หมอผีวิชาการโง่ๆ (วิพากษ์เลือกตั้งผู้ว่ากทม. ๒๕๕๖ ตอน ๑.)

หมอผีวิชาการโง่ๆ (วิพากษ์เลือกตั้งผู้ว่ากทม. ๒๕๕๖  ตอน ๑.)

ในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา บรรดาพวกหมอผีวิชาการตามก้นสถิติฝรั่งที่อยากดัง ต้องหน้าแตกไปตามๆกัน..ที่ทำนายทายทัก ทั้งล่วงหน้าและลับหลัง ผิดกันไปโม๊ด 

ในช่วงประมาณหนึ่งเดือนก่อนวันเลือกตั้ง  ผมรึ่มๆว่าจะเขียนบทความค้านหมอผีวิชาวิการเหล่านั้นว่าผลโพลเหล่านั้นจะผิดกันหมด  แต่ผมคงได้ทำบาปหนาไว้มากในชาติปางก่อน  จึงไม่ได้โอกาสดังกะเขาอย่าง หมอผีฟันธง คอนเฟิร์ม ทั้งหลาย  เพียงเพราะว่าผมลืมโพสต์ข้อความทำนายดังกล่าวตามที่ได้ตั้งใจไว้  (สาบาน ให้ฟ้าผ่าตายต่อหน้าจอว่า  ผมคิดจริง ก่อนหน้าเลือกตั้ง  ไม่ได้พูดมาเอาเก่งเข้าตัวเอามั่วเข้าคนอื่น  ภายหลังรู้ผลการเลือกตั้งแล้ว) 

ที่ผมมั่นใจล่วงหน้าว่าโพลล่วงหน้าทั้งหลายเหล่านั้นจะทำนายผิด  เพราะมันมีช่องโหว่ให้จับผิดได้มาก  โดยเฉพาะจำนวนผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ที่มีมากถึงประมาณ ๔๐ ปซ. 

แต่พอพวกสื่องีง่าวไทยของเราเอามาตีฆ้องร้องป่าว  (แบบเข้าข้างผู้สมัครบางคน หรือโดยเกลียดชังผู้สมัครบางคน)   ก็ตัดตอนโพลเอามาแต่เพียงว่า ไอ้คนประมาณ ๖๐ ปซ.  ที่ตัดสินใจเลือกแล้วนั้น มันเลือกใครมากกว่ากัน  โดยไม่บอกคนอ่านเลยว่า คนที่ไม่ตัดสินใจอีก ๔๐ ปซ.  ยังเป็นตัวแปรที่อาจทำให้ผลโพลผิดไปได้มากแบบหน้าม้าเป็นตีนช้าง

พวกนักทำโพล (อวดโอ้ดีกรี ดร. จบนอกทั้งน้าน)  และพวกนักสื่อ  (อวดโอ้ดีกรีจบนิเทศ   ม.ดังๆ กันทั้งน้าน) หาสำเหนียกไม่ว่า  ในจำนวนพวก ๔๐ ปซ.  ที่ไม่ตัดสินใจนั้น  ๘๐ ปซ. เป็นคนฉลาด ดังนั้นเขาจึงยังไม่ตัดสินใจ  ส่วนอีกพวก ๒๐ ปซ. เป็นพวกซื่อบื้อบริสุทธิ์ที่ทำเป็นวางฟอร์มว่าสุขุม   ทั้งที่มันยังไม่รู้เลยว่าอ้อ...เขากำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากันด้วยหรือ  (กลัวคนสำรวจมันจะหาว่าโง่เลยทำเป็นวางฟอร์มว่ายังไม่ตัดสินใจ) 

คณิตศาสตร์ ม. ๓ ง่ายๆ คือ คน ๖๐ คนที่ให้ความเห็นในโพลหมอผีนั้น   ๓๕ คนเลือกนาย ก.   ๒๕ คนเลือกนาย ข.   ไอ้พวกสื่อง่าวมันทำนายทันทีแบบประสานเสียงว่านาย ก. จะชนะ  ถล่มทลาย  โดยมันคิดไม่ออกว่าพวก ๔๐ ที่สงวนท่าทีนั้น  ถ้า ๓๒ คน  (๘๐ ปซ.)  เลือกนาย ข  ที่เหลืออีก  ๘ เลือกนาย ก.  คะแนนรวมออกมาจะเป็นว่า นาย ก. ได้รวม ๔๓  (๓๕+๘)  ส่วนนาย ข. ได้รวม  ๕๗  (๒๕+๓๒)  ...ผลคือ ข ชนะ  ก  แบบพลิกโผ

หลักการง่ายๆ  คือ  คนที่ฉลาดนั้นเขาจะยังไม่ตัดสินใจหรอกว่าจะเลือกใครดี จนกว่าจะฟังความให้ครบทั้งสองข้างเสียก่อน..จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย  (อาจเป็น   นาที ชั่วโมง  ปี  ศตวรรษ  ชาติ  กัลป์ สุดท้าย ...ก็เป็นได้นะ  สุดแล้วแต่บุญกรรม) 

จึงไม่น่าแปลกใจประการใดว่า ทำไม คุณสุขุมฯ จึงชนะแบบ “พลิกโผ”  เช่นนี้  โดยโพลหมอผีทำนายว่า  คุณ พงศฯ จะชนะประมาณ ๑๕ ปซ. (คิดเทียบสัมพัทธ์ตามคะแนนของผู้ชนะ)  แต่กลับกลายเป็นว่าคุณ สุฯ ชนะประมาณ ๑๕ ปซ. 

แบบนี้มัน “กลับตาลปัตร” เลยนะ  ..ถ้าผมเป็นผอ. โพลหมอผีเหล่านี้ ที่ทำงานใหญ่พลาดขนาดนี้ ผมจะรับผิดชอบด้วยการ  อย่างน้อยลาออก  อย่างกลางลาบวช อย่างมากลาตาย (ฮาราคีรี)  

ผมว่า น่าถึงเวลา ออก  “พรบ. หยั่งเสียง พศ.  ...”   ได้แล้วว่า  สถาบันที่จะได้รับอนุญาตให้ทำโพลหมอผี (หยั่งเสียง) ทางการเมืองได้นั้น ก่อนอื่น ต้องมีผลทำนายแม่นยำสะสมเป็นที่น่าเชื่อถือจากเล็กไปหาใหญ่เป็นเวลาสิบปีเช่น

ต้องมีสถิติการทำนายเบอร์หวยได้ถูกต้องเกิน ๖๐ ปซ. สะสมทุกงวดเป็นเวลา สิบปี  (ด้วยการทำโพลหาเบอร์หวยที่แม่นยำที่สุดจากหมอผีชื่อดัง) 

ต้องมีสถิติในการทำนายการตั้งท้องของดาราหญิงว่าจริงหรือไม่จริง ได้ถูกต้องเกิน ๖๐ ปซ. สะสมทุกรายเป็นเวลา สิบปี  (ด้วยการทำโพลหาความเห็นจากแฟนละครน้ำเน่า)   เป็นต้น

การเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ครั้งนี้ เราว่ากันว่ามันพลิกโผ (โพล)  แต่ถ้าไม่มีโผหมอผีล่วงหน้าล่ะ  .....ผมว่า  มันจะไม่พลิกโผถล่มทะลายยิ่งกว่านี้เสียอีกอีกสามเท่า กล่าวคือแทนที่จะชนะกัน ๑๕ ปซ.  อาจเป็น ๔๕ ปซ.   ซึ่งช่องว่างแห่งการชนะนี้จะส่งผลต่อทิศทางของสังคมในอนาคตได้มาก  เช่นหากชนะมาก อาจเลี้ยวขวาหักศอก   แต่พอชนะแบบสูสี ก็เปลี่ยนเป็นเลี้ยวขวาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น   ก็เลยไปคนละทิศเลย ซึ่งอาจทำให้หลงทาง  เสียเวลาสังคม   ซึ่งเป็นผลจากไอ้โพลหมอผีเหล่านี้ที่ชี้นำล่วงหน้าแบบผิดๆ  

โพลหมอผีงี่ง่าวพวกนี้  มันชี้นำสังคมแบบผิดๆได้มาก เพราะให้คะแนนเสียงคนโง่คนฉลาดเท่าเทียมกันแบบวันโง่วันเสียง   แล้วเราจะปล่อยให้มันชี้นำสังคมเราต่อไปอย่างนั้นหรือ  ...ช่วยทำโพลกันดูหน่อยสิว่าจะเอาไงดี

....คนถางทาง (๔ มีค. ๒๕๕๖)

ปล.. สำหรับหมอถางฯนั้น ทำนายไว้แต่คศ. ๒๐๑๐ ว่าถ้าไทยยังเดินไปในทิศทางปัจจุบันโดยไม่เปลี่ยน จะล่มสลายภายใน ๒๐๓๐   ชัวร์ชั่วๆ