บันทึกถึง พ่อเฒ่า...


น้องนิ หลานสาวคนหนึ่งยืนเกาะโลงอยู่ด้านหน้าพยายามกลั้นริมฝีปากจนสั่นระริก แต่ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาให้ใหลออกมาได้

   ตาทวดเหรียญหรือพวกเราหลานๆเรียกพ่อเฒ่า อายุ 93 ปี ป่วยด้วยวัยชรามาร่วม 3 ปี พวกเราลูกๆหลานๆก็เฝ้าปฏิบัติดูแลด้วยดีเสมอมา

   หลายครั้งที่ได้ยินเครื่องเสียงเปิดเพลงบรรเลงงานศพ ทุกคนก็เข้าใจว่าพ่อเฒ่าเสียแล้ว คนแก่ร่วมรุ่นทั้งป่วยและไม่ป่วยต่างล้มตายหายหน้ากันไปหมด

   กระทั่งปลายปีที่ผ่านมาพ่อเฒ่าอาการแย่ลง ไม่ยอมทานข้าว ลูกๆหลานต่างมาพร้อมเพรียงเพื่อจะได้ดูแลให้ดียิ่งขึ้น หลายคนหาพระหรือผ้ายันต์มาซ่อนใต้เสื่อที่พ่อเฒ่านอน เพื่อแก้เคล็ด

   "แววตาของแกลอยๆ เหมือนไม่ใช่พ่อพวกมึง" อาล้อม น้องชายผู้มีอายุแปดสิบกว่าของพ่อเฒ่าให้ความเห็น

   แม่ยายผู้เขียนเล่าว่า วันหนึ่ง พ่อเฒ่ามีอาการแปลกๆ พูดแปลกๆ ว่า

   "พวกมึงไม่รู้หรอกว่ากูคือใคร"

   "แล้วใครล่ะที่พูดอยุ่นี่น่ะ" แม่ยายถาม

   "อ้าวกูก็นาย เหรียญ ยังไงเล่า.."

    คำเล่าของแม่ยายทำให้พวกเราหลานๆต่างรู้สึกดีใจที่พ่อเฒ่ากลับมาเป็นอย่างเดิม

    "โอ๊ย...อย่างนี้ยังอยู่กับเราอีกนาน" ภรรยาผมบอก

    แต่เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา โทรศัพท์จากน้าๆที่กำแพงเพชรก็แจ้งว่า พ่อเฒ่าจากพวกเราไปแล้ว

   พวกเราหลานๆเดินทางจากกรุงเทพฯโดยพร้อมเพรียงกัน ทุกคนต่างช่วยกันต้อนรับแขกเหรื่อทั้งในหมู่บ้านย่านตำบลที่มากันหนาตาในแต่ละคืน ทั้งนี้เพราะ พ่อเฒ่า เป็นคนเก่าคนแก่ของหมุ่บ้าน เคยเป็นผู้ใหญ่บ้านนานถึง 20 ปี เป็นมัคทายก กล่าวคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรมอยู่จนใครๆก็จะจำเสียงแกได้ในวันพระวันเจ้า

   พวกลูกๆหลานๆต่างเสียใจที่แกจากไป แต่ไม่เห็นมีใครร้องห่มร้องให้หรือมีอาการเศร้าใจมากมาย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะพ่อเฒ่าป่วยมานาน หรือด้วยวัยชรา ทุกคนคงทำใจกันได้

    ในวันฌาปนกิจศพพ่อเฒ่า คนมาร่วมพันคน จนของชำร่วยที่จัดไว้เป็นถ้วยกระเบื้องเล็กๆ 700 ใบ แทบไม่พอแจก

    หลังจากพิธีการทางสงฆ์เสร็จสิ้น ก็จะมีการเปิดฝาโลงเพื่อให้ลูกๆหลานๆดูเป็นครั้งสุดท้าย

    ร่างของพ่อเฒ่าเหมือนแกนอนหลับปกติ หนังอันเหี่ยวย่น กระดูกแก้มโหนกนูน บ่งบอกถึงวัยชราที่ใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน

   น้องนิ หลานสาวคนหนึ่งยืนเกาะโลงอยู่ด้านหน้าพยายามกลั้นริมฝีปากจนสั่นระริก แต่ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาให้ใหลออกมาได้ นั่นเป็นเหตุให้พวกเราอีกหลายคนเงียบ และหลั่งน้ำตาออกมาพร้อมๆกัน

   ผมนิ่งเงียบ ออกปากชวนลูกสาวเดินลงมาจากเมรุก่อนใครๆ

   ลูกสาวถามผมในวันหลังว่า พ่อกลัวเหรอถึงไม่ยอมเข้าไปดูใกล้ๆ ผมได้แต่ยิ้มๆ แต่เปล่าหรอก

   ผมกลัวกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวต่างหาก

..........

   


 

หมายเลขบันทึก: 530682เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2013 19:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม 2013 20:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เป็นธรรมดาเพราะเป็นหลักของไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สำเร็จได้ด้วย ไตรลักษณ์ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

การจากตายเป็นเรื่องที่ทำให้เศร้าเสมอนะคะ

ขอบคุณครับ paque แม้จะรู้ว่าทุกคนต้องตาย ทำใจได้ แต่อารมณ์แห่งการจากลากันชั่วนิรันดร์ทำให้ ยับยั้งความโศกเศร้าไม่ได้ครับ

ขอบคุณครับคุณหมอ ตันติราพันธ์

แม้ตัวผู้เขียนจะเป็นหลายเขย แต่ก็มีความผูกพันธ์อยู่พอสมควร เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ แห่งการจากตาย ครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท