เหตุเกิดวันฝนตกหนัก.....น้ำฝนปนน้ำใจ


ความดีไม่ได้มีให้ทำบ่อยๆ

 เช้าวันนี้ฝนตกหนัก ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ผู้เขียนกับลูกชายเลยต้องขับรถออกไปรับประทานข้าวเช้า(สายหน่อยๆ)ที่ตลาดหนองมน เพราะขืนรอฝนหยุดคงสายกว่านี้ แล้วก็ต้องเสียธุระเป็นแน่

 ขณะที่ขับรถมาเกือบถึงตลาดหนองมนนั้น เพราะภาพนี้ทีเดียว ที่ทำให้ผู้เขียนและลูกชาย ตัดสินใจจอดรถ แล้ววิ่งฝ่าสายฝนเพื่อไปช่วยเหลือเจ้าของรถคันนั้น ที่อาจกำลังได้รับอันตรายอยู่ก็ได้



 มีรถที่เพิ่งจะจอดก่อนหน้าผู้เขียนอยู่สองคัน แต่เหตุการณ์นี้เพิ่งจะสดๆร้อนๆ มองไม่เห็นเจ้าหน้าที่ เลยคิดว่าอาจได้ช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เมื่อข้ามถนนไปได้ คนมาก่อนก็บอกว่า เพิ่งจะเคาะกระจก ช่วยน้องคนขับออกมา

นี่เป็นถนนสายหลัก ที่พื้นผิวดีมาก แต่ใครจะรู้ว่า เมื่อฝนตกจนน้ำเจิ่งนองผิวถนนนั้น ทำให้มองไม่รู้ว่า ริมถนนตรงนี้ มีร่องระบายน้ำ ที่ลึกพอสมควร โดยไม่มีสัญญลักษณือะไรเลย น้องเจ้าของรถบอกว่าถนนลื่น ตกใจเลยเหยียบเบรคอย่างแรง รถปัดเข้าข้างถนน แต่โชคไม่ดี ตรงนั้นเป็นร่องลึกจนรถจมลงไปในน้ำ

   เจ้าของรถเป็นหญิงตัวเล็กๆ ดูตกใจมาก กังวล กระวนกระวาย กดโทรศัพท์ ตามเอกสารในมือที่เปียกปอน ไม่รู้ว่าโทรไปไหนบ้าง ประเดี๋ยวก็ลุยน้ำไปดูรถ ประเดียวก็ทำท่าออกไปโบกรถที่วิ่งไปมา บอกแต่ว่า ช่วยลากรถหนูขึ้นจากน้ำที ตัวน้องสั่นด้วยทั้งตกใจ ทั้งหนาว เพราะฝนตกหนาเม็ดไม่หยุดเลย



 น่ากลัวว่ารถที่วิ่งไปมาบนท้องถนน จะเฉี่ยวชนน้องเข้าไปอีก

ผู้เขียนตัดสินใจกลับไปที่รถ เอาเสื้อแจคเก็ตมาสวมให้น้องเพื่อให้ความอบอุ่นร่างกาย ถือโอกาสกอดน้องเพื่อเรียกสติกลับมา บอกให้มาหลบฝนก่อน สักพักน้องก็ฟุ้งขึ้นมาอีก รถหนูต้องซ่อมนานไหม แล้วหนูจะไปทำงานอย่างไร ฯลฯ

   กลุ่มคนที่จอดรถมาช่วยสองคันแรกนั้น เป็นญาติกันทั้งหมด เพิ่งกลับจากการลอยอังคารคุณแม่ที่เสียชีวิต น้ำใจดีมาก และเขามีชุดเสื้อกั๊กใส่ขณะลงมาช่วยเหลือ เพื่อให้รถคันอื่นเห็นชัด เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง  เราเลยวางแผนช่วยน้องกันอย่างรวดเร็วดังนี้

