เรียนอย่างไรให้เก่ง ดี มีความสุข
ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้นมีแต่ความฉลาดทางปัญญา (ไอคิว) สูงอย่างเดียว คือ เก่งอย่างเดียว จะประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตเพียง 20% เหมือนดังที่กล่าวว่า “ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” ก็มีถมไป
เพราะฉะนั้นคนที่ประสบผลสำเร็จในด้านการเรียน ใช่วาจะประสบผลสำเร็จในการดำเนินชีวิตเสมอไป
ความสำเร็จในการดำเนินชีวิตอาศัยความฉลาดทางปัญญา 20% อีก 80% เป็นผลมาจากความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เติบโตมีชีวิตที่ประสบผลสำเร็จในทุกด้านอย่างแท้จริง
ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันพ่อแม่ทุกคนจึงล้วนแล้วแต่อยากให้ลูกของตนนั้นมีความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ซึ่งหมายถึง ความสามารถทางอารมณ์ในการดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุข
องค์ประกอบของความสามารถทางอารมณ์ ที่สำคัญมี 3 ส่วน คือ เก่ง ดี และมีความสุข
เก่ง หมายถึง ความสามารถในการรู้จักตนเอง มีแรงจูงใจ และสามารถตัดสินใจแก้ปัญหา และแสดงออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น
ดี หมายถึง ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ และความต้องการของตนเอง รู้จักเห็นใจผู้อื่นและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
มีความสุข หมายถึง ความสามารถในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ภูมิใจในตนเอง พึงพอใจในชีวิตและมีความสงบทางใจ
ความฉลาดทางอารมณ์ของคนๆ หนึ่ง จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยหลายๆ องค์ประกอบช่วยส่งเสริม สนับสนุน และผลักดัน ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ พี่ ครูอาจารย์ เพื่อน สื่อมวลชน สิ่งแวดล้อมทางขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมทางสังคมเป็นต้น
ดีค่ะ ข้อความนี้ดีมาก ๆ คะ เหมือนเคยอ่านจากหนังสือที่ไหน?มาก่อนอ่ะคะ
แต่นึกไม่ออกคะ เหมือนจะเป็นหนังสือเรียนอ่ะ
ทำอย่างไรไม่ให้พ่อเเม่ด่าว่าเรียนไม่เด
ควรปรับปรุงอย่างไรค่ะ
ช่วยบอกไดไหม
เรียนดี
ต้องขยันด้วย
เพราะการขยันช่วยให้เราเก่งได้ค่ะ
ขอบคุงมากที่มีข้อความดีมาบอกเรา
เรียนอย่างไรถึงจะไม่กลุ้มใจ
หวัดดีคับ
กู๊ดดี้แวะมารับสาระดีๆ คับ..เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต
ขอบคุณคับ..
ร่าส่สว่นย้นยาสววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
เรียนอย่างไรไม่เครียด
เหรอ ....
นอกจากเรียนอย่างไรให้เก่งดีมีสุขแล้วนั้นต้องเรียนอย่างสนุกพร้อมกัน