สองสิ่งที่พุทธต่างจากคริสต์โดยสิ้นเชิง
สองสิ่งที่พุทธต่างจากคริสต์โดยสิ้นเชิง
๑)คริสต์สอนว่าพระเจ้าสร้างโลก มนุษย์ สิ่งแวดล้อมทั้งหมด รวมทั้งสร้างจิตวิญญาณให้มนุษย์ ด้วย โดยสร้างทำนองว่าเป็น “กระจกเงา” แห่งพระองค์ นอกจากนี้ยังสอนว่าพระเจ้าทรงรู้รอบหมดทุกอย่าง (เป็น omni-science) แล้วทรงสร้างมนุษย์และแวดล้อมตามความรู้นั้น ...สรุปคือ สรรพสิ่งถูกสร้างขึ้นจากความรู้ (ของพระเจ้า)
ส่วนศาสดาแห่งศาสนาพุทธนั้น สอนแทบจะตรงกันข้าม เพราะตามหลัก “ปฏิจจสมุปบาท” นั้น พพจ. สอนว่า ต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่งคือ อวิชชา (ความไม่รู้) ....(เทียบกับ “ความรู้รอบ”omniscience ของ ศาสนาคริสต์ สิ)
พอมีความไม่รู้ ก็เกิดการปรุงแต่ง (สังขาร) เกิดจิตวิญญาณ และอื่นๆ ตามมาเป็นระลอก ลงไปจนถึง ทุกข์ โทมนัส อุปายาส นั่นเทียว...สรุปว่า สรรพสิ่งถูกสร้างขึ้นมาจาก "ความไม่รู้"
ไม่ได้ว่าใครผิดถูกหรือดีเลวกว่ากัน แต่เสนอว่า มันต่างกันมาก ฟ้ากะเหวเลย (หรือว่าฟ้ากะเหวมันใกล้กันนิดเดียว)
๒) ศาสนาคริสต์สอนว่า มนุษย์ทุกคนมี “บาปดั้งเดิม” (original sin) ที่จะต้องได้รับการชำระล้าง (การไถ่บาป) ด้วยนักบุญบริสุทธิ์ (หรือโดยพระมหาไถ่ แล้วแต่นิกายแห่งความเชื่อ) ก่อนที่จะสะอาดจนผ่านประตูไปสู่ปรมัตถ์สูงสุดได้
....แต่พุทธสอนว่า ทุกคนมี “บุญดั้งเดิม” (original mind หรือ จิตเดิมแท้ หรือ จิตประภัสสร) ซึ่งถ้าทุกคนออกแรงชำระล้างกิเลสที่พอกหนาไว้เรื่อยๆ ด้วยตนเอง สักวัน กิเลสสึกหมด จิตเดิมแท้นี้ก็จะฉายแสงวาวให้เห็น เด่นเป็นสง่า
ไม่ได้ว่าใครผิดถูกหรือดีเลวกว่ากัน แต่เสนอว่า มันต่างกันมาก ฟ้ากะเหวเลย (หรือว่าฟ้ากะเหวมันใกล้กันนิดเดียว)
ศาสนาฝรั่งนั้นดูเหมือนว่า สอนให้เชื่อในการสร้างโลกแบบไม่เป็นวิทยาศาสตร์ (ข้อที่ ๑) และสอนให้พึ่งผู้อื่นในการหลุดพ้นโดยไม่ต้องพึ่งตัวเอง (ข้อที่ ๒) ส่วนศาสนาพุทธสอนให้คิดอย่างเป็นเหตุผล และสอนให้พึ่งตนเองในการหลุดพ้น ต้องออกแรงถูไคลกิเลสให้หมด ไม่อาจล้างบาปได้ง่ายๆ ด้วยนักบุญที่ไหนก็ไม่รู้
แต่ประหลาดสุดๆ ว่า ทำไมวันนี้ ฝรั่งกลับนำโลกด้านวิทยาศาสตร์ และ พึ่งตนเองมากกว่าพึ่งคนอื่น
ส่วนคนไทย นับถือสมาทานพุทธศาสนามานาน ที่สอนให้เชื่อเหตุผล และพึ่งตนเอง แต่กลับเชื่อไสยศาสตร์มาก และไม่พึ่งตนเอง แต่หันไปพึ่งแต่ผู้อื่น เช่น พึ่งทุนต่างชาติ วิชาการต่างชาติ พึ่งเจ้านาย ผู้มีอำนาจ พึ่งนักเลือกตั้ง เป็นต้น
โอพระ(พุทธ)เจ้า ช่วยลูกคิดด้วยว่าทำไมมันจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้
...คนถางทาง (๒๘ มกราคม ๒๕๕๖)
ปล. ถ้าจะปรองดองสองศาสนาก็พอมีทางอยู่ เช่น คริสต์ว่าปัญหาทั้งมวลเกิดจากบาปดั้งเดิม (original sin) เราก็ว่าพุทธเราก็เหมือนกันที่สอนว่าปัญหาทั้งมวลเกิดจากความโง่ดั้งเดิม (อวิชชา) (original stupidity) ตามหลักปฏิจจสมุปบาท
การหลุดพ้นคริสต์ว่าต้องไถ่บาป พุทธเราก็ว่าต้องไถ่ความโง่ ให้หมดไป
เพราะถ้าบาปก็โง่ ถ้าโง่ก็บาป (อดัม อีฟ กินแอปเปิ้ล เพราะโง่ ไม่รู้ ก็เลยกลายเป็นบาป)
ดังนั้นโง่และบาป คือสิ่งเดียวกัน
ความเห็น (3)
Main มันอยู่ที่ตรงนี้หรือเปล่าครับอาจารย์
ส่วนคนไทย นับถือสมาทานพุทธศาสนามานาน ที่สอนให้เชื่อเหตุผล และพึ่งตนเอง แต่กลับเชื่อไสยศาสตร์มาก และไม่พึ่งตนเอง แต่หันไปพึ่งแต่ผู้อื่น เช่น พึ่งทุนต่างชาติ วิชาการต่างชาติ พึ่งเจ้านาย ผู้มีอำนาจ พึ่งนักเลือกตั้ง เป็นต้น
โอพระ(พุทธ)เจ้า ช่วยลูกคิดด้วยว่าทำไมมันจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้
ตามความคิดของผมนะครับ
ในข้อที่หนึ่งนั้นผมว่าศาสนาคริสต์ในพระคำภีร์เก่า (ซึ่งมาจากศาสนายูดาห์) น่าจะเขียนในเชิงเปรียบเปรยครับ ถ้ามองพุทธว่ามีต้นตอจากฮินดูเราก็จะเห็นแนวคิดการสร้างโลกไปในลักษณะเดียวกัน (ซึ่งดูเหมือนศาสนาเก่าๆ กว่าพุทธและคริสต์จะไปในแนวทางเดียวกันทั้งสิ้น) แต่พุทธไม่ให้ความสำคัญกับแนวคิดเหล่านั้น พุทธไม่ได้ปฎิเสธเพียงแต่ตั้งข้อสงสัยและเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะศึกษา เน้นมาศึกษาที่ตัวตนของผู้ปฎิบัติเองดีกว่า ส่วนคริสต์รับพระคำภีร์เก่าในส่วน genesis มามากทีเดียว (แต่ส่วนอื่นๆ กลับไม่ได้เน้นมากนัก)
ส่วนในข้อที่สองนั้นทั้งพุทธและคริสต์พูดเหมือนกันนะครับ ผมคิดว่าไม่ได้ต่างกันครับ ต่างกันที่เลือกมอง "backward" หรือ "forward" เท่านั้นเองครับ ทั้งสองอย่างนี้เป็นของใหม่ของพุทธและคริสต์ทั้งคู่ ไม่ได้มาจากฮินดูหรือยูดาห์ครับ
ผมฝึกวิปัสสนาสมาธิเพื่อเข้าถึง "Revelation of God" และฝึก Christian Meditation เพื่อให้เห็นโพธิจิต (original mind) ครับ และเท่าที่ผมทราบ "God's Revelation" นั้นไม่สามารถให้ใครมาทำให้ได้ครับ อยู่ที่ตัวเราเองเท่านั้นครับ และอย่างแรกสุดเราก็ต้องพยายามหลุดพ้นจาก original sin ให้ได้ก่อนครับ เริ่มจาก Seven Deadly Sins ครับ และวิธีที่ดีมากในการหลุดพ้นจาก Seven Deadly Sins คือใช้ มรรคแปด (Nobel Eightfold Path) ครับ
ฟ้ากับเหวไม่ต่างกัน และไม่ได้อยู่ชิดกัน แต่มันคือจุดเดียวกันต่างหาก