เปรียบประชานิยม "แม้ว - ชาเบซ" เจตนาต่างกันลิบ



 เปรียบประชานิยม "แม้ว - ชาเบซ" เจตนาต่างกันลิบ 

 เปรียบ "แม้ว - ชาเบซ" ประชานิยมเหมือนกัน แต่เจตนาต่างกันมหาศาล ปธน.เวเนฯดึงมวลชนเพื่อสู้กับอเมริกาชิงผลประโยชน์น้ำมันกลับมาให้ประชาชน แต่อดีตผู้นำไทยใช้เสื้อแดงเป็นฐานทำมาหากิน ถึงขั้นยอมเป็นโบรกเกอร์ให้ฝรั่งฉกทรัพยากรจากชาติตัวเอง 

กล่าวเปรียบเทียบ นายฮูโก ชาเบซ ประธานาธิบดีเวเนฯ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า มีความเหมือนกันหลายอย่าง แต่เจตนาต่างกันมหาศาล พ.ต.ท.ทักษิณร่ำรวยมาจากสัมปทาน ธุรกิจที่เกิดจากการผูกขาด ไม่มีอุดมการณ์ คิดแต่เพียงอยากเป็นใหญ่ เขาคิดว่าประเทศไทยถ้าบริหารจัดการดีๆไปได้ไกล แล้วเขาก็จะรวยด้วย ส่วน นายชาเบซ วีรบุรุษของเขาคือ โบลิวาร์ ซึ่งเป็นหัวหอกในการขับไล่สเปนออกจากละตินอเมริกา แต่พ.ต.ท.ทักษิณ มีแต่เงินเป็นฮีโร่ นี่คือข้อแตกต่างอย่างมหาศาล

 ส่วนที่เหมือนกันของชาเบซ และ ทักษิณ คือต่างเดินเข้าหามวลชน เพราะเห็นว่ามวลชนถูกละเลย ทักษิณมองว่าหากมวลชนถูกเหลียวแลบ้าง โยนเนื้อติดกระดูกให้กินจะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ แล้วจะใช้พื้นฐานนี้มาสนับสนุนให้เขามีอำนาจ มีความชอบธรรมในการทำธุรกิจ ออกนโยบายให้ประชาชนได้แต่ตัวเองได้มากกว่าหลายเท่า แต่ ชาเบซ ต้องการมวลชน เพราะเห็นว่าประชาชนลำบาก เขามองว่าที่หลายประเทศในละตินอเมริกาลำบาก ก็เพราะตะวันตกเข้าไปครอบงำ ไปยึดทรัพยากรธรรมชาติ เลยต้องการสู้กับพวกตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา แต่จะสู้ได้อย่างไรถ้าไม่มีฐานมวลชน เพราะว่าในทุกประเทศในละตินอเมริกาแม้กระทั่งประเทศไทย จะมีมือไม้ของอเมริกาอยู่ตลอดเวลา ถ้าถามว่าทักษิณเป็นมือไม้ให้อเมริกาไหม บอกเลยว่าใช่ แต่ขณะเดียวกันคนที่ตรงกันข้ามทักษิณก็เป็นเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วชาเบซเลยลงไปสู่มวลชน

 ทีนี้มวลชนเสื้อแดงกับมวลชนของชาเบซไม่เหมือนกัน ตรงที่เขาเทิดทูนบูชาชาเบซ เพราะชาเบซให้ชีวิตพวกเขา เพราะเอาของที่เป็นของเวเนซุเอลากลับคืนมาจากอเมริกา แล้วเอามาให้พวกเขา ในขณะที่มวลชนทักษิณรู้อยู่อย่างเดียวว่าให้เงินกู้กองทุนหมู่บ้าน ให้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ให้ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ไม่รู้ว่าได้บาทนึง ทักษิณเอาคืนล้านบาท

 นายสนธิ กล่าวต่อว่า ประชานิยมลักษณะเหมือนสังคมนิยมอีกประเภทหนึ่ง ทั้งทักษิณและชาเบซใช้หลักประชานิยมหรือสังคมนิยมแบบเดียวกัน แต่ว่าเจตนาไม่เหมือนกัน เพราะว่าคนหนึ่งมีอุดมการณ์ คนหนึ่งไม่มีอุดมการณ์ คนหนึ่งเอาประเทศเป็นหลัก เพราะเจ็บใจที่ถูกต่างชาติเอาเปรียบ อีกคนหนึ่งเอาประเทศเป็นขุมทรัพย์ มีความรู้สึกว่าถ้าฝรั่งจะเอาก็เอาไปแต่ให้ตัวเองได้บ้าง เผอิญโชคดีของเวเนซุเอลาที่มีน้ำมัน และส่งเข้าไปในอเมริกาคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ที่อเมริกาใช้ ชาเบซนั่งดูผลประโยชน์ของประเทศที่ไหลออก พอขึ้นมามีอำนาจเลยรวบทุกอย่างคืนไปหมดเลย

 อเมริกาทำทำลายชาเบซ ทุกทาง วันที่ตายหนังสือพิมพ์หลายๆฉบับของอเมริกาด่าชาเบซหมด ว่าเป็นเผด็จการ ทำลายประชาธิปไตย แต่มามองย้อนหลังหนังสือพิมพ์พวกนี้ที่ด่าชาเบซ ก่อนหน้านี้ชมทักษิณ ทั้งที่สองคนนี้ทำเหมือนกัน ที่ชมทักษิณเพราะว่าเขายังเปิดประเทศให้อเมริกาเข้ามาทำมาหากินได้ ด้วยเหตุนี้ชาเบซตาย กับทักษิณมีชีวิตอยู่ หนังสือพิมพ์ตะวันตกจะมองชาเบซแบบหนึ่ง และมองทักษิณแบบหนึ่ง
 ทักษิณโยงใยกับพวกวอลล์สตรีท พวกแหล่งทุน ซีเอฟอาร์ (CFR : Council of Foreign Relation) สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอเมริกา สมาชิกของซีเอฟอาร์ มี เอ็กซอน เชฟรอน บริษัทยาเมอร์ค สมิธไคลน์ ไอบีเอ็ม คือล้วนแล้วแต่เป็นทุนทั้งนั้น แล้วจำได้ไหมก่อนทักษิณขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาเชิญ นายจอร์จ บุช ซีเนียร์ มา เชิญ นายเบเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทดูแลทักษิณในเรื่องการประชาสัมพันธ์ ทักษิณเป็นโบรกเกอร์ให้ทุนอเมริกา แล้วพอต้องระเหเร่ร่อนออกไปต่างประเทศ ก็เป็นหน้าที่ของพวกวอลล์สตรีทจะต้องแบ็กทักษิณ โดยผ่านทางบริษัทเอเธอร์แมน ซึ่งเป็นบริษัทพีอาร์ระดับโลก อยู่ในมือวอลล์สตรีท โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม มีสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม ก็คือพวกทุน เพราะฉะนั้นคนพวกนี้จะระดมทุนกันหมดเลย โดยทั้งหมดนี้ผ่านโดยคนชื่อ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เพราะคนนี้เป็นคนเชื่อมโยงทักษิณกับทุนตะวันตก

 เพราะฉะนั้นแล้วทุนตะวันตกก็บอกว่า ขอให้ทักษิณกลับมามีอำนาจ หรือขอให้น้องสาวได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องประคองเอาไว้ เพราะว่านั่นคือแหล่งทำมาหากิน แล้วยิ่งพม่าเปิดประเทศ ทักษิณก็เลยกลายเป็นโบรกเกอร์เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย รวมไปจนถึงสัมปทานน้ำมันที่อยู่ในอ่าวทะเล หรือแม้กระทั่งความวุ่นวายทางภาคใต้ ทักษิณก็ต้องมายุ่ง แล้วยังไม่ทันไรเลยก็หลุดเรื่องนครปัตตานีมาแล้ว เป็นไปตามที่ตนพูดไว้ว่าจะจบลงด้วยเขตปกครองพิเศษ ยังอยู่ภายใต้ธงไทยอยู่ แต่ต้องเลือกผู้ว่าฯ แล้วผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นจะบนบกหรือทะเลจะต้องแบ่งส่วนหนึ่งให้นครปัตตานี

 นายสนธิ กล่าวอีกว่า ระหว่างทักษิณกับชาเบซ เมื่อมีอำนาจแล้วทำลายโจมตีปิดกั้นฝ่ายค้านเหมือนกัน ทักษิณทำเพราะต้องการหยุดปากฝ่ายค้าน เพื่อจะได้ทำมาหากินสะดวก แต่ชาเบซต้องทำลายฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านทั้งหมดที่มีอยู่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นมือไม้ของอเมริกาทั้งสิ้น นี่คือข้อแตกต่าง ชาเบซต้องการรวบอำนาจเพื่อที่จะต่อสู้กับจักรวรรดินิยมได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่หวั่นเกรงอะไรเลย เดินหน้าด้วยอุดมการณ์เอาชาติเป็นตัวตั้ง แต่ทักษิณเดินหน้าด้วยการเอาความร่ำรวยของตัวเองและญาติพี่น้องเป็นตัวตั้ง

 พวกเสื้อแดงถ้าดูให้ดีๆจะเห็นว่าทักษิณไม่ได้ทำเพื่อเสื้อแดงเลย ถ้าทำให้ประชาชนจริงต้องเอาผลประโยชน์น้ำมันคืนมา แล้วจะไม่ได้แค่ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่จะได้รักษาฟรี เรียนฟรีตั้งแต่เด็กจนจบมหาวิทยาลัย ถ้าทักษิณแน่จริงสร้างบ้านให้เสื้อแดงอยู่สิ แต่กลับให้บริษัทอสังหาฯของพวกตัวเองสร้างบ้าน เพื่อมากินเงินชนชั้นกลางต่อ

 และที่น่าเสียดายคือ พวกฝ่ายซ้ายทั้งหลายที่เป็นที่ปรึกษาให้ทักษิณ ชีวิตพวกนี้สู้เหมือนกับที่ชาเบซทำ แต่วันนี้มันหลงใหลในกิเลสจนกระทั่งมองไม่เห็นข้อแตกต่างระหว่างทักษิณกับชาเบซ

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000029088


หมายเลขบันทึก: 530659เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2013 14:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2013 14:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

วันนี้ เวเนซูเอล่าเป็นรัฐที่ล้มเหลว (Fail state) แล้วครับ บล็อกนี้คงรีบเขียนไปหน่อย แนวทางสังคมนิยมของชาเวซเลยยังไม่ส่งผลให้เห็น ส่วนไทย โครงการช่วยคนจนหลายอย่างยังดำเนินการอยู่เพราะมีประโยชน์จริงๆ แถมยังมีทุนสำรองระหว่างประเทศอีกบานเบอะ ทั้งๆที่ไม่ได้มีน้ำมันสำรองมากมายเหมือนเวเนซูเอล่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท