หมายเลขบันทึก: 531803เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2013 23:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม 2013 23:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท