ภาพที่คุ้นชินของหนูคือ ข้าง ๆ
กายครูมักจะมีผู้คนเข้ามารายล้อมท่านเสมอ ๆ
ในวัดก็จะเป็นเด็ก ๆ แม่ออกน้อยบ้าง สังกะสีน้อยบ้าง หรือบางทีก็จะเป็นสมาชิกชาวต้นกล้า
นอกวัดก็จะเป็น สมาชิกชาว R2R ไม่ว่าใครอยู่ใกล้แม่ครู
แววตาก็จะเปี่ยมสุข เเละเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หากใครยังไม่ยิ้มมา ขากลับไปก็จะไปด้วยแววตาเปี่ยมสุข
แม่ครูกะุปุ๋ม และคู่บุญบวช (พี่ก้อย)
แม้กระทั่งหนูเองก็จะชอบอยู่ใกล้ ๆแม่ครู
ทำไมนะ เพราะหนูรู้สึก อบอุ่นใจ ปลอดภัย แม้บางทีจะมีอาการกล้า ๆ กลัว ๆบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกอบอุ่นใจและปลอดภัยอยู่ดี เพราะที่กลัวเพราะมักจะมีสาเหตุมาจากหนูคิดไม่ได้
หลัง ๆ มานี้ แม่ครูกะปุ๋ม ภูมิแพ้ขึ้น เป็นหวัด ไอ เสียงแทบไม่มี
แต่ครูก็ไม่เคยหยุดทำงาน ทั้งบรรยาย สอนเด็ก ๆ ที่วัด รวมถึงชาวต้นกล้า
คืนนี้ก็เช่นกัน ครูเมตตานำสวดมนต์ทำวัตรเย็น ผนวกกับย้ำสอนให้สติกับทุกคน แนะนำการสวดแบบรักษาสติ เกื้อหนุนให้เกิดสมาธิ สวดด้วยความเคารพ ไม่ใช่คะนอง
เป็นธรรมะ บทใหญ่ ที่ทุกคนที่ร่วมทำวัตรในวันนี้ได้ร่วมเรียนรู้
ครูไม่เคยปล่อยโอกาส จังหวะไหน สอนใครได้ ครูทุ่มสุดตัวจริง ๆ
หลังจากนั้น จากเดิมที่สวดเร็ว จังหวะก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง
สุ่มเสียงที่แว่วออกมาช่างไพเราะ น่าฟัง
ครูงดงามอย่างที่ครูเป็นจริง ๆ เจ้าค่ะ
ตอนท้ายระหว่างรอพวกหนูเตรียมครัว ครูก็เมตตาพาเด็ก ๆ สังกะสีน้อย ฝึกทำวัตร
ผู้มีธรรม ทำสิ่งใดก็ เป็นธรรม สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
พอเข้ามาในกุฏิ น้องน้ำตาลนั่งทานน้ำแล้วบอกว่า เจ็บคอ แล้วทำท่าจะสำออย
หนูจึงได้โอกาสสำทับว่า “นี่ขนาดหนูแค่เจ็บคอนะ ยังขนาดนี้”
“แม่ครูท่านเป็นหวัดเรื้อรังมาหลายอาทิตย์ ท่านยังไม่เคยบ่น แถมยังไม่เคยหยุดสอน ท่านก็ยังทำงานเหมือนเดิม”
น้องยิ้มอาย ๆ แบบรับรู้
เหมือนหนูไม่ได้บอกน้องน้ำตาลหรอกเจ้าค่ะ แต่หนูย้ำกับตนเองต่างหากว่า
“หนูสำนึกไหม ครูเหนื่อยขนาดนี้ ตั้งใจหน่อย”
สาธุเจ้าค่ะ
ฝากความคิดถึง ถึงแม่ครูด้วย ขอบคุณค่ะ