มองผ่านตาในกับการที่ผู้คนปฏิบัติต่อครู


มองผ่านตาในกับการที่ผู้คนปฏิบัติต่อครู

  นึกง่าย ๆ ถึงคำแรกที่ดังขึ้นมากับตนเองว่า

“ไม่เข้าใจเลยทำไม ผู้คนมากมายส่งกระแสแบบนี้มาที่ครู”


กระแสสิ่งที่รู้สึกได้ถึงความไม่บริสุทธิ์ผ่องใสของใจ ส่งมาแบบมีน้ำหนัก มัว ๆ อย่างบอกไม่ถูก เป็นแรงผลักแรงดึงด้านลบ บางคราสัมผัสได้ถึงแรงริษยาบ้าง โทสะบ้าง อยากได้นั่น โน่น นี่ จากครูบ้าง บางคนก็เข้ามาแบบขาดสติ หลง ๆ หนักเข้าไปอีก บางคนก็ตกเป็นเครื่องมือ ของกิเลสผู้อื่นให้มาทำบ้าง ต่างกรรม ต่างวาระกันออกไป

จากการมองผ่านใจของลูกศิษย์อย่างหนู บางคราก็ประหลาดใจ งง บ้าง แบบมีคำขึ้นมากับตนเองว่า

“อิหยั๋งว้า”  “จั๊กอิหยั๋ง” ประมาณนี้

แต่ครูก็เอ่ยเสมอ ๆ ว่า

“ไม่ใช่เห็นแล้วก็ไปรังเกียจเขา ไปว่าร้ายเขานะ ให้เห็นเพื่อทำความเข้าใจ”

เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจที่ครู หมั่นบำเพ็ญเพียร ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คน แต่ผู้คนน้อยนักที่จะหยิบยื่นสิ่งเดียวกันให้กับครู


หนูสำรวจมาที่ใจของตนเอง

หนูเป็นคนหนึ่งที่ครูเข้ามา พลิกชีวิต ให้พลิกผัน จากสัตว์โลกทั่ว ๆ

ให้ชีวิตใหม่ ให้การเกิดใหม่ ในเส้นทางของการภาวนาฝึกฝน ใช้หลัก ทาน ศีล ภาวนา เข้ามาปฏิบัติปรับใช้กับชีวิต แบบไม่ใช่แค่ท่องบ่น ทำได้แค่ไหนก็ลุยเลย ลุยให้เต็มที่ ผิดพลาด พลาดพลั้งก็เอาใหม่ ทำไปจนกว่า ใจจะเบา ศีลจะสะอาด ไม่ใช่สะอาดแล้วค่อยมาทำ มันช้าไป ทำได้ครูบอกว่า “ททท ทำทันที”

หนูก็เลยเหมือนตุ๊กตาล้มลุก ตามแต่สติที่มี สติอ่อนก็เอ๋อ ครูก็เมตตาทุบ

สติแน่น ครูก็สอนใช้ปัญญาต่อ


ด้วยจิตที่หยาบของหนู ผู้คนมองเข้ามาบางคราก็ปรามาสครู

การช่วยเหลือครู แบ่งเบาภาระครู ท่านจึงย้ำกับหนูเสมอว่า ให้เพียรภาวนา

เพราะหากศิษย์ไม่เพียร คนก็จะปรามาสครูได้

ด้วยความที่ครูไม่รั้งรอ กระโจนลงไปช่วยใครได้ ครูทำทันที

ไม่มีรั้งรอ ไม่ได้รอให้ร้องขอแล้วค่อยลุย เพราะพอครูเห็นจังหวะ ก็ฉะกิเลสแบบแสกกลางหน้า

ไม่มีพรรค ไม่มีพวก ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะครูย้ำเสมอว่า

เราคือ เพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกัน


ด้วยกระบวนการและกรรมวิธีแบบนี้ จิตใจผู้คนที่เคยมืดดำหรือมัว ๆ ก็ค่อย ๆ ได้รับการชำระ ขัดเกลา จนสะอาดผ่องใสมากขึ้น

คนที่มัวแต่คลุกกับ โลภ โกรธ หลง เมามัวในตัวตนของตนเอง ไม่ละไม่ทิ้ง

ไม่รู้จักใช้ตาใจใส ๆ เข้าไปสัมผัส ใช้แต่สมองก็จะ เป็นเรื่องหนักหน่วงในการเข้าไป หาครู

เพราะใจครูใส ท่านเป็นประหนึ่งกระจกสะท้อนใจ ใจใคร มัว มืด ดำ ก็จะสะท้อนเงาให้

คนเหล่านั้นเห็นได้ง่าย แต่ที่ยากกับผู้คนคือ ไม่ค่อยจะยอมรับความชั่ว ที่เมามัวฉาบทาอยู่ในใจ

ก็มักจะใช้ครูเป็นเหยื่อ ของจิตด้านลบหนูรู้สึกได้ว่า “ครูเหนื่อย”

แต่ครูก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ มีแต่ ทำ ทำ ทำ

ทำเพื่อให้ทุกคนได้ถึงธรรม แบบที่ท่านพูดเสมอว่า “ทำธรรม สร้างคนให้มีคุณธรรม สาธุเจ้าค่ะ”


มาถึงวันนี้เดี๋ยวนี้ตอนนี้

ผลิตผลที่ครูเมตตาบำเพ็ญเพียร เริ่มจะผลิบาน

เด็กน้อยที่ครูบ่มเพาะ มีจิตใจมั่นคงห้าวหาญ


หนูที่เคยเป็นลูกศิษย์แบบเดี้ยง ๆ พาล ๆ ก็พอจะใช้การได้

งาน R2R ที่ครูก้าวไปขยายผลแต่ละที่ ก็ได้เห็นผลงาน ผลิดอกออกผล เบ่งบาน งดงาม

แม้ใคร ๆ ไม่เห็น คุณค่า แต่ครูก็ไม่ได้ ลดละ ความพยายามที่จะทำให้ดีขึ้น ๆ

มิหนำซ้ำ ครูยังคงก้าวไป พัฒนา สร้างคุณค่าให้สิ่งต่าง ๆ อย่างมั่นคง และงดงาม

หมายเลขบันทึก: 519353เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2013 11:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2013 12:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท