ในบางครั้งการที่จะทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จได้ต้องอาศัยคนรอบๆตัว เพื่อเป็นแรงจูงใจในการเริ่มทำในสิ่งที่ไม่ได้คิดว่าจะได้ทำ การทำได้โดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัวมาก่อนว่าสามารถทำได้หรือบางครั้งไม่ได้ตั้งใจที่จำมาก่อน ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้
บ่ายๆวันหนึ่งขณะที่ผู้เขียนกำลังปฏิบัติงานที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน มีคุณตาสมชาย อายุ 65 ปี เดินเข้ามาในห้องเพื่อมาล้างแผลซึ่งมีแผลเปื่อยเรื้อรังที่ขามา 5-6 วัน ต้องล้างแผลทุกวัน บอกว่าล้างแผลเสร็จจะไปขอน้ำยาอดบุหรี่เอาไปให้หลานชายเพราะหลานชายสูบบุหรี่แล้วอยากเลิก ตอนนี้ไปทำงานที่กรุงเทพฯไม่มีเวลามารับยาด้วยตัวเอง เลยชวนคุยไปด้วยทำแผลไปด้วย ได้ข้อมูลมาว่าตาอาศัยอยู่กับลูกสาว มีหลานที่เคยอยู่ด้วย 2 คน คนที่ 1 แต่งงานแล้ว คนที่ 2 โสดอายุ 19 ปี สูบบุหรี่ทั้ง 2 คน บอกว่าจะเอาไปให้คนเล็ก
เลยถามว่า “ตาสูบบุหรี่ไหม”
ตาตอบว่า “สูบตั้งแต่อายุ 18 ปี ปัจจุบันยังสูบ 8-10 มวน/วัน เป็นยาเส้นมวนเอง”
“อ้าวตาไม่อยากเลิกเหรอ”ถามต่อ
ตาตอบ “อยากเหมือนกันแต่อยากให้หลานได้ยาเลิกก่อน เพราะอายุยังน้อยไม่อยากให้สูบบุหรี่พูด”แล้วหัวเราะ เราก้อได้แต่หัวเราะกับตา
เลยถามตาอีกว่า “ตาสูบบุหรี่แล้วรู้ไหมมันเสี่ยงกับโรค”
ตาตอบ “รู้คุณหมอ...เป็นมะเร็ง”
ถามต่อว่า “แล้วตาไม่กลัวเหรอ”
ตาตอบ “กลัว เพราะตอนนี้ก้อเริ่มมีไอตอนเช้าๆ”
เลยเพิ่มความรู้ให้ตาไปว่า การสูบบุหรี่นั้นทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งอาการก้อจะเริ่มมีไอเหมือนตานี่แหละ ต่อมาจะหายใจลำบาก ถ้าเป็นหนักมากๆต้องได้รับการรักษาถึงขั้นนอนโรงพยาบาล ส่วนมะเร็งนั้นคนที่สูบบุหรี่จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดได้มากกว่าคนปกติ ตารับฟังแบบยิ้มๆ
ตาจะลองเลิกพร้อมกับหลานไหม จะได้ให้ยาอดบุหรี่ไปด้วยพร้อมกันเลย
ตายิ้มแล้วพยักหน้าสีหน้าพอใจ พร้อมๆกับแผลที่ล้างเสร็จ กำลังปิดแผลพอดี จึงให้ไปรับยาอมอดบุหรี่ไปใช้กับหลานที่บ้าน
2-3 วันต่อมาเจอตามาล้างแผลอีกครั้งจึงถามตา ได้ยาไปเป็นยังไงบ้าง ตาบอกว่าตนเองกับหลานเอายาไปใช้ได้ผลสามารถช่วยในการอดบุหรี่ได้ ตอนนี้สามารถหยุดสูบได้แล้ว น่าจะหยุดสูบได้
1 เดือน ต่อมาจากการติดตามพบว่าคุณตาสามารถหยุดบุหรี่ได้ ก้อได้แสดงความยินดีที่ตาสามารถเลิกบุหรี่ได้ คุณตายังบอกอีกว่านี่เลิกได้ก็เพราะหลานนะพูนทรัพย์ สุขโสม
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการไม่มีความเห็น