สกัดสาระจากหนังเรื่อง “เมล์นรก....หมวยยกล้อ”


เนื้อหาในหนังก็มีสาระอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ สามารถเชื่อมโยงไปได้หลายเรื่อง เช่น EQ การควบคุมอารมณ์ การแก้ปัญหาและตัดสินใจ การสื่อสาร การให้บริการ ความรัก การให้อภัย การห้อยแขวนคำพิพากษา ฯลฯ



ภาพจาก http://www.siamzone.com/wallpaper/wallpaper.php?id=00726-2 


หนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรงตั้งแต่ช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน 2550 แล้ว แต่ผมได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้เองจากเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ความคิดเห็นผมแวบแรกตั้งแต่ที่รู้จักหนังเรื่องนี้ตอนนี้เข้าโรงฉายใหม่ๆ ผมรู้สึกว่ามันก็แค่หนังตลกไร้สาระธรรมดาๆเท่านั้นเอง เนื้อทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่อยู่บนรถเมล์เกือบทั้งเรื่อง ซึ่งเต็มไปด้วยความชลมุนวุ่นวาย ของทั้งคนขับรถ กระเป๋ารถเมล์ และผู้โดยสารที่มีบุคลิกลักษณะต่างๆ กันไป (อ่านเรื่องย่อ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ที่  http://www.siamzone.com/movie/m/4489 ) หนังเรื่องนี้ถ้ามองจากมุมของคนที่อยู่ในวงการคนทำหนังคงได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งการตัดต่อภาพ การเดินเรื่องที่หลวมโพรก เนื้อหาสาระ แต่ถ้าเราลองสกัดเชื่อมโยงสิ่งที่ดูว่าไร้สาระออกมาให้ดูเป็นสิ่งที่มีสาระผมคิดว่าน่าจะมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าตอนที่ได้ดูจากเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นก็ดูอย่างเสียมิได้ แค่บังเอิญเปลี่ยนช่องไปเจอ แต่ก็ทนดูจนจบ หลังจากดูจบก็พบว่าเนื้อหาในหนังก็มีสาระอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ สามารถเชื่อมโยงไปได้หลายเรื่อง เช่น EQ การควบคุมอารมณ์ การแก้ปัญหาและตัดสินใจ การสื่อสาร การให้บริการ ความรัก การให้อภัย การห้อยแขวนคำพิพากษา ฯลฯ 



ภาพจาก http://www.siamzone.com/wallpaper/wallpaper.php?id=00726-4 


สิ่งแรกที่ผมพบจากการดูหนังเรื่องนี้คือ การสื่อสารของตัวละคนในหนังครับ ทั้งคำพูดรุนแรง หยาบคายด่า ยั่วยุ สะใจ คนที่รับสารก็สติไม่แข็งแรงพอที่จะรับกับคำพูดที่รุนแรงนั้น ก็เกิดการปรุงแต่ง เกิดโทสะ ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น ประการต่อมาที่ผมรู้สึกก็คือการคิดไปเอง ทั้งเหตุการณ์ที่อยู่ในรถ และเหตุการณ์ที่มีการสื่อสารทางโทรศัพท์ โดยที่ตนเองได้ตัดสินไปแล้ว จากกรอบความคิดของตัวเอง ที่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ พิพากษาไปแล้ว เช่น ฉากที่ผู้โดยสารแต่งตัวเซ็กซี่คุยกับฝรั่งแล้วบอกว่าตัวเองเป็นหมอกายภาพบำบัด ผู้โดยสารคนอื่นก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นหมอนวดกระมัง  เนื้อหาในเรื่องมีหลายฉากที่สามารถเชื่อมโยงไปยังเรื่องการแก้ปัญหาและตัดสินใจได้ เช่น การตัดสินใจของประเป๋ารถเมล์ ในสถานการณ์ต่างๆ การตัดสินใจของคนจี้รถเมล์ การตัดสินใจของผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ จะมาในรูปแบบของการตัดสินใจบนพื้นฐานของอารมณ์ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นในทางที่ดีก็ตาม แต่ก็สามารถเชื่อมโยงไปในเรื่องการให้อภัย การวางอุเบกขาได้ ซึ่งจะเห็นได้จากเนื้อเรื่องตอนท้ายๆ ที่ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ฉากที่กระทบใจผมมากๆ คือฉากที่กล่าวถึงการกลับไปหาครอบครัว ซึ่งตรงกับชีวิตคนที่มาขายแรงงานในเมืองหลวง หาเงินใช้ไปวันๆ ทุกอย่างต้องซื้อหา ชีวิตในเมืองหลวงได้ขโมยเสรีภาพจิตวิญญาณของความเป็นบ้านนอกไปหลายอย่าง จากการที่ต้องแข่งขัน เร่งรีบ ทำมาหากิน เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย ให้เกิดความสะดวกสบาย ถึงแม้ว่าการทำมาหากินการใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่มีการงานมั่นคง เงินทองไม่ขัดสน มีบ้าน มีรถ แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ของสุขในชีวิตที่แท้จริงได้ เขียนมาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงจะเริ่มรำคาญกับการบ่นแล้ว 



ตัวอย่างหนัง http://www.youtube.com/watch?v=rys_HOxFLJw 


กลับมาเข้าประเด็นการสกัดความรู้กันต่อดีกว่า หนังเรื่องนี้ผมคิดว่าน่าจะนำไปเชื่อมโยงในการออกแบบการทำกิจกรรมการเรียนรู้ได้ ตามเทคนิค AAR (After Action Review) โดยใช้ Clip ตัวอย่างหนังที่มีความยาวประมาณ 5 นาที เป็นตัวเหนี่ยวนำความรู้ หรืออาจจะใช้วิธีการให้ VDO เรื่องเต็มทั้งเรื่อง แล้วหยุดให้ดูเป็นระยะก็ได้เหมือนกับที่เคยใช้กับหนังเรื่อง Little Miss Sunshine ก็ได้ ( รายละเอียดดูที่ http://www.gotoknow.org/posts/300812 และ http://www.gotoknow.org/posts/301467 )


หมายเลขบันทึก: 519471เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2013 15:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2013 16:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

VDO เป็นสื่อที่เรียกความสนใจผู้ฟังได้ดีมาโดยตลอดค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท