.
คำนี้มาจากภาษาฝรั่งเศส ละตินตามลำดับ, ศัพท์เดิม = sheet, card = ชีท แผ่นกระดาษ; คนไทยนิยมเรียกแผ่นสรุปการสอนของอาจารย์ว่า "ชี้ท"
เกือบ 20 ปีก่อน, มีการศึกษาหนึ่งพบว่า เด็กไทยชอบอาจารย์ที่ทำชี้ทขนาด 10-13 หน้า, น้อยกว่านี้... เด็กๆ บ่นว่า ไม่ละเอียดพอ, ยาวกว่านี้... เด็กๆ บ่นว่า ยาวไป น่าเบื่อ
.
เรื่องนี้สอนเราว่า การเป็นครูบาอาจารย์นี้แสนยาก ทำอย่างไรก็ไม่ได้ดังใจเด็กนักเรียน
.
เด็กนักเรียนท่านหนึ่งคงจะก๊อปปี้บทความจากบล็อกไปส่งคุณครู เขียนบ่นว่า ค้นคว้าไม่ละเอียดพอ ต่อไปให้คนเขียนบล็อกค้นคว้าให้มากกว่านี้... คนแบบนี้ก็มี!
.
ฝรั่งมีหลักการหนึ่ง ซึ่งทำให้พัฒนาไปสู่ความเป็นมหาอำนาจสำเร็จ
.
.
หลักการนั้น คือ การศึกษาพื้นฐานควรสร้างคนให้เป็นนักค้นคว้าหาข้อมูล (searchers), หาความรู้ใหม่ได้ด้วยตัวเองได้ตลอดชีวิต (lifelong self-learning)
.
ตรงนี้บอกเราว่า ประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศที่กำลังพัฒนาไปอีกนานนั้นห่างกันไกลมาก
สมัยก่อนมีการเรียกวัณโรค (tuberculosis / TG) ว่า โรคคอนซัมชั่น คือ คนที่เป็นมักจะซูบ ผอมลง คล้ายกับถูกตัวอะไรสูบเลือดสูบเนื้อไป
.
ภาพที่ 1: แสดงสถิติ 10 ประเทศมหาอำนาจด้านการกินไอติม = ประเทศที่มีอัตราการกินไอติมต่อหัวมากที่สุด (หน่วย: ลิตร/หัว/ปี)
- นิวซีแลนด์ > 28.4
- สหรัฐอเมริกา > 20.8
- ออสเตรเลีย > 18
- ฟินแลนด์ > 14.2
- สวีเดน > 12
- แคนาดา > 10.6
- เดนมาร์ก > 9.8
- ไอร์แลนด์ > 8.4
- อิตาลี > 8.0
- อังกฤษ (UK) > 7.0
.
10 มหาอำนาจด้านการกินไอติมเป็นประเทศที่มีชาวตะวันตก หรือฝรั่งอยู่เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนคนฮิสแปนิค (hispanic = สเปน) หรือกลุ่มคนที่อพยพมาจากเม็กซิโก-อเมริกากลาง-อเมริกาใต้มากขึ้นเรื่อยๆ
.
ออสเตรเลียที่เดิมมีฝรั่งอยู่มาก มีนโยบายรับคนที่มีการศึกษาเข้าประเทศ เน้นวิศวกร-นักวิทยาศาสตร์-พยาบาล-หมอ ทำให้คนอินเดีย คนจีนอพยพเข้าไปมากขึ้น
.
คนฮิสแปนิค อินเดีย จีนส่วนใหญ่มีลูกดกมากกว่าฝรั่ง ทำให้สัดส่วนฝรั่งในประเทศมีแนวโน้มจะลดลง (ยกเว้นฝรั่งพลิกกลับไปทำลูกมากใหม่)
.
ทีนี้มาดูซีกโลกตะวันออกบ้าง, ประเทศมหาอำนาจด้านการกินไอติมได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทยตามลำดับ
- สิงคโปร์ > 2.4
- มาเลเซีย > 1.9
- ไทย > 1.5
- จีน > 1.0
- ฟิลิปปินส์ > 0.8
- ปากีสถาน > 0.4
- อินโดนีเซีย > 0.1
- อินเดีย > 0.1
.
กล่าวกันว่า คนบนโลกมักจะมีพฤติกรรมตามอย่างประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นหลัก
.
ทางยูนิลีเวอร์ ซึ่งมีสาขาทั่วโลก และเป็นสถานที่ฝึกงานของนักศึกษาในไทยจำนวนมาก คาดการณ์ว่า ประเทศที่ "ล้าหลัง" ด้านไอติมเป็นประเทศที่ไอติมจะขายดีขึ้นได้อีกมาก (emerging countries)
.
ไอติมมีส่วนประกอบสำคัญเป็นฟองอากาศ ซึ่งอาจมีมากได้จนถึง 50% ของปริมาณไอติมทั้งหมด
.
หลังกินไอติมควรรีบบ้วนปากตามหลายๆ ครั้ง เพื่อป้องกันฟันผุ และเดินเร็วขึ้นให้มากตลอดวัน เพื่อป้องกันอ้วน หรือน้ำหนักขึ้น
.
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.