ช่วยเหลือผู้ป่วยบนเครื่องบิน


วันที่ 18ธันวาคม2555

เดินทางจากนราธิวาสไปสนามบินดอนเมืองเพื่อร่วมประชุมร่วมกับสมาคมพยาบาลก่อนขึ้นเครื่ิองพบพี่พยาบาล ศิษย์ที่เข้่าร่วมประชุม sha  ทั้งลำจึงมีพยาบาลเกือบค่อนลำ แต่ส่วนใหญ่จะนั่งด้านหลังดิฉันนั่งเก้าอี้ตัวที่สาม ซักพักเห้นผู้สูงอายุสองท่านชายหญิงคาดว่าอายุน่าจะเจ้ดสิบกว่าเข้านั่งเก้าอี้หมายเลขสี่ขณะที่เครื่องขึ้นดิฉันอยากหลับพักผ่อนซักพักเนื่องจากนอนดึกและมีงานที่ต้องทำให้แล้วเสร็จก่อนขึ้นเครื่องมากมายซักพักได้ยินเสียงเรอดังๆจากด้านหลังหลายๆครั้งรู้สึกไม่ธรรมดาจึงเปิดตาหันไปดูเห็นผู้สุงอายุสุภาพสตรีกดปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน

แอร์โฮสเตสวิ่งมาอย่างรวดเร็วทั้งที่เครื่องกำลังขึ้นพร้อมกับมาสอบถามอาการประทับใจแอร์โฮสเตสที่เข้ามาช่วยเหลือในขณะที่เครื่องบินกำลังขึ้นผุ้สูงอายุสุภาพบุรุษรู้สึกแน่นอึดอัด

เมื่อลองสอบถามพบว่าท่านเคยผ่าตัดหัวใจกำลังจะไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระที่กรุงเทพ
ผู้สูงอายุสองท่านที่เดินเหิรไม่คล่องม่ีากเจ็บป่วยระหว่างเดินทางโดยเครื่องบิน

เราในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลจะช่วยเหลือได้อย่างไร?

ดิฉันได้แต่เอื้อมมือไปจับชีพจร สิ่งที่พบคือ เบา เร็ว ดูสีหน้าผู้สูงอายุท่านั้นมีท่าทางเหนื่อยหอบ

จึงสอบถามจากแอร์โฮสเตสว่าจะทำอย่างไรจึงจะได้อ็อกซิเจน

คิดถึงเวลาที่เขาอธิบายเราว่าเวลาเครื่องมีปัญหาอ็อกซิเจนจะหล่นมาจากเพดาน

แต่กลับไม่ใช่ เขามีถังอ็อกซิเจนเล็กๆอยู่ภายในเครื่อง

เขาตึงเปิดอ็อกซิเจนให้ผู้ป่วย เมื่อครอบอ็อกซอเจนไปแล้ว ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นไม่แน่นอึดอัด

ภาพแอา์โฮสเตสที่นุ่งคุกเข้่าอญุ่กับผู้ป่วยเป็นภาพที่สวยงามมาก แสดงออกถึงการเต็มใจช่วยเหลือ

หลังจากดีขึ้นผู้ป่วยจะหลับเคลิ้มๆเป็นบางครั้ง แต่ญาติพยายามปลุกให้ตื่น

ดิฉันหันไปมองสิ่งแวดล้อม พบว่า คนส่วนใหญ่ในเครื่องกำลังหลับไม่มีใครทราบว่าคนหนึ่งคนกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติของชีวิต หากเขารับทราบอาจทำให้เกิดความตื่นตระหนก จึงไม่เดินไปรบกวนเพื่อนพ้องน้องพี่พยาบาลที่อยู่ด้านหลัง ยกเว้นกรณ๊เร่งด่วนที่ต้องช่วยฟื้นคืนชีพ

จึงได้แนวคิดว่า การตั้งสติจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ภาวนาว่าขอให้ผู้ป่วยปลอดภัย

หนึ่งชั่วโมงกว่าๆที่เดินทางเป็นเวลาที่ทรงคุณค่ามาก

เมื่อพบผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉิน เครื่องจะลงจอดฉุกเฉินเพื่อนำผู้ป่วยส่วโรงพยาบาลคงยุ่งยาก

แต่หากผู้ป่วยถึงอันตรายจะทำอย่างไร เหมือนเรากำลังรอโชควาสนา

ใกล้เวลาที่เครื่องลง กัปตันประกาศ ทำให้ดิฉันรู้สึกโล่งขึ้น แต่ก็ปรึกษากับญาติ และแอร์โฮสเตส