 กลุ่มเขาจะออกไปโบกรถให้ชิดซ้าย ให้สัญญาณว่าตรงนี้มีอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นความกล้าหาญมาก แต่ก็ช่วยชะลอรถบางคันวิ่งมาเร็วเหลือเกินท่ามกลางสายฝน 



 ส่วนลูกชายของผู้เขียนทำหน้าที่โทรตามประกัน เป็นระยะ และคอยบอกจุดหมายที่เกิดเหตุ ส่วนผู้เขียนก็คอยเตือนสติ คุมน้องไว้ ไม่ให้เดินเพ่นพ่าน ให้กำลังใจ ว่าพวกเราจะอยู่จนประกัน และพี่ชายของน้องจะมา



  เพราะร่มมีจำนวนจำกัด  บางทีเราก็เดินตากฝนกันบ้าง  จึงเปียกปอนกันทุกคน คนที่มาช่วยคนหนึ่งบอกว่า ไม่เป็นไร ความดีไม่ได้มีให้ทำบ่อยๆ

  พวกเราอยู่และช่วยเหลือน้องจนญาติและประกันมา เวลาร่วมสองชั่วโมง แต่ดูมันยาวนานมาก แต่เป็นช่วงเวลายาวนานที่อยากทัศนา เพราะเห็นความช่วยเหลือเกื้อกูลกันแล้ว มันชื่นใจ ชื่นฉ่ำกว่าสายฝนเสียอีก


 สรุปว่า 1.หลังจากรถเรา3คันแล้ว ไม่มีรถคันไหนจอดลงมาดูอีกเลย  2.แต่มีรถหน่วยกู้ภัยมาหนึ่งคัน พอเห็นนไม่มีคนเจ็บก็จากไป 3. เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดบริเวณฝั่งตรงข้าม เยื้องกับสถานีตำรวจทางหลวง แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวออกมาช่วยเหลือสักคน

  รูปคนมีน้ำใจงามๆเหล่านี้ ผู้เขียนขอนำลงบันทึก เพื่อเผยแพร่ เกียรติคุณของพวกเขาทุกคน และขอสรรเสริญความดีงาม ที่เพื่อนมนุษย์ทำให้แก่กัน ในยามวิกฤต คับขันอันตราย โดยที่ทั้งหมด มิได้เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

...เมตตาธรรมค้ำจุนโลกา

ดั่งฝนจากฟ้า

หลั่งมาชโลมสู่ดิน...

หมายเลขบันทึก: 517734เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2013 22:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มกราคม 2013 22:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ดีใจที่น้องได้พบคนดี ๆ  นะคะ....ตกน้ำไม่ไหล

ความดีไม่มีวันตาย

มาร่วมชื่นชมความดีงามของหัวใจทุกท่าน ณ ที่แห่งนี้ ... ขอคุณงามความดีปกป้อง คุ้มครองรักษานะคะ

น้ำเอยน้ำใจ..มีอยู่ทุกหนแห่ง..น้ำใจของทุกคนในภาพขอชื่นชมด้วยความจริงใจนะคะ Happy ba ๆๆๆ

ยามลำบากไม่ทอดทิ้งกัล..ชื่นชมความมีน้ำใจเช่นนี้ค่ะ

ดีใจและขอบคุณสำหรับความดีที่ทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้นค่ะ

เป็นสังคมที่เอื้ออาทรมากๆขอชื่นชมครับพี่

ขอแสดงความชื่นชมครับ 

คนไทยน้ำใจงดงามเสมอนะครับ

 ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาร่วมชื่นชมทั้งข้อความและดอกไม้ำลังใจ

ดิฉันขอมอบส่งต่อให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนั้นทุกท่าน

ที่ได้สร้างคุณงามความดี

ด้วยความเมตตา ความอดทนสุดๆ

ท่ามกลางสายฝนอันหนาวเหน็บนับชั่วโมง

ขอให้พลังดีนี้ จงแผ่ไพศาลไปทั่วในสังคมโลกนี้ด้วยเทอญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท