อินโดนีเซีย_มหาอำนาจบุหรี่โลก

.

สำนักข่าว Irrawaddy ตีพิมพ์เรื่อง 'Indonesian men are world's top smokers'
= "ผู้ชายอินโดนีเซีย (เป็นคน) สูบบุหรี่มากที่สุดในโลก", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

.

.

ภาพที่ 1: ภาพบุหรี่ (Kretek) ทำจากยาสูบผสมใบพลู, สมัยโบราณมีความเชื่อจากเกาะชวาว่า การสุบใบพลูช่วยให้โรคหอบหืดทุเลาลงได้ (ไม่มีหลักฐานจากการวิจัยรับรอง) [ wikipedia ]

.

.

ภาพที่ 2: โรงงานยาสูบอินโดฯ สมัยเป็นอาณานิคม [ wikipedia ]

.

การสำรวจเร็วๆ นี้พบว่า ผู้ชายอินโดฯ อายุเกิน 15 ปี สูบบุหรี่ = 67%, ผู้หญิงสูบ 3%

.

สถิติการสูบบุหรี่ (ผู้ชาย  + ผู้หญิง) ในรัสเซียมากเป็นอันดับ 1 ของโลก = 39%, อันดับ 2 เป็นอินโดฯ = 35%

.

ท่านนัฟเซีย โบอิ (Nafsiah Mboi) รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า สถิติผู้ชายสูบบุหรี่เพิ่มจาก 53% ในปี 1995/2538 เป็น 67% (ปีนี้ 2556)

.

WHO (องค์การอนามัยโลก) และ CDC (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ) ให้ทุนสำรวจ โดยสุ่มตัวอย่าง 8,000 คนจาก 14 ประเทศ (รวมเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย)

.

.

อินโดฯ มีปัจจัยที่ทำให้คนเสี่ยงติดบุหรี่ง่ายได้แก่

• ไม่ห้ามโฆษณา
  
• บุหรี่ราคาถูก เนื่องจากภาษีต่ำกว่า 40%
  

การไม่ห้ามการสูบในที่สาธารณะ ทำให้ควันบุหรี่กระจายไปทั่วสถานที่สาธารณะ... แม้แต่คนที่ไม่สูบก็ได้รับควันบุหรี่มือสอง (second-hand smoke = ควันจากบุหรี่ที่คนสูบไม่ได้สูดเข้าไป กระจายใส่คนอื่น)

.

คนอินโดฯ ได้รับควันบุหรี่มือสองที่บ้านเกือบ 80%

.

.

อินโดฯ เป็นประเทศ "กลุ่มน้อย" เพียงไม่กี่ประเทศที่ไม่ยอมลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านการสูบบุหรี่ (WHO's tobacco treaty)

.

ที่นั่นมีโฆษณาบุหรี่ ทั้งทาง TV, ป้ายโฆษณา, โฆษณาก่อนฉายหนัง, สปอนเซอร์ดนตรี-กีฬา

.

ผู้ชายอินโดฯ ชอบบุหรี่ (kreteks) ทำจากยาสูบผสมกานพลู (cloves)

• [ clove ] > [ โขลฟ _ v ] หรือ [ โขล่ว _ v (เสียงพ่นลม เสียงต่ำ_เบา_สั้น]> http://www.thefreedictionary.com/clove > noun = กานพลู กลีบหัวหอม กลีบกระเทียม
  
• คำนี้มาจากภาษาละติน = clovus = nail; ขอให้สังเกตว่า กลีบหัวหอม กลีบกระเทียมมีลักษณะคล้ายเล็บสัตว์
  

.

อินโดฯ ออกกฎหมายควบคุมยาสูบในปี 2009/2552 ห้ามโฆษณา ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ แต่ไม่มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติ

.

อินโดฯ ซึ่งมีประชากรเกือบ 240 ล้านคน, เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ (เช่น ถุงลมโป่งพอง หอบหืด มะเร็งปอด เพิ่มเสี่ยงวัณโรค ฯลฯ) มากกว่า 200,000 คน/ปี

.

อุตสาหกรรมยาสูบที่นั่นใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ทำให้เกิดการจ้างงานนับล้านตำแหน่ง และภาษีจากบุหรี่ = 6% ของรายได้ภาครัฐ ทำให้นักการเมืองไม่ค่อยกล้าต่อต้านบุหรี่

.

อินโดฯ กำลังจะก้าวไปเป็นมหาอำนาจด้านคนไข้โรคถุงลมโป่งพองในไม่กี่สิบปีข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มค่าใช้จ่ายสุขภาพมากจนเสียเปรียบในการแข่งขันกับนานาชาติ (เมื่อเทียบกับประเทศที่คนเจ็บป่วยน้อย)

.

.

วิธีป้องกันโรคถุงลมโป่งพองที่สำคัญได้แก่ [ CDC ]; [ CDC ]; [ mayoclinic ]; [ lung ]

.

(1). ไม่สูบบุหรี่ และไม่หายใจเอาควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไป โดยเฉพาะไม่เข้าไปในห้องแอร์ที่มีคนสูบบุหรี่ เช่น ไนท์คลับ ผับ บาร์ ฯลฯ (บุหรี่เป็นสาเหตุของโรคนี้ประมาณ 75%)

.

(2). หลีกเลี่ยงควันไฟ

• ไม่ใช้ฟืน ถ่านหินในบ้าน (คนจนในอินเดีย จีนส่วนหนึ่งใช้ถ่านหินในเตา เพื่อปรุงอาหาร)
  
• ไม่จุดธูปในที่อับลม
  
• ไม่เผาขยะ ใบไม้, ไม่เผาป่า ไร่ นา
  

(3). หลีกเลี่ยงฝุ่นหิน ดิน ทราย โดยเฉพาะฝุ่นจากถนนที่ไม่ราดยาง โรงโม่หิน

.

(4). ถ้าเป็นวัณโรคปอด ต้องเข้ารับการรักษาให้ครบระยะ เพื่อลดการทำลายเนื้อปอด เกิดแผลเป็นในปอด

.

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

 > [ Twitter ]

• Thank Irrawaddy > http://www.irrawaddy.org/archives/13745
• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 9 มีนาคม 56. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
• ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้

[Bright Lily]

ไม่อยากเห็นบุหรี่สักมวนในโลกสีฟ้าใบนี้ค่ะ