ลงความเห็นว่าควรมีรถฉุกเฉินมารับผู้ป่วยลงตากเครื่อง โดยกัปตันติดต่อ

เมื่อเครื่องลงจอด แอร์โฮสเตสประกาศขอความร่วมมือจากผู้โดยสาร นำผู้ป่วยลง คราวนี้มีเสียงผู้คนพูดคุยอื้ออืง ลุกขึ้นดูการช่ยเหลือตามประสาไทยมุง

ทีมแพทย์ พยาบาลที่เข้ามาช่วยเหลือ ค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นสภาพผู้ป่วย จึงต้องมีการลเลียงผู้ป่วยโดยใช้เปล

ลองนกสภาพผู้ป่วยตัวโต ต้องเคลื่อนออกจากที่นั่งแล้งมานอนบนเปลหามที่วางระหว่างทางเดินแล้วลากออกจากเครื่อง รวมทั้งการหมุนเปลภายในเครื่องค่อนข้างทุลักทุเลดังภาพ แต่ไม่สามารถให้เห็นภาพผู้ป่วยได้เนื่องจากเข้าไปช่วยลำเลียงผู้ป่วยด้วย

ดิฉันต้องลงนามรับรองการตัดสินใจนำผู้ป่วยส่งแพทย์ฉุกเฉินในครั้งนี้

วันนี้จึงเป็นวันที่มีความสุขกับการได้ช่วยเหลือผู้ป่วยใ้เปลอดภัยบนเครื่องบิน เห็นถึงคุณค่าของวิชาชีพพยาบาลที่ได้รำ่เรียนมาอีกครั้งหนึ่ง



ภาพนายแพทย์ของทีมแพทย์ฉุกเฉินของสนามบิน


ภาพพยาบาลฉุกเฉินที่ขึ้นมาช่วยเหลือเมื่อเครื่องลงจอด

ภาพเปลที่วางแนบพื้นทางเดินเครื่องบิน

ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวทำนองเดียวกันนี้ไม่ได้ในอดีตดิฉันเคยพบสภาพที่ต้องช่วยเหลือลักษณะนี้เช่นเดียวกันเมื่อสำ้เร็จกศึกษาพยาบาลใหม่ๆต้องเดินทางเข้ารับการอบรมที่กทมเช่นกันสมัยนั้นเดินทางโดยประหยัดด้วยรถไฟชั้นสามมีเพื่อนพยาบาลไปอบรมกันหลายคน ใช้เวลาเดินทางหนึ่งวันและหนึ่งคืนจึงจะถึงกรุงเทพการเดินทางด้วยรถไฟชั้นสามปรับเอนไม่ได้นอนหลับกันง่ายๆเราเลยคุย คุยและคุย เกี่ยวกับงานพยาบาล

ขณะที่เคลิ้มหลับประมาณสองนาฬิกานั้นมีผู้ชายคนหนึ่งมาสอบถามหาพยาบาลบอกว่ามีหญิงท้องแก่เจ็บท้องคลอดรออยู่ เขาได้ยินเสียงเราพูดเกี่ยวกับพยาบาลจึงมาขอความช่วยเหลือความมีจริยธรรมของพยาบาลจบใหม่ย่อมต้องการช่วยเหลือผู้คนจึงเดินตามชายผู้นั้นไปพบหญิงท้องแก่กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดบริเวณข้อต่อระหว่างโบกี้

ดิฉีนและเพื่อนจึงจับระดับการเจ็บครรภ์ พบว่า ใกล้คลอดมากแล้ว เดินทางกลับไปคลอดที่บ้านอุบลราชธานี

้ราจึงตามหาการ์ดรถ สอบถามว่าพอจะส่งผู้ป่วยได้อย่างไร

เขาตอบว่าเป็นช่วงที่จอดลำบากเส้นทางไกลประมาณ ชุมพร ประจวบคิรีขันธ์จะไม่จอดเพราะสมัยนั้นมีโจรคอมมิวนิสต์

พยาบาลจบใหม่เครียดไปตามๆกัน

แต่การ์ดเล่าว่าเขามีอุปกรณ์ทำคลอด จะไปนำมาให้

เอาละเป็นไงเป็นกันคงต้องช่วยกันอย่างน้องช่วยเหลือเด็กแรกเกิดให้ปลอดภัย

เราใช้เวลาในการสังเกตอาการอยู่หนึ่งช่ั่ัั่วโมง

รถจอดที่สภานีหัวหิน ส่งผู้ป่วยต่อไปโรงพยาบาลหัวหิน

พยาบาลรู้สึกถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยทันที



คำสำคัญ (Tags): #happy ba
หมายเลขบันทึก: 513801เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2012 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม 2012 14:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

นางฟ้าชุดสีขาวใจดีนะคะ

ยกนิ้วให้เลยค่ะ มีความสุขที่ได้เห็นเพื่อนร่วมวิชาชีพทำดี

คนดี น่าชื่นชมครับ


 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท