ในปัจจุบันถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงมีอยู่มากพอสมควร เนื่องด้วยเกษตรกรเริ่มให้ความสนใจในการหันมาใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงทดแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือยาฆ่าแมลงมากกว่าแต่ก่อน เมื่อเทียบกับในอดีตที่ความสนใจใคร่ปฏิบัติในด้านนี้แทบจะเป็นศูนย์เรียกว่าน้อยมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามปริมาณการเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชก็ยังถือว่าน้อยมากสัดส่วนไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบจากตัวเลขการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและยังไม่รวมปุ๋ยเคมีของสำนักเศรษฐกิจการเกษตรตลอดทั้งปี ท่านใดที่สนใจใคร่รู้เพิ่มเติมก็สามารถเข้าสืบค้นได้ในเว็บไซด์หรือที่สำนักงานที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
จากสถิติที่ดูไม่ค่อยมากนักเมื่อมองในระดับมหภาคแต่ก็บ่งชี้ถึงทิศทางที่เพิ่มขึ้นในทุกๆปีนับว่าเป็นนิมิตหมายที่น่าปลื้มใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
ยิ่งถ้ารัฐบาลมีการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการใช้พืชสมุนไพรขิง ข่า
ตะไคร้ใบมะกรูดอย่างเปิดกว้างเสรี (ไม่ปล่อยให้กลายไปเป็นวัตถุอันตรายโดยไม่จำเป็น)
ในระดับท้องถิ่นแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
เพื่อให้เกิดการพัฒนาแข่งขันประชันความรู้ทักษะในการผลิตพัฒนาแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น
ให้สามารถมีใช้ในครัวเรือน มีเหลือแบ่งปัน
มีมากกว่าแบ่งปันก็จำหน่ายจ่ายแจกในกลุ่มเกษตรกรด้วยกันและให้เกษตรกรด้วยกันเองเป็นผู้ตัดสินใจคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพดำรงอยู่ต่อไปแบบผลิตภัณฑ์โอทอป ไม่ปล่อยให้หน่วยงานรัฐบางหน่วยงานไปรีดไถภาษีเล็กๆน้อยของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือจ้องจะปราบปรามจับกุมวัตถุอันตรายที่อยู่ในก้นครัวแทนที่จะไปตามล่าตามจับยาเสพติดการพนันที่มีอยู่เต็มบ้านเกลื่อนเมืองซึ่งน่าจะได้ประโยชน์แก่ประเทศชาติมากกว่า
ประเทศไทยเราถือว่าอยู่ในจุดที่มีความหลากหลายในธรรมชาติและระบบนิเวศน์เพราะใกล้เส้นศูนย์สูตร
มีพืชผักสมุนไพรนานาชนิดที่สามารถใช้เป็นยารักษาโรคในมนุษย์และใช้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชในระบบกสิกรรมธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นพริก หอม กระเทียม พริกไทย ใบสาบเสือ
เมล็ดสะเดา หางไหล หนอนตายอยาก ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพร ตะไคร้ ข่า ขิง ฯลฯ
แต่กลับมาถูกตราเป็นกฎหมายใช้บังคับให้เป็นวัตถุอันตรายใครใช้ใครผลิตจะต้องได้มาตรฐาน
(แต่กลับปล่อยให้มีปุ๋ยและยาฆ่าแมลงปลอมขายหลังร้านอยู่ทั่วทุกหัวระแหง)
พฤติกรรมในลักษณะนี้เท่ากับยิ่งเป็นการกีดกันแช่แข็งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่จะแผ่ขยายแตกกอต่อยอดออกไปให้กว้างขวาง
ไม่ช่วยพัฒนาประเทศให้ก้าวไกลในรูปแบบที่ปลอดภัยไร้สารพิษเป็นเกษตรอินทรีย์
เป็นอาหารปลอดภัยในฐานะครัวของโลกได้เลย เพียงเพราะยอดการสั่งนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูหลายหมื่นล้านบาทเริ่มลดน้อยถอยลง
เพราะเกษตรเขาเริ่มรู้จักที่จะพึ่งพาตนเองมากกว่าการซื้อสารเคมีมาใช้เพียงอย่างเดียว
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น