"ต้นน้ำ" และ"ปลายน้ำ"..วันนี้..(เราๆ)..น่าจะร่วมแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวติตตี้...ในฐานะผู้อยู่ปลายน้ำที่ท่านได้รับการตัดสินให้..ชนะคดี..สารตะกั่วในลำห้วยอันเป็นคดีที่ยาวนานพอสมควร..ที่ผู้อยู่.."ปลายน้ำ"คงจะได้รับผลกระทบ..ไปบ้างไม่มากก็น้อย..หรือรับประทานกันไปบ้างเป็นกระสายไปถ้วนทั่วกันอยู่แล้ว...
..อีก..ภายในเก้าสิบวันนี้...ตาม ข่าว..บอกไว้ว่า..เป็นเรื่องที่น่า..จับตาดู..ว่า..ผู้..ที่มีหน้าที่..ตรวจตราสอดส่องดูแล..สิ่งแวดล้อม..ของประเทศนี้..จะเข้มแข็งต่อหน้าที่ที่จะต้องจัดการ..ประการใด..อย่างไร..(มีคำถามที่คงต้องรอคำตอบ)...หรือ..คงจะเหมือนเดิม..
"ขอให้เหมือนเดิม"..คงเป็น..เพียง..เพลง..กล่อมลูกหลานร้องกันฟัง..เรื่องของ"สิ่งแวดล้อมในธรรมชาติ"ของเราๆ...นะ..ท่านผู้อ่านที่รัก...
สวัสดีค่ะยายธี
ยินดีด้วยกับพี่น้องค่ะ ..การต่อสู้ ที่แลกมาด้วยชีวิต...ไม่ทราบสักกี่รุ่น สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้น รุ่นพ่อแม่ รุ่นลูก การได้รับพิษจากสารปนเปื้อนส่งผลระยะยาวเป็นส่วนใหญ่ ใครจะรู้บ้างว่า ลักษณะภายนอกที่เราดูจะปกติ แต่หากนานวันไป วัยอ่อนแรงระบบต่างๆที่ได้รับผลพิษไปแล้วก็จะแสดงให้เห็น.. ตายผ่อนส่ง.. อย่างนี้เขาเรียกกัน ฉะนั้นเหตุเกิดขึ้นที่ไหน?? ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ผลกระทบก็ถึงกันหมดค่ะ ..มีน้ำแต่ใช้น้ำบริิโภคไม่ได้ เพราะปนเปื้อนสารพิษ..ปลูกอะไรเอาน้ำที่ปนเปื้อนไปใช้ในไร่ในนา ผลผลิตก็ปนเปื้อนสารพิษ...น่าเป็นห่วงจริงๆ บ้านเมืองเรา ..ขอบคุณคุณยายที่ช่วยเตือนสติค่ะ ยังไงก็รักเมืองไทย จึงต้องช่วยกันค่ะ :-))
เพราะความรักและศรัทธาที่ขาดหาย สิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นเช่นนี้ค่ะคุณยาย
ขอบคุณสำหรับข่าวคราวค่ะ
ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ(เขา ป่า นา เล ล้วนพึ่งพากัน)
เริ่มที่คิด....ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว...เติมกำลังใจให้สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น...ที่ไม่เหมือนเดิม