วันนี้จะมาแนะนำความผิดปกติที่เกิดขึ้นพร้อมกับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่น่าสนใจ นั่นคือ FB
คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ล้วนใช้ Facebook เพื่อติดต่อสื่อสาร โพสต์บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของตนเองลงไปบน "หน้ากระดาน" หรือ "Wall" ของเฟซบุ๊ก เพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพกับเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่
ขณะเดียวกัน บางกลุ่มก็ใช้เฟซบุ๊กเป็นสื่อคลายเหงา ระบายความขุ่นข้องใจ แสดงทรรศนะการเมือง ไปจน ถึงทำการค้า ฯลฯ แต่ในกระแสนิยมดังกล่าวนี้เองได้ทำให้เกิดโรคๆ ใหม่ขึ้นมา นั่นคืออาการ ที่นักจิตวิทยาเรียกว่า โรคเสพติดการเล่นเฟซบุ๊ก หรือ "เฟซบุ๊ก แอดดิกชั่น ดิสออร์เดอร์" (Facebook Addiction Disorder : FAD) ซึ่งชาวเอฟบีจำนวนไม่น้อยอาจล้มป่วยด้วยโรคนี้ไปแล้วโดยไม่ทันรู้ตัว ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงเกิดอาการนี้มากที่สุด
ปัจจุบัน "สหรัฐอเมริกา" เป็นประเทศที่มีสถิติผู้ใช้งานเว็บเฟซ บุ๊กมากที่สุดในโลก มีจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมดราว 125,881,220 คน ในกลุ่มนี้เป็นผู้หญิง 55.8 เปอร์เซ็นต์ ชายอีก 44.2เปอร์เซ็นต์
ผลจากการที่สหรัฐทุบสถิติมีพลเมืองเฟซ บุ๊กสูงสุด ทำให้นักจิตวิทยาแสดงความวิตกกังวลว่า ปัญหาเสพติดเฟซบุ๊ก หรือ FAD อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ถ้าเล่นเว็บดังแห่งนี้โดยปราศจากความยับยั้งชั่งใจ ข้อห่วงใยดังกล่าวยิ่งตอกย้ำว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ภายหลังบริษัท ออกซิเจนมีเดียและไลต์สปีดรีเสิร์ช ทำแบบสอบ ถามสำรวจพฤติกรรมประชากรสหรัฐ วัยผู้ใหญ่ 1,605 คน ระหว่างเดือนพ.ค. ถึงมิ.ย. ที่ผ่านมา และพบข้อมูลชวนตกตะลึง ว่า
ผู้หญิงยุคใหม่ในสหรัฐที่เติบโตมาพร้อมๆ กับความเจริญของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตนั้น ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตประจำวัน "ผูกพัน-ผูกติด" กับเฟซบุ๊กอย่างมาก โดยผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 18-34 ปี จำนวน 1 ใน 3 ระบุว่า สิ่งแรกที่ทำหลังจากตื่นนอนก็คือต้องเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กก่อนเป็นอันดับแรก
จากนั้นจึงค่อยเข้าไปแปรงฟัน ทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ นอกจากนี้ ผู้ตอบร้อยละ 39 ยอม รับว่า รู้สึกว่าตนเองเสพติดการเล่นเฟซบุ๊กเข้าให้แล้ว!
ส่วนสถิติในด้านอื่นๆ จากการทำสำรวจข้างต้น ยังมีข้อมูลชวนตะลึงเกี่ยวกับสาวๆ ซึ่งเป็นสาวกเฟซบุ๊ก อีกหลายข้อ เช่น
ร้อยละ 21 บอกว่า ตื่นมากลางดึกเพื่อเช็กเฟซบุ๊ก
ร้อยละ 63 ใช้เฟซบุ๊กเป็นสื่อกลางสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์
ร้อยละ 42 มองว่า การโพสต์ภาพวาบหวามของตัวเองลงในเว็บเฟซบุ๊กเป็นเรื่องธรรมดาๆ
ร้อยละ 79 เห็นว่า การโพสต์ภาพจูบกันลงเว็บไม่ใช่เรื่องผิด
ร้อยละ 58 จะติดตามพฤติกรรมของคนที่เกลียดขี้หน้ากันผ่านเฟซบุ๊ก
ร้อยละ 50 มองว่า การคบหาเป็น "เพื่อนใหม่" กับ "คนแปลกหน้า" ผ่านเฟซบุ๊กเป็นเรื่องปกติ
ร้อยละ 50 ตอบว่า พร้อมลองคบหาไปเที่ยวกับผู้ชายที่พบเจอในเฟซบุ๊ก
ร้อยละ 6 ใช้เฟซบุ๊กหาแฟน
ขณะที่หญิงสาวร้อยละ 57 เผยว่า โพสต์ข้อความคุยกับคนในเฟซ บุ๊กมากกว่าคนตัวเป็นๆ ที่เจอในชีวิตจริง!
ปัจจุบัน วิวัฒนาการของโรคต่างๆ มักมีสาเหตุขึ้นกับพฤติกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะในยุคที่ FB กำลังเป็นที่นิยมนั้น หากมีการใช้จนเกินพอดี จะก่อให้เกิดความผิดปกติจากการเสพติดเฟสบุ๊คได้ เราเรียกว่า Facebook Addiction Disorder หรือ FAD สําหรับวิธีดูตัวเองว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายเสพติดเฟซบุ๊กหรือไม่ สามารถสังเกตได้โดยทั่วๆ ไป ดังนี้
1. ไม่มีความอดทน อยากเพิ่มเวลาการเล่นเฟซบุ๊กมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีความเห็น