ดิฉันมีโอกาสไปร่วมฟังการทำเวทีประชาคมเพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ความมั่นคงทางสุขภาพ และการมีส่วนร่วมกรณีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์จะให้เกิดความมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งจะก่อให้เกิดความยั่งยืนมากกว่าการที่ภาครัฐจะสั่งการให้ข้าราชการลงไปดำเนินการแต่ฝ่ายเดียว ผู้มาร่วมโครงการดังกล่าวมาจากทุกองค์กรสำคัญ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด อบจ. นายกเทศมนตรี คณะเทศมนตรี สสจ. กรรมการโรงพยาบาล/เครือข่าย กรรมการพัฒนาโรงพยาบาลร้อยเอ็ดและเครือข่าย ผู้แทนจากโรงพยาบาลเอกชน กลุ่มแม่บ้าน ผู้พิการ เยาวชน อสม. ตลอดจนชมรมต่างๆ รวม ๒๐๐ คน
จากการเข้าร่วมฟังการทำเวทีประชาคมครั้งนี้ ดิฉันขอหยิบยกความประทับใจท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ท่านบรรจง โฆษิตจิรนันท์ ที่มีแนวคิดในการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านยกตัวอย่างของการบริโภคที่เราตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ท่านเล่าว่าท่านเคยมีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่กับชาวญี่ปุ่น จึงได้พูดคุยและซักถามถึงสินค้าญี่ปุ่น คือ ผงชูรสชื่อดังสกุลญี่ปุ่นว่ามีประจำบ้านหรือไม่ ที่เมืองไทยใช้กันแพร่หลายและใส่คราวละมากๆ ท่านให้คุณผู้หญิงของบ้านหยิบขวดผงชูรสมาโชว์ บอกว่าใช้เหมือนกัน แต่ก็ต้องประหลาดใจ เพราะขวดเล็กนิดเดียว พร้อมกับโชว์ที่ตักผงชูรสขนาดเท่าไม้แคะหู เวลาปรุงอาหารบางประเภทที่จะใส่ ก็ใส่เพียงเล็กน้อย โดยใช้ไม้สะกิดใส่ ใส่กับอาหารเพียงบางประเภท มิใช่ตะบี้ตะบันใส่กันทุกชนิด ว่ากันว่าบางร้านในเมืองไทยอาการหนักขนาดใส่น้ำหุงข้าวด้วยซ้ำ
เป็นผลให้เราได้รับโซเดียมมากเกินความจำป็น กระตุ้นให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูงได้มากทีเดียว หลายท่านฉงน เอ! ผงชูรสไม่เค็ม ทำไมมีโซเดียม ผู้เรียนสายวิทย์คงพอทราบว่าชื่อทางเคมีของผงชูรส คือ โมโนโซเดียมกลูตาเมต และขอย้ำว่าอาหารที่มีโซเดียมไม่จำเป็นต้องมีรสเค็มเสมอไป
เพลาๆ อาหารที่มีโซเดียมสูงกันหน่อยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้เป็นเบาหวานหรือผู้เป็นความดันโลหิตสูง ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างใกล้ชิด
เล่าเรื่องโดย: คุณสุนทรี นาคะเสถียร, ผู้จัดการฝ่ายบริการการศึกษาและวิจัย รพ.เทพธารินทร์