วันพฤหัสบดี ที่ 10 มกราคม 2556
กราบสวัสดีค่ะครู
วันนี้ลิสต์ที่ต้องทำของหนูลากยาว เห็นความก็เสียไม่ได้ว่ามีความรู้สึกขี้เกียจ แต่ก็ขอกอดสิ่งที่ตั้งใจ ไล่เรียงเขียนบันทึก อย่างที่ตั้งใจ การที่ครูเมตตาช่วยเผยแพร่ เป็นหนึ่งการรับรองว่ามาถูกทาง
อุปสรรคมีอยู่แล้วไม่ว่าเดินหน้าทำอะไร เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากครูที่ทำให้เห็นเสมอ ๆ แต่ครูก็ทำให้ดูว่า
การอดทน แล้วใช้ปัญญา จะทำให้ผ่านปัญหาได้
ครูพาเช็คตนเองเกี่ยวกับ สิ่งที่ตั้งใจทำ
บางทีกิเลสมันก็มาหน้าตาคล้ายธรรมมากๆ
ถ้าไปปฏิบัติธรรม แล้วทิ้งงาน นี่ไม่ใช่แล้วนะ
คล้ายๆอย่างนั้น
แต่พอพิจารณาลึกซึ้งลงไป
หากเราตายไป งานก็จะมีที่ทางขยับไปตามอัตตภาพของมัน
แต่เมื่อเรายังอยู่และดำรงอยู่ ก็ทำตามหน้าที่ อย่างเป็น "ธรรม"
ธรรม อาจจะไม่ถูกใจผู้คน แต่ธรรมก็ยังเป็นธรรม
บ่อยครั้งที่กิเลส นั้นถูกใจผู้คน แต่กิเลสก็คือกิเลส
เป็นสิ่งที่ย้อมจิตใจพาให้ลงต่ำ
ที่เหลือก็เลือกที่จะทำ
ว่าจะให้ ธรรมนำทาง หรือ จะให้กิเลสนำทาง
บางทีใน FB เห็นภาพงานกีฬาที่ผู้คนแต่งตัว วับๆแวมๆ แต่งหน้าตา
ก็ให้นึกย้อนถึงตนเองในอดีต แล้วก็ย้ำลงไปว่า
เวลามันหลงนะ แทบไม่มีอะไรจะฉุดขึ้นได้ค่ะครู
เพราะเสียงที่เลือกจะฟัง มันก็เป็นเสียงของกิเลส
ที่คอยสนับสนุุนกิเลส ให้กิเลสครอบงำมากขึ้นๆ
ยิ่งโลกปัจจุบัน ไร้ขอบเขต พรมแดน ยิ่งเร็วขนาด
เผลอแป๊บ จัดมาซะเต็ม กลายเป็นแฟชั่น ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม
เสียงกิเลสมันแรง ไม่ใช่ที่ไหน ที่ใจเราเองนี่แหละเจ้าค่ะ
เสียงธรรมเบาจริงๆค่ะครู เหมือนที่ครูเคยสอนไว้เลย
ต้องฉุดต้องรั้ง ต้องพามันมาฝึกมาทำ
กว่าจะฝึกได้สักเรื่องแทบล้มแทบตายกับตนเอง
ใจก็อยากจะชวนใครๆมาร่วมเดินทางเจ้าค่ะ
แต่คิดอีกทีมันก็ไม่ง่ายนะ ขนาดสอนตนเองยังยาก
แต่ก็ระลึกถึงครูแล้วคิดว่า
ถ้าถึงเวลาถึงพร้อม เขาก็มาของเขาเอง
ฝึกฝนตนเองไปนี่แหละ มีกำลังเมื่อไหร่ มีปัญญาเมื่อใดจะรู้เองว่าควรทำอย่างไร
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ไม่มีความเห็น