หลังจากเลิกงาน ข้าพเจ้ามักจะไปวิ่งออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียดและเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกาย เย็นวันนี้ก็เช่นเคย ข้าพเจ้าไปวิ่งออกกำลังกายรอบๆ บริเวณวังสวนจิตรฯ อากาศในฤดูหนาว แม้จะไม่หนาวเช่นที่ต่างจังหวัด แต่ก็ยังพอมีสายลมเย็นสดชื่นโชยมาเป็นระยะๆ แสงแดดอันร้อนแรงเริ่มเปลี่ยนเป็นแสงสีทองอมส้ม ท้องฟ้าสีชมพูระเรื่อ....นับเป็นอีกช่วงเวลาของวันที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับข้าพเจ้าในการเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติรอบกาย
ข้าพเจ้าเดินทอดน่องช้าๆ... รถยนต์มากมายบนท้องถนนที่กำลังติดไฟแดง....ผู้คนคลาคล่ำ
ส่วนหนึ่งยืนรอรถ บางส่วนยืนเบียดเสียดกับบนรถประจำทาง บางส่วนนั่งหลับ
บางส่วนนั่งทำหน้าเซ็งๆ กับรถที่ติดไม่ขยับไปไหนสักที มองดูวิถีชีวิตผู้คน บนท้องถนน หลายคนดูเหน็ดเหนื่อยและเร่งรีบ
เอ...เค้าจะรีบไปไหนกันนะ? หรือเค้าจะรีบกลับไปผ่อนที่บ้านในเย็นวันศุกร์เช่นนี้
หรือกำลังจะออกไปปาร์ตี้วันศุกร์ตามธรรมเนียมของมนุษย์เงินเดือน
เดินไปเรื่อยๆ ฟังเพลงเบาๆ เคล้าเสียงรถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา...เสียงธรรมชาติรอบกายแทรกผ่านหูฟังเข้ามาปนกับจังหวะเสียงเพลงเป็นระยะๆ....เสียงนกร้อง เสียงเด็กหัวเราะยังคงลอยผ่านหู แม้จะไม่ได้มีการเรียบเรียงให้ไพเราะดังเช่นบทเพลง แต่ก็ทำให้รู้สึกดีได้อย่างน่าอัศจรรย์
รอบๆ วังสวนจิตรฯ ปลูกดอกไม้หลากสีหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาก็จะเห็นดอกดาวเรืองสีเหลืองอร่ามเป็นแนวยาวสดใส...และตอนนี้ดอกบานชื่นหลากสีก็มายึดตำแหน่ง โชว์ความงามอวดตาผู้คนที่เดินสัญจรผ่านไปมา
มองไปทางเสียงหัวเราะของเด็กน้อย เห็นคุณพ่อและลูกๆ กำลัง
ให้อาหารปลาและเต่า....ดูแล้วเป็นกิจกรรมน่ารักๆ ของครอบครัว สิ่งเหล่านี้ล้วนปลูกฝังการแบ่งปันและความเอื้ออาทรให้กับจิตใจอันอ่อนโยนของเด็ก
จิตใจดวงน้อยๆ คงค่อยๆ ซึมซับ เรียนรู้ที่จะแบ่งปันและเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก...”ตัวอย่างที่ดี
มีค่ากว่าคำสอน” ยังคงเป็นจริงเสมอ
ชายวัยกลางคน กำลังค้นอะไรสักอย่างจากถุงดำแล้วโยนลงน้ำ เมื่อข้าพเจ้าเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเศษผัก เศษเปลือกไข่ เศษอาหารถูกรื้อค้นออกมาจากถุงดำ เค้าเทเศษอาหารเหล่านั้นลงในน้ำเพื่อเป็นอาหารให้กับปลาและเต่า ข้าพเจ้าเดินไปนั่งลงริมน้ำและมองดูอย่างเงียบๆ สังเกตว่าเค้าใช้ถุงพลาสติกแทนถุงมือ ค่อยๆบรรจงคัดแยกขยะ....ขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหารต่างๆ และเศษผักหลากชนิด ทั้งผักบุ้ง คะน้า สลัด แครอท ฟักทอง จะถูกแยกออกจากขยะแห้งพวกถุงพลาสติก ซึ่งปลาและเต่ากินไม่ได้ ดูท่าพวกปลาและเต่าคงจะชอบเศษอาหารเหล่านี้พราะมาชุมนุมกันมากมาย มีเต่าตัวหนึ่งว่ายน้ำมาใกล้ๆ พร้อมอ้าปากรอรับอาหาร ชายใจดีก็ป้อนก้านผักบุ้งให้เจ้าเต่าและตบหัวเบาๆ อย่างอ่อนโยน…v
ตอนแรกข้าพเจ้าคิดว่า เค้าทำงานที่ร้านอาหารจึงได้มีเศษอาหารจที่เหลือจากทางร้านมากมาย
แต่เปล่าเลย...เศษอาหารเหล่านั้นเค้าไปนำมาจากโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งเค้ามักจะนำมาให้บรรดาสัตว์เสมอๆ
(ถึงแม้ว่าจะไม่ทุกวันก็ตาม) เศษขยะที่เหลือทิ้งจากการบริโภค
สิ่งที่พวกเรามองว่าไร้ประโยชน์ แต่กลับมีคนมองเห็นคุณค่า
และนำมาแบ่งปันเป็นอาหารให้เพื่อนร่วมโลกของเรา
ให้อาหารเสร็จ...เก็บถุงพลาสติก ขวดน้ำ กระทั่งเศษยาง กลับใส่ถุงดำใบใหญ่เช่นเดิม ก่อนจะมัดปากถุงอย่างเรียบร้อยและนำกลับไปทิ้ง สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ล้วนมีความสำคัญกับระบบนิเวศน์ และหากปล่อยทิ้งไว้แล้วบรรดาปลาหรือเต่าเผลอกินพลาสติกเข้าไปคงติดคอตาย แทนที่จะได้ช่วยเหลือกลับกลายเป็นทำร้ายเพื่อนร่วมโลกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ชายผู้นั้นไม่ได้หล่อเหมือนดารา ไม่ได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหรูหราเพื่อให้ดูดี เขาสวมเพียงเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้รู้สึกว่าไม่ธรรมดา....เป็นสิ่งที่งดงามในความรู้สึก เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ใน เขาทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นว่า บางมุมเล็กๆ ในเมืองใหญ่ที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ก็ยังมีความงดงาม อ่อนโยน และมิตรภาพแทรกตัวอยู่เงียบๆ ไม่จำเป็นต้องประกาศออกสื่อ ไม่จำเป็นต้องมีใครมามอบรางวัล หากเพียงเพื่อนตัวน้อยๆ อิ่มท้อง ก็นับเป็นรางวัลที่มีค่ามากแล้วในความรู้สึก
หลังจากออกกำลังกายเสร็จ เดินเลียบทางรถไฟ ก็เห็นเศษข้าวที่เทอยู่ข้างทางและมีบรรดานกตัวเล็กๆ
นับสิบมาจิกกิน ภาพที่เห็นทำให้ข้าพเจ้านึกถึงตอนเป็นเด็ก
เวลาที่ไปทำบุญตักบาตร สังเกตว่าคุณยายแถวบ้านเค้าจะไม่ใส่ข้าวเหนียวไปหมด แต่จะเหลือข้าวสักสองสามคำ
แล้ววางไว้ที่รั้วบ้านหลังจากตักบาตรเสร็จ
“ยายเค้าเหลือข้าวไว้ทำไมแม่ ทำไมไม่ตักบาตรให้หมด? แล้วทำไมต้องวางไว้ที่รั้ว?” ข้าพเจ้าในวัยเด็กถามคุณแม่ด้วยความสงสัย
“ตักบาตรให้พระท่านแล้ว ที่เหลือก็แบ่งให้นกกากินบ้างไงลูก….” คุณแม่ตอบอย่างอ่อนโยน
นับแต่นั้น เวลาตักบาตร หากเป็นข้าวเหนียว ข้าพเจ้ามักจะนำบางส่วนไปวางไว้ที่ริมรั้วเสมอ หรือหากมีเศษข้าว ก็มักจะเทไว้ใต้โคนต้นไม้ เพื่อที่นกจะได้กินเป็นอาหาร....เราอิ่มท้องแล้ว เพื่อนร่วมโลกของเราก็น่าจะได้อิ่มบ้าง ;-)
วันศุกร์จึงเป็นวันสุข....สุขทั้งผู้ให้ สุขทั้งผู้รับ และสุขทั้งผู้พบเห็น
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
ให้ดอกไม้ไว้ก่อนนะครับ คุณหมอดาวสกาวใจ ;)...
น้ำใจคนสมัยก่อนงามจริงๆ นะคะ บุญที่เกิดจากทาน จากทั้งคนและสัตว์
ขอบคุณบันทึกแห่งความสุขในันอาทิตย์ค่ะ
ขอบคุณบันทึกงดงามที่บอกเล่าถึงความดีงามเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ในใจเราที่ได้รับรู้นะคะ พี่โอ๋เชื่อว่า ความสุขที่"พระเอก"ท่านนี้ได้รับจากสิ่งที่ทำคงมีค่ามากกว่าเสียงใดๆในสังคม ต้องขอบคุณ "พระเอก"ผู้มีน้ำใจและ"นางเอก"อย่างน้องดาวที่ช่างสังเกต ช่างเก็บเกี่ยวเรื่องราวดีๆที่ผู้คนอาจจะมองผ่านไปมาเล่าสู่กันฟังนะคะ อ่านแล้วมีความสุขจัง...
ภาพงามยามเย็น และความเป็นไปที่น่าประทับใจ..น้องหมอดาวซึมซับมาถ่ายทอดความสุขดีๆนี้..ขอบคุณค่ะ
ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้นะคะ อาจารย์เสือ ^^
ขอบคุณคุณปริมที่เข้ามาอ่านบันทึกนะคะ
ดีใจค่ะที่มีคนอ่านบันทึกแล้วรู้สึกดี ตอนที่ดาวเห็นเหตุการณ์แล้วรู้สึกดีมากๆ เลยอยากให้คนอื่นๆ รู้สึกดีเหมือนกันค่ะ ^_^
พี่โอ๋คะ ดาวเองก็เชื่อค่ะว่า ความดีงามเกิดขึ้นเสมอรอบๆ ตัวเรา ในขณะเดียวกันความสุขเกิดขึ้นในใจเราด้วย
เพียงแต่บางครั้ง เราเองก็มัววุ่นวายกับเรื่องต่างๆ จนลืมมองเห็นความสุขและรอยยิ้มรอบตัวนะคะ
พี่ใหญ่คะ ช่วงเวลาเช้าตรู่ และยามเย็นเป็นช่วงเวลาสุดโปรดของดาวเลยล่ะค่ะ ยิ่งเจอเหตุการณ์หรือเรื่องราวดีๆ ก็จะทำให้วันนั้นกลายเป็นอีกวันที่พิเศษสุดๆ ค่ะ ;-)
แวะมาอ่านสิ่งดีนะคะ
ตักบาตรให้พระท่านแล้ว ที่เหลือก็แบ่งให้นกกากินบ้างไงลูก
...
งดงามมากครับกับถ้อยคำเหล่านี้
น้องดาวครับ เป็นมุมที่งดงามมากๆจริงๆๆด้วย สบายดีไหมครับ
@พี่ครูอี๊ด ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน
@คุณแผ่นดิน...ดาวก็ประทับใจคำพูดเหล่านี้เหมือนกันค่ะ ไม่รู้คนพูดจะจำได้หรือเปล่านะคะ 555
@พี่แอ๊ด ดาวสบายดีค่ะ ตอนนี้กะลังท่องเที่ยว อิอิ
เอาภาพแม่ฮ่องสอนมาให้ดูบ้างครับบบบ
@คุณสามสัก ความดีงามทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นนะคะ...ทุกวันนี้มีแต่ข่าวที่อ่านแล้วหดหู่ พอมีเรื่องดีๆ เลยอยากบันทึกไว้ เพื่อเป็นการขยายเรื่องราวความดีงามค่ะ ^^
@พี่แอ๊ด เรื่องราวจากเมืองสามหมอกรอสักครู่นะคะ ตอนนี้ขอปั่น abstract งานวิจัยส่งก่อนค่ะ 555
เอาภาพใหม่ที่แม่ฮ่องสอนมาดูบ้างครับ
คุณหมอ มีวิธีการมองที่น่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ
มองทุกด้านดีหมด
ชีวิตก็เลยมีความสุข
@น้องกล้วยไข่ ขอบคุณนะคะ
จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นคนมองโลกในแง่ดีนักหรอกนะคะ 555
เพียงแต่คิดว่าหลายๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามามีหลายด้าน ถ้าเลือกที่จะมองได้ก็เลือกมุมที่ทำให้เราเป็นสุขดีกว่าจริงไหมคะ? แต่ด้านที่ไม่ดีเราก็ต้องรับรู้ด้วยค่ะ ไม่งั้นจะไม่รู้เท่าทันความเป็นจริง ;-)