โคลง ๒ สุภาพ
มีบังคับสัมผัส ๑ แห่ง คือ ท้ายวรรคแรก กับ ท้ายวรรคสอง และบังคับ เอก โท ดังนี้
อ = เอก ท = โท
.........................อ ท ........... อ............ท............อ ท .......... (------)
.....พระธรรมสอนสั่งไว้.......พ่อแม่จงรักไซร้..........นบไหว้บูชา
...หลานเหลนรักโอบเอื้อ.....บ่บ่ายบ่เบนกูลเกื้อ.....รักแท้จริงหนอ....ท่านนาฯ
ส่วนโคลงสามสุภาพ ต่างจาก โคลงสองสุภาพ เพียง เพิ่มอีก ๑ วรรค ซึ่งมี ๕ คำ
คำท้ายของวรรคนี้ ต้อง ส่งสัมผัส ไปวรรคถัดไป โดย รับสัมผัส ที่คำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคถัดไปนั้น
โคลงสามสุภาพ
.....จักผาสุกห่างภัย..............เทพไทไป่หลีกลี้
ทั้งโลกหน้าโลกนี้.................รับเข้าสู่สรวง
มีเวลาว่างจะฝึกหัดเขียนดู
ขอบคุณที่นำมาให้ศึกษา
ขอบคุณครับ
แนะนำติชมได้เสมอครับ
ผมอยากเก็บรวบรวมข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ ได้ร่วมแบ่งปันไว้ จึงขออนุญาตไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
โคลงสองสุภาพ
๐ ประเทศไทยอยู่ยั้ง............เป็นแผ่นดินเดียวทั้ง
ที่คล้ายขวานทอง
๐ มองดูไปทั่วหล้า..............มีสิ่งของขายค้า
ที่ให้ทำกิน
๐ ดินดีและชุ่มน้ำ...............คือแหล่งทรัพย์เลิศล้ำ
ซึ่งล้วนนิเวศน์
๐ เขตขัณฑ์จะอยู่ได้...........เพราะต่างมอบรักให้
หล่อเลี้ยงบำรุง
เคารพรัก
"กานต์ฑิตา"
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕
สังเกต : โคลงสุภาพ จะ ส่ง-รับ สัมผัสระหว่างบท โดย
คำท้ายบท จะ ส่งสัมผัส
และจะ รับสัมผัส ในตำแหน่งคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของบทถัดไป
โคลงสามสุภาพ
….เยาวชน คนหนุ่มสาว……….เธอคือดาว เด่นฟ้า
ปลอบจิต ผู้อ่อนล้า…………....ฮึดสู้ ชีวี
….ทุกข์ที่ ท่วมท้นกาย….……เพียงหมาย เธอแก่กล้า
รุกร่วม มิชักช้า…………….…..ฝ่าพ้น พงหนาม
สังเกต : โคลงสุภาพ จะ ส่ง-รับ สัมผัสระหว่างบท โดย
คำท้ายบท จะ ส่งสัมผัส
และจะ รับสัมผัส ในตำแหน่งคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของบทถัดไป