การประยุกต์ใช้ KM กับงานด้านสาธารณสุข
เมื่อกล่าวถึงความรู้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ความรู้นั้นไม่ได้มีเฉพาะในตำราและในตัวผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังมีความรู้อีกมากมาย ที่เกิดอยู่ในตัวคนผู้ปฏิบัติงาน เป็นความรู้ที่สะสมจากประสบการณ์การทำงานที่แท้จริงทุกหน่วยงานต่างเล็งเห็นความสำคัญของการจัดการความรู้ รวมทั้งในงานด้านสาธารณสุขเอง ก็มองเห็นความสำคัญ
ของเรื่องนี้เช่นกัน ดังที่ได้มีการจัดตั้ง สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ( พรพ .)
ซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบคร่าวๆ ดังนี้
1. เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
2. เผยแพร่แนวคิดและองค์ความรู้
3. สร้างเครือข่ายและพันธมิตร
4. ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพของ รพ.
5. การประเมินและรับรองคุณภาพ
จากหน้าที่และความรับชอบที่มีนั้นเกี่ยวข้องกับข้อมูลปริมาณมาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นคลังความรู้ขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการและนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวอย่างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยการทำกิจกรรม " ชุมชนนักปฏิบัติ " (Community of Practices-CoP)
เป็นการรวมตัวกันของผู้ปฏิบัติงาน คล้ายๆ กัน หรือต้องใช้ความรู้ ในลักษณะคล้ายคลึงกัน แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์กันอย่างสม่ำเสมอ เช่น CoP เรื่อง การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคเฉพาะทางอื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นโดย พรพ . หรืออาจเป็นชุมชนที่สนใจชุดความรู้ (knowledge domain) ชุดเดียวกัน แต่ทำงานอยู่ในต่างหน้าที่ เผชิญปัญหาคนละปัญหา เช่น CoP เรื่อง การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ อาจมีสมาชิกจากหออภิบาล หอผู้ป่วยอายุรกรรม หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม และหอผู้ป่วยนรีเวชกรรม เป็นต้น วิธีการแลกเปลี่ยนที่ low tech คือ นัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกวันศุกร์ 17.00-19.00 น . เอาอาหารเย็นมารับประทานร่วมกัน และมีคนมาเล่าประสบการณ์ของคน 2 คน เป็นเครื่องมือเริ่มประเด็น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ไม่มีความเห็น