ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ที่แตกต่าง
วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้คือ อะไร
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการที่จะเรียนรู้ขึ้นอยู่กับบุคคลและหลักสูตร ผู้สอนจะต้องใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายกับแผนการจัดการเรียนรู้ ที่คำนึงถึงความต้องการ ความเข้าใจ ความแตกต่างของบุคคลคือ ผู้เรียน ครูควรให้นักเรียนได้ตระหนักถึงรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย คอยดูแลให้นักเรียนได้เรียนรู้จนสำเร็จการศึกษา
การให้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเอื้อต่อการเรียนรู้
สภาพแวดล้อมในห้องเรียน มีผลต่อกระทบต่อปริมาณการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้น คนก็มีความแตกต่างกัน สภาพแวดล้อมก็มีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามผลของกระบวนการเรียนรู้เป็นสิ่งที่สำคัญ การเรียนรู้ร่วมกันและปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่ควรพิจารณา ดังระบุข้างล่างนี้
รูปแบบการเรียน
โครงสร้างของบทเรียน
นักเรียนส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อมีลำดับขั้นตอนและวัตถุประสงค์ ของบทเรียน การใช้กฎ เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตามสิ่งที่มอบหมายได้ แต่นักเรียนบางคนไม่ชอบเช่นนั้น เขาต้องการความคิดสร้างสรรค์ในการเรียนรู้ ไม่ต้องการกฎเกณฑ์มากนัก
ทางด้านสังคม
นักเรียนบางคนชอบการทำกิจกรรมกลุ่ม แต่ก็ยังมีที่ชอบเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่สำคัญ แต่นักเรียนที่ชอบเก็บตัวชอบทำอะไรคนเดียว มีปัญหาในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของกลุ่ม
การฟังหรือการได้ยิน
นักเรียนบางคนเรียนรู้ได้ดีที่สุด คือ การฟัง การบรรยายอภิปรายในชั้นเรียน ในขณะที่การบรรยายเป็นวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุด นักเรียนบางตนเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการฟังเท่านั้น นักเรียนเหล่านี้ยังอาจมีความไวต่อการตอบสนองจากเสียงภายนอก
เกี่ยวกับการมองเห็น หรือ ภาพ
ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีจากการได้มองเห็นภาพ รูปภาพที่มีสี หรือข้อความที่ผ่านสายตา สามารถอ่านคำแนะนำหรือข้อความนั้นๆเพื่อเพิ่มความเข้าใจยิ่งขึ้น การใช้ปากกาเน้นสีที่แตกต่างกัน ขณะที่อ่านและจดบันทึก นักเรียนมีการตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้ ทำให้การเรียนรู้ได้ดี
เกี่ยวกับประสาทสัมผัส
คนส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ดีด้วยการทำกิจกรรมด้วยมือ การได้สัมผัส การเรียนรู้ที่เพิ่มศักยภาพของบุคคล โดยการทำกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ควรมีโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการทดลอง ลงมาปฏิบัติด้วยตัวเอง
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
ตามรูปแบบและไม่เป็นรูปแบบ
การจัดบรรยากาศห้องเรียนแบบเป็นทางการมีการ จัดโต๊ะ เก้าอี้ แบบดั้งเดิม หรืออาจจะมีตารางด้วย ส่วนรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ มีการจัดที่นั่งกับพื้น มีเก้าอี้ยาว มีถุงผ้าไว้ใส่สัมภาระ สมองของนักเรียนทุกคนจะไม่ทำงานเดียวกันในตำแหน่งเดียวกัน ดังนั้นเมื่อเห็นนักเรียนหงอย เบื่อหน่ายกับการจัดรูปแบบโต๊ะ เก้าอี้แบบเดิมๆ นั้นก็อาจจะหมายความว่านักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีในการจัดห้องเรียนแบบไม่เป็นทางการ
เสียงรบกวนและความเงียบสงบ
นักเรียนบางคนพบว่าเสียงรบกวนแต่สามารถเรียนรู้ได้และแต่ความเงียบสงบ เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนหลายๆคน
อุณหภูมิ
อุณหภูมิห้องมีบทบาทในการเรียนรู้ ถ้าหากนักเรียนเย็นหรือร้อนเกินไป จะมีผลต่อการจดจ่อในการเรียนรู้ ขอแนะนำว่าอุณหภูมิที่เย็นเหมาะกับการเรียนรู้มากกว่า ผู้ที่ไม่ชอบอากาศเย็นสามารถนำเสื้อมาใส่ได้
แสงสว่าง กับ ความไม่สว่าง
ดวงตาของทุกคนมีปฏิกิริยาแตกต่างกับแสง นักเรียนบางคนอาจจำเป็นต้องนั่งตามโคมไฟอ่านหนังสือ ในขณะที่คนอื่นอาจมีอาการปวดหัวเมื่อแสงมากเกินไป จึงควรจัดแสงให้เหมาะสม
การเคลื่อนไหวทางร่างกาย
บางคนจำเป็นต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เช่น ขณะที่เรียนอาจมีการเคาะนิ้วมือ หรือ เท้า เคี้ยวหมากฝรั่งนี้เป็นธรรมชาติ แต่พวกเขาไม่ได้เรียนคนเดียว ต้องแน่ใจว่าพวกเขาไม่หันเหความสนใจของคนอื่นๆในห้องเรียน
ความสามารถในการเคลื่อนไหว
ร่างกายมนุษย์ถูกสร้างขึ้นให้เคลื่อนไหว ดังนั้นคนเราไม่ชอบที่จะนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ควรให้มีการพักเป็นระยะสั้นๆในขณะเรียน มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าจะใช้เวลาเพียง 30 วินาทีในการพักผ่อนและเติมพลังให้สมอง
กระบวนการเรียนรู้มีความแตกต่างตามบริบท สภาพแวดล้อม ความแตกต่างระหว่างบุคคล การจัดการเรียนการสอนจึง ควรศึกษาความเหมาะสมในหลายด้านๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียนแหล่งที่มา
NDT Resource Center
http://www.ndt-ed.org/TeachingResources/ClassroomTips/Learning_Styles.htm
ไม่มีความเห็น