เช้าวันที่ ๔ ของการย่ำแดนคาสิโน ตามแผนเดิม คือการเดินทางไป ช้อปปิ้งที่จูไห่ จีนแผ่นดินใหญ่ ปรากฏว่าช่วงนั้นเขากำลังเตรียมงานเพื่อรองรับการจัดงานใหญ่ เลยงดการออกวีซ่าเข้าจีนจากมาเก๊า คณะของเราเลยต้องปรับแผนมาช้อปในมาเก๊าแทน แต่สำหรับผมกลับดีกว่าแผนเดิม เนื่องจากไม่ชอบช้อปอยู่แล้ว...๕๕๕
ทางฝ่าย สส. ได้รับการบอกกล่าวให้เตรียมการช้อปให้ครบตามแผนในวันนี้ เพราะเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะเดินทางกลับเมืองไทยในเช้าวันรุ่งขึ้น ดังนั้น สส. หลายคนจึงออกจากโรงแรมที่พักพร้อมกระเป๋าเป้บนหลังและกระเป๋าที่มีล้อลาก เตรีมพร้อมสำหรับการช้อป ส่วนผมก็แค่แบกเป้ใบเดิมเช่นเดียวกับวันแรกที่มาถึง ใส่น้ำเปล่าหนึ่งขวดเล็ก สำรองไว้เท่านั้น
คณะของเราเริ่มต้นวันนี้ด้วยการเดินทางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ที่วัดเก่าแก่มากที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๓ ภายในมีแท่นบูชาอันสวยงามใช้สำหรับประดิษฐานองค์พระพุทธรูป และองค์เจ้าแม่กวนอิม ในชุดเจ้าสาวของจีนที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างงดงาม ด้านในมีโต๊ะหินที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะใช้เป็นสถานที่ลงนาม ในสนธิสัญญาทางมิตรภาพ ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน เมื่อปี ค.ศ. ๑๘๔๔ และมีต้นบอนไซดัดเป็นรูปตัวหนังสือจีนสื่อความหมายว่า "การมีชีวิตยืนยืนยาว"
ในเช้าวันนั้นปรากฏว่านอกจากคณะของเราแล้ว มีเพียง ฝรั่งสูงอายุอีก ๒ คนเท่านั้นที่แวะมาไหว้เจ้าแม่ทับทิม เมื่อเขาเห็นกลุ่มเราผลัดกันถ่ายภาพกันอยู่เขาก็เลยอาสา ถ่ายภาพให้พวกเรา จะได้มีภาพครบทุก ๆ คนในภาพเดียว เมื่อเขาถ่ายกลุ่มเราเสร็จแล้ว เราก็เลยอาสาถ่ายภาพคู่ให้เขาเป็นการตอบแทน เป็นเรื่องที่มักเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ในการเดินทางไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ.....ไม่น่าเชื่อเรื่องคล้ายกันได้เกิดขึ้นกับเราอีกในวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๖ ที่ผ่าน ที่เราไปไหว้พระพุทธชินราช ที่พิษณุโลก หลังจากไปร่วมงานแต่งของหลาน เลยทำให้เราได้ภาพคู่มาฝาก....อิอิ
ไม่มีความเห็น