โชคดีที่ฉันได้อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมใกล้กับที่ทำงาน ทำให้เช้าของทุกวันฉันได้ใช้เท้าก้าวเดินไปทำงาน ใช้เวลาประมาณ ๑๕ - ๒๐ นาทีในการเดินข้ามสี่แยกไฟแดง เดินบนฟุตบาท เดินบนสะพ่านลอย ระหว่างทางที่เดินก็ได้พบเห็นเหตุการณ์ต่างๆของหลากหลายชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชายซ้อนท้ายจักรยานไปโรงเรียน เห็นคนจรจัดนอนหลับอ้าปากหวอ พูดคุยแนะนำการใช้ยากับพนักงานกวาดถนนที่กำลังทำความสะอาดจัดการขยะบนสะพานลอย พบเห็นพนักงานเก็บขยะที่ไม่สวมหน้ากากป้องกันกลิ่นขยะ สวนทางกับผู้คนที่ไปออกกำลังกายกำลังเดินหิ้วอาหารกลับที่พัก อื่นๆอีกมากมาย ฉันได้สัมผัส รับรู้ รู้สึกที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน
ในบางครั้ง บางวันที่ฉันพกพาอุปกรณ์ที่บันทึกภาพ ที่สามารถสื่อส่งออนไลน์ได้ในบางสถานที่ที่มี Free Wi-Fi ฉันก็จะส่งภาพและนำเสนอกิจกรรม หรือเหตุการณ์ระหว่างทางที่พบเห็นและสัมผัส ส่งข่าวให้เพื่อน Fanclub ใน facebook ได้ทราบว่าฉันยังคงมีชีวิต ยังคงตื่นเช้า สามารถไปเดินออกกำลังกาย ยังมีพลังในการเดินไปทำงาน เผื่อว่ากิจกรรมในแต่ละวันของฉันและใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ดูมีความสุขและหน้าที่อ่อนกว่าวัยของฉัน ^_^ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในการดูแลสุขภาพทั้งทางกาย
นอกจากการดูแลสุขภาพทางกาย ฉันยังได้พัฒนาสร้างเสริมสุขภาพทางจิตจากการนำเสนอข้อคิดสาระในการเจริญสติ สร้างปัญญาจากการอ่านหนังสือธรรมะ จากการอ่านข้อคิดจากเพื่อนๆที่สื่อข้อคิดข้อธรรมทาง facebook และจากการที่ฉันได้นำพาคุณแม่ไปสวดมนต์ ฟังธรรม ซึ่งฉันกำหนดตัวชี้วัดในครอบครัว คือ อย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้งที่ฉันจะนำพาคุณแม่ไปทำกิจกรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม พบกับธรรมโอสถจากพญ.อมรา มลิลาทุกวันอาทิตย์ที่ ๒ ของเดือน ที่ห้องบรรยาย ๑ รพ.รามาธิบดี หรือไปใส่บาตร สวดมนต์ ฟังธรรมที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ หรืออาจจะไปร่วมกิจกรรมทางธรรม กิจกรรมทางสังคมที่สวนโมกข์ กรุงเทพฯ ฉันก็จะนำสาระดีๆที่ได้มาสื่อสารนำเสนอให้เพื่อนๆในโลกออนไลน์ได้แลกเปลี่ยน รับรู้และแบ่งปันกัน
เราทุกคนสามารถเป็นสื่อ ที่จะสื่อสารกิจกรรมในการดูแลสุขภาพของตนเองและของคนที่เรารัก เพื่อสุขภาวะที่ดีทั้งกาย จิต สังคมและปัญญา มาร่วมกันสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะด้วยสติและปัญญาใช้สื่อออนไลน์อย่างคุ้มค่ากับเวลาเท่าที่เรายังมีเหลือกันอยู่นะค่ะ ^___^