บางครั้งสิ่งที่เราไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้เสมอ
วันนี้พอเริ่มเปิดไฟสำนักงานก็ได้รับ Case เลย น้องธุรการรับ Case ไว้ให้ตั้งแต่เย็นวาน นักสังคมสงเคราะห์ส่งต่อ Case มาให้ช่วยตามแม่เด็ก เด็กมีประวัติคลอดก่อนกำหนด ขณะนี้รับกลับไปดูแลเองได้แล้วแต่ไม่มีญาติมาติดต่อและทราบว่า แม่เด็กหนีออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด มีชื่อพ่อ-ชื่อแม่เด็ก และที่อยู่ หลังจากเคลียร์ Case ที่จะออกเยี่ยมบ่ายและทำงานประจำต่อ บ่ายนั้นก็ออกไปตามที่อยู่ที่ได้รับแจ้ง ปรากฏว่าไปเจอบ้านเดี่ยวครึ่งตึกครึ่งไม้ สภาพแม้เก่าแต่ก็ค่อนข้างดีมีรั้วรอบขอบชิด ดูน่าจะพอมีฐานะ พบหญิงวัยกลางคนอายุในราว 50 ต้นๆอยู่คนเดียว บอกว่ามาช่วยเฝ้าบ้านให้เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่ค่อยรู้รายละเอียดอะไรมากนัก แต่รู้ว่าบ้านหลังนี้เคยให้เช่าแต่ก็เลิกให้เช่ามานานแล้ว และแนะนำให้เราไปสอบถามจากร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่เยื้องไปฝั่งตรงข้ามว่าอาจจะรู้จักว่าคนเก่าที่เคยเช่าว่าย้ายไปอยู่ที่ไหน พอไปแนะนำตัวกับเจ้าของร้านบอกจุดประสงค์การมาแล้วเจ้าของบอกว่า “ ไม่แน่ใจนะว่าจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่าเพราะไม่รู้จักชื่อจริง”
พอเราทราบที่ตั้งใหม่เราก็ลงมือหาตามข้อมูลที่เพิ่งได้รับไปพบบ้านห้องแถวชั้นเดียวก่อปูนหยาบๆติดกัน 2 หลัง
ในบ้านค่อนข้างสกปรก พื้นบ้านเหมือนไม่ค่อยได้เช็ดถู มีตู้ไม้เก่า 1 ใบไม่มีบานกระจก หลังตู้มีโทรทัศน์ ขนาด 14 นิ้วรุ่นเก่ามาก 1 เครื่องแต่ในตู้มีเสื้อผ้าที่พับไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย เก้าอี้ที่นั่งมีฝุ่นจับตามซอก มีเด็กผู้หญิง 2คน วัย 4-5 ขวบนอนหลับอยู่บนพื้นที่ปูด้วยเสื่อน้ำมันเก่าๆ แก้มแนบกับพื้นไม่หนุนหมอนไม่มีแม้ผ้าปูรอง คนที่โตกว่ามีรอยแผลเป็นจากการเย็บที่แขนและขา ยาวแผลละ ประมาณ 10-12 นิ้ว มีเด็กผู้ชายอายุสัก 6-7 ขวบอีกคนคอยเดิน นั่งรอบบริเวณด้วยสีหน้าเคร่งเครียดผิดวิสัยเด็กเมื่อชวนคุยให้ยิ้มพบว่าฟันผุหมดทั้งปาก แทบไม่เหลือตอ
เจ้าของบ้านเป็นหญิงสูงวัยจากน้ำเสียงพูดและหน้าตาน่าจะเป็นไทยเชื้อสายจีน กับชายหนุ่มอายุไม่น่าเกิน 30 ยอมรับว่าคือชายคนที่เราต้องการพบ และในทันทีก็มีหญิงสาวอายุ 30 ต้นๆเดินจากนอกบ้านเข้ามาทราบต่อมาว่าเป็นพี่สาว มาถามว่ามีอะไรเหรอเมื่อบอกว่าจะมาแจ้งข่าวเรื่องอาการป่วยของเด็กชาย........ว่าขณะนี้สุขภาพแข็งแรงขึ้นจนสามารถรับกลับไปดูแลต่อได้ พี่สาวก็รีบบอกทันที เด็กนี้ไม่ไช่หลาน ผู้หญิงคนนั้นเลิกกับน้องชายไปตั้ง 2-3 ปีแล้วไปมีผู้ชายอื่น ลูกสามคนก็ไม่เคยมาเหลียวแล ไม่เคยส่งเสียนี้พอท้องจะคลอดก็มาให้น้องชายไปเซ็นรับเป็นลูก น้องชายก็โง่ไปเซ็นให้ พยาบาลเห็นท่าจะลามปามกันไปใหญ่เลยพยายามประณีประนอม บอกว่าวัตถุประสงค์ที่มาติดตามเพื่อแจ้งข่าวและปรึกษากันเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม มิได้มาเพื่อให้รับผิดชอบแต่อย่างใด เมื่อถามถึงแม่เด็กว่าเราจะไปพบได้ที่ใด ชายที่เรามาพบก็อาสาจะไปตามภรรยาเก่าให้ แต่บอกที่อยู่ไม่ถูกไม่รู้เลขที่เป็นบ้านญาติภรรยาที่อยู่นอกเมือง จากนั้นพยาบาลก็พูดคุยกับหญิงสูงวัยวัดความดันโลหิตให้และสอบถามภาวะสุขภาพทราบว่ามีโรคประจำตัวคือโรค หอบหืดและความดันโลหิตสูงไปรับยาที่โรงพยาบาลอยู่เนืองๆ เมื่อขอยามาดูและพูดคุยกันเรื่องสุขภาพคุณป้าก็ปรับทุกข์เรื่องหลาน 3 คนให้ฟังว่าเพื่อนแนะนำให้เอาไปฝากที่สถานสงเคราะห์เคยเรียกรถตู้มาให้แล้วมารับจะไปส่งพวกนี้ไม่ยอมไปร้องไห้ ถามว่าอยู่กับอาม่าถ้าไม่มีอะไรกินล่ะ หลานชายก็บอกว่าไม่มีก็อดก็ได้ไม่เป็นไร ตนก็อดทนเลี้ยงมาบางทีไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งคนขายก็บอกถุงนี้ซื้อ ถุงนี้อั๊วให้ลื้อเอาไปให้หลานๆกิน เราก็แก่แล้วเหนื่อยบางทีหายใจไม่ออกทำงานอะไรก็ไม่ไหว เลี้ยง 3 ตัวนี้ก็เหนื่อยแล้ว หลานคนกลาง
ที่เห็นรอยแผลเป็นนั้นมันเดินข้ามถนนจะไปขอตังค์ลุงมาซื้อขนม โดนรถชนทับผ่านไปเลยนึกว่าไม่รอดแล้ว เพิ่งไปผ่าเอาเหล็กออกเมื่อปีที่แล้วต้องจ่ายพิเศษให้หมอ 2,500.-บาทคนอื่นหมอเอา 5,000.- แต่เค้าสงสารอาม่าเอาแค่ 2,500.- พยาบาลถามถึงสามี ป้าบอกว่าไม่อยู่ตอนนี้ไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ถามว่าพ่อเด็กตอนนี้ทำงานอะไรก็ตอบว่าบางทีก็วิ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เมื่อถามถึงเรื่องบ้าน คนรู้จักกันให้เช่าตอนนั้นค่าเช่าถูกแต่ฝนรั่วก็บอกให้เค้าช่วยเปลี่ยนหลังคาให้ใหม่เค้าเลยขึ้นค่าเช่าเป็น 2000.- แต่อยู่ตรงนี้ดีมันสะดวกไปตลาดก็ไม่ไกล เมื่อพูดคุยกันพอประมาณพยาบาลก็ลากลับโดยหันไปกำชับกับพ่อเด็กว่า
"ช่วยหน่อยนะถ้ามีปํญหาเรื่องไม่พร้อมจะเลี้ยงดูก็ไม่เป็นไรแต่ให้มาปรึกษากันว่าพ่อแม่จะยินยอมให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้" ครับผมจะไปตามให้ นี่คือน้ำใจลูกผู้ชายคนหนึ่งแม้เขาจะปฏิเสธก็ได้แต่เราก็ได้รับความร่วมมืออย่างเกินความคาดหวัง ( visit หน้าจะมาบันทึกต่อให้อ่านคะ)
2-3 วันต่อมาก็มีป้าสูงอายุมารับเด็กไปและแจ้งที่อยู่ใหม่ไว้ หลังจากรับเด็กกลับไป 3-4 วันพยาบาลจึงได้ติดตามไปเยี่ยมตามที่อยู่ใหม่ที่แจ้งไว้ แต่พบว่าไม่มีบ้านเลขที่ตามที่แจ้งไว้ พยาบาลเริ่มกังวลจะหาเจอไหมเนี่ย! จึงไปสอบถามคนละแวกนั้นว่าเห็นบ้านไหนรับเลี้ยงเด็กบ้างหรือเปล่าได้รับข้อมูลว่ามีบ้านป้าหนูรับเลี้ยงเด็กอยู่ในซอยถัดไปแต่เด็ก น่าจะอายุในราว 7-8 เดือนแล้วจึงไม่น่าไช่บ้านที่เราตามหาแต่ก็จะลองเสี่ยงไปดู เดินผ่านร้านน้ำชาเล็กๆ แวะเข้าไปถามเจ้าของบอกไม่รู้จักนะ แต่มีคนแก่ๆคนหนึ่งขี่จักรยานมาซื้อของเห็นเลี้ยวเข้าไปทางนี้แต่ไม่รู้ว่าบ้านอยู่หลังไหน เดินผ่านไปเห็นป้ากำลังอาบน้ำเด็กอยู่หน้าบ้าน เลยแวะเข้าไปถามปรากฏว่าเป็นบ้านป้าหนู แนะนำตัวเองว่าเป็นพยาบาลอยู่ที่รพ......จะมาเยี่ยมเด็กคลอดก่อนกำหนดที่เพิ่งรับกลับจากโรงพยาบาล ป้าเคยเห็นบ้านไหนมีเด็กอ่อนบ้างไหม เห็นที่ร้านน้ำชาบอกว่ามีป้าแก่ๆน่าจะเพิ่งย้ายมาอยู่ ใหม่ละแวกนี้แต่ ไม่รู้ว่ามีเด็กหรือเปล่า "มีคะเข้าไปตรงไปอีกนะโน่นเห็นไหม โน่นแนะที่อยู่ติดกับบ้านที่เปิดประตูสีดำทิ้งไว้ เห็นไหม"ค่ะขอบคุณ ป้ามากเดี่ยวพยาบาลจะลองเข้าไปดู
พอไปถึงเจอหญิงสูงอายุคนหนึ่งกำลังนั่งปอกสตอแช่น้ำอยู่ในถังหน้าบ้านส่งกลิ่นโชย พยาบาลเห็นหน้าป้าก็รู้สึกคุ้น คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นป้า
แล้วก็นึกออก พยาบาลเคยไปเยี่ยมเมื่อปีก่อนป้ารับจ้างเลี้ยงเด็กแล้วพ่อแม่ทิ้งไปอยู่ 3 คน คนโตผู้ชายเข้าโรงเรียนแล้ว คนถัดมาผู้หญิง และเล็กสุดผู้ชาย ตอนที่ไปเยี่ยมคราวก่อนอายุในราว8-9 เดือน ยังไม่มีทะเบียนบ้านจะลงยังไม่ได้แจ้งเกิดกว่าจะเคลียร์กันก็ในราว 3 Visit และหลังจากนั้นก็มีน้ำท่วมใหญ่หลังน้ำท่วมก็ไปเยี่ยมอีกครั้งปรากฏว่าเอกสารสูญหายโดนน้ำไปหลายอย่าง แล้วก็พยาบาลเปลี่ยนพื้นที่รับผิดชอบไม่ได้ไปเยี่ยมอีก จนมาเจอกันวันนี้ ตอนอยู่ที่เก่าซึ่งเป็นชุมชนแออัดแห่งหนึ่งป้าหาเลี้ยงชีพด้วยการต้มถั่ว เผือก มัน ขาย มีรถเข็นเก่าๆคันหนึ่งเข็นออกมาขายที่ปากซอยทางแยกถนนใหญ่ ตัวเล็กก็ให้นั่งไปบนรถเข็นอีก 2 คนก็เดินตาม พอนึกออกพยาบาลก็ถามถึงเด็กๆ 3 คนว่าสบายดีไหม
"ไอ้ยาวไปโรงเรียน ตัวผู้หญิงไม่ได้ไปไม่มีตังค์ "แล้วมีเด็กแรกคลอดที่ป้ารับกลับมาใครดูให้ละ "อยู่ข้างบนแม่มันอยู่วันนี้ ไอ้...พยาบาลเขามาเยี่ยมพาลูกลงมาข้างล่างเร็ว" พยาบาลรออยู่พักใหญ่หญิงสาวอายุในราว 25-26ผมยาวดูทันสมัยสวมเสื้อยืดรัดรูปมีรอยสักที่โหนกแก้มและหัวไหล่ อุ้มเด็กมาห่อด้วยผ้าห่อตัวเรียบร้อย ป้ารับเด็กมาทั้งเบาะแล้ววางลงกับพื้น แก้เด็กออกดู เด็ก activeดี ดูดนมผสมได้ ไม่ได้กินนมแม่ ไม่มีอาการ
ตัวตาเหลือง Void ดี อุจจาระปกติ เมื่อดูเด็กเรียบร้อยก็มาชวนป้าคุยว่าพ่อแม่เด็กเค้าแวะมาเยี่ยมบ้างไหม "ไม่เคย ไม่เคยมาเลย 2 ตัวโน่นเล่นอยู่ข้างบน" แล้วตัวเล็กเวลาแม่ไปทำงานใครช่วยดูล่ะป้า " (ค่อยเล่าต่อนะคะหิวข้าวแล้ว)
เด็กต้องกินนมสำหรับเด็กคลอดก่อนกำหนดต่อจนกว่าแพทย์จะนัดมาประเมินภาวะการเจริญเติบโตตอนอายุ 1 เดือนจึงจะพิจารณาอีกครั้งแนะนำให้พยาบาลHHCติดต่อห้องนมเพื่อรับสนับสนุนพี่จะโทรไปประสานให้
ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ พยาบาลHHCต้องเยี่ยมทุกโรคแต่เราไม่สามารถที่จะมีความรู้ความชำนาญทุกโรคดังนั้นพยาบาลประจำแผนกต่างๆซึ่งมีความรู้ความชำนาญในเรื่องนั้นๆจะสามารถให้คำปรึกษาที่ดีได้ และเรื่องนมนั้นพยาบาลHHCได้ดำเนินการตามที่กรุณาให้คำแนะนำและนำนมไปส่งให้คนเลี้ยงเด็กเรียบร้อยแล้วค่ะ ไปถึงป้าที่เลี้ยงเล่าว่า"เมื่อวานป้าขี่จักยานตากฝนเปียกหมดไปขอนมที่เทศบาลแต่เขาไม่ให้นมเด็กเล็กเขาว่าต้อง 6 เดือนขึ้นไปให้กินนมแม่ป้าให้เขาจดชื่อไว้แล้วเขาว่าค่อยติดต่อมาแต่ไม่รู้ว่าจะได้อีกหรือเปล่าเด็กยังอยู่ในทะเบียนบ้านกลางยังไม่มีที่ลงไม่รู้เขาจะให้หรือเปล่า"ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือว่าเมื่อพยาบาลถามว่าป้าในเมื่อไม่มีนมน่าจะช่วยพูดกับแม่เด็กให้เด็กได้ดูดนมถึงไม่ไหลแต่มันก็ยังเกิดความอบอุ่นผูกพันธ์ ป้าบอกว่า"กลุ้มใจมากแม่มันไม่ทำอะไรเช้ามาป้าต้องซักผ้าอ้อม หาของให้พวก2-3ตัวนี้กิน ซื้อน้ำเต้าหู้มาสองถุงตัวนี้ให้กินวันละถุงมื้ออื่นให้มันกินนมมั่งกลัวที่เขาว่ามันจะขาดสารอาหารอะไรต่ออะไรแต่มันก็อ้วนดีแล้วอีกอย่างหลานสาวมาบอกป้าว่า.......มันเสพ........ป้าเลยกลัวกินนมแม่แล้วเข้าไปที่เด็กเดี่ยวมันเป็นพิษภัยมันก็ยิ่งตัวเล็กๆไม่แข็งแรงอยู่แม่มันว่าให้ป้าให้ใครไปก็ได้ยกสิทธิ์ให้ป้า ป้าก็ว่าสงสารมันเลี้ยงให้พอได้สัก 2 เดือนถ้าไม่ไหวก็จะไปส่งสถานสงเคราะห์แต่ถ้าให้คนอื่นนั้นไม่กล้าให้กลัวเขาเอาไปทารุณโตขึ้นไม่ได้เรียนหนังสือหนังหา" พยาบาลก็ได้แต่รอลุ้นว่าป้าจะมีกำลังพาเด็กมาตรวจตามนัดหรือเปล่า ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองให้ป้ามีกำลังวังชามีสุขภาพที่ดีพอที่จะเป็นที่พึ่งให้เด็กๆ 4 คนนั้นไปจนตลอดรอดฝั่งด้วยเทอญ แล้วพยาบาลจะคอยติดตามไปเยี่ยมและจะช่วยเหลือเต็มกำลังความสามารถ
ครบ 1 เดือนผ่านไปพยาบาลมีนัดติดตามดูแลเด็กคลอดก่อนกำหนดและเลี่ยงต่อChild abuse หลังจากโทรตรวจสอบข้อมูลจากแผนกเวชระเบียนพบว่าเด็กยังไม่เคยกลับมารับบริการอีกเลยตั้งแต่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล และวันที่นัดตรวจสุขภาพและรับวัคซีน ตอนอายุครบ 1 เดือน ก็ ไม่มา F.U. ตามนัด พยาบาลจึงออกติดตามเยี่ยมบ้าน พบเด็กยังอาศัยอยู่กับป้าคนเดิม เด็กนอนอยู่แปลผ้าคล้องกับสปริง มีเด็กชาย 2 คนเล่นอยู่กลางพื้นด้านส่วนนอกบ้าน มีกองผ้าที่ยังไม่ได้พับทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ สอบถามว่ามีใครอยู่ในบ้านไหม"ไม่มี" ยายไปไหนล่ะคะ "ไม่รู้" พยาบาลขออนุญาติดูน้องหน่อยนะ พยัหน้ารับ ดช......หลับอยู่ในแปลผ้า ห่อด้วยผ้าอ้อมไม่ได้สวมเสื้อและกางเกง นน.ตัวเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์พอใช้ ขณะกำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปป้า.....คนเลี้ยงก็เดินกลับเข้ามา "เห็นรถรพ.มารีบเดินกลับมาไปนั่งที่บ้านโน้นอยู่" เป็นยังไงบ้างค่ะป้าดูเขาแข็งแรงขึ้นนะ "แม่มันไปทำงานหรือไปเที่ยวไหนไม่รู้วันนี้ไม่อยู่ เมื่อวานสงสารมันจังนมหมด บอกแม่มันแล้วแม่มันก็ไม่ยอมซื้อให้ที่จริงถ้าไปทำงานแล้วนะแอบผัวมันเอามาให้ไปซื้อนมให้ลูกสักหน่อยฉันก็จะเลี้ยงให้นิ นมหมดฉันชงนมของไอ้....ให้กินสงสัยจะปวดท้อง น่าเห็นดูจริงเลยไปซื้อมหาหิงส์มาทาให้ ไม่รู้จะเป็นไงมั่ง" พยาบาลคิดว่าน่าจะพาเด็กไปให้หมอเด็กดูหน่อยว่าน้ำหนักตัวเด็กเพิ่มตามเกณฑ์ดีไหม จะเปลี่ยนนมได้หรือยัง และถ้าเปลี่ยนต้องมากินชนิดไหนจึงจะเหมาะแต่ยังไม่ควรให้กินนมเด็กโตเพราะส่วนผสมในนมนั้นแตกต่างกันมาก และเด็กมีนัดรับวัคซีนด้วย "ไม่รู้จะไปยังไงไอ้พวกนี้ก็ไม่กล้าทิ้งไว้บ้านกลัวเที่ยวออกซนรถราชนเอา มีคนที่เขาจะเอาเหมือนกันแต่เขาก็ไม่มