Economy of velocity (มีทิศทาง) น่าจะดีกว่า Economy of speed (ไม่มีทิศทาง)


ได้ดูข่าวท่านรองนายกรัฐมนตรี  นายกิติรัตน์  ณ ระนอง ให้สัมภาษณ์เรื่องการขนส่งเช่นรถไฟฟ้าจะทำให้เกิดEconomy of speed เนื่องจากใช้เวลาเดินทางมาทำงานน้อยลงมีเวลามาทำงานได้เยอะขึ้นสะดวกปลอดภัยในการเดินทางสามารถลดต้นทุนในการผลิตสินค้าได้จึงไปค้นหาดูใน  google  ที่มีผู้แบ่งปันไว้ว่า
Economy of speed คือการผลิตด้วยอัตราที่เร็วขึ้นจากทรัพยากรที่มีและสามารถลดระยะเวลาในการผลิตและลดต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการโดยอาจใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย”
(http://ba401-5102685640.blogspot.com/2012/01/what-did-you-learn-16012555-economy-of.html)

เมื่อหันมามองด้านหน่วยงานราชการการจะทำให้เกิด  Economy of speed ได้ด้วยการเพิ่มความเร็วในการพิจารณาอนุมัติตัดสินใจเช่นลดกฎระเบียบข้อบังคับที่ไม่จำเป็นหรือที่ซ้ำซ้อนลง (โดยสันนิฐานในเชิงบวกว่าในสังคมไทยคนดีมีสัดส่วนมากกว่าคนร้ายซึ่งมีเพียงน้อยนิดเปลี่ยนจากกฎระเบียบข้อบังคับที่ป้องกันคนร้ายกระทำความชั่วจนคนดีทำความดีไม่สะดวกเพราะ กฎ ระเบียบต่าง ๆ เป็นอุปสรรค เปลี่ยนเป็นส่งเสริมให้คนกระทำดีเพราะในสังคมไทยมีคนดีมากกว่าคนร้ายมากมายนัก ) ก็จะทำให้เกิด  Economy of speed ได้เช่นกัน

การใช้นวัตกรรมใหม่ๆก็ลดเวลาในการให้บริการลงได้เช่นให้ตำรวจจราจรเปลี่ยนไปใช้  แท๊บเล็ต บน  hi-speed internet แทนการเขียนใบสั่งด้วยมือโดยการOnline กับศุนย์ข้อมูลทะเบียนรถ แล้วพิมพ์ใบสั่ง จากเครื่องพิมพ์พกพาที่นะติดตัวมา แบบพนักงานแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า  หรือ อาจใช้ตรวจสอบประวัติรถยนต์จากศูนย์ข้อมูลรถยนต์ก็ได้ เมื่อใช้อุปกรณ์เช่นที่กล่าวมานี้ ก็จะสามารถบริการได้รวดเร็วและถูกต้องมากยิ่งขึ้น

หรือกรณีการกระจายอำนาจการตัดสินใจต่างๆจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด  หรือ เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แบบเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (เลือกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 แล้ว)  จากนั้นก็ กระจายอำนาจการตัดสินใจออกไปไม่กระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง  ก็จะทำให้เกิดEconomy of Speed ได้อีกทางหนึ่ง   เพราะการตัดสินใจโดยท้องถิ่นผู้เขียนคิดว่ารวดเร็วกว่าการตัดสินใจจากส่วนกลาง

คิดเล่น ๆ ว่าตอนนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรัฐมนตรีช่วยว่าการ  ที่ดูแลในตอนนี้ชื่อนายยุทธพงศ์   จรัสเสถียร   ท่านจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน   นายพงษ์ศักดิ์    รักตพงษ์ไพศาล   และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  นายชัชชาติ สทธิพันธุ์  ก็จบการศึกษาจากคณะวิศวะกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์  เหมือนกัน (ได้ฟังจากนายยุทธพงศ์  จรัสเสถียร เล่าให้ฟังตอนให้นโยบายที่กรมส่งเสริมสหกรณ์)

เห็นทีจะต้องใช้คำใหม่ว่า "Economy of velocity" น่าจะดีกว่า Economy of speed  เนื่องเพราะ  Speed คือ  อัตราเร็วเป็น   scala เป็นหน่วยที่  ไม่มีทิศทาง  แต่  velocity คือ ความเร็ว เป็นvector มีทิศทางหากเป็น  Economy of velocity จะมุ่งสู่ความสำเร็จตามทิศทางที่วางไว้ได้ดีกว่า

พีระพงศ์  วาระเสน 

หมายเลขบันทึก: 515998เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2013 16:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม 2014 14:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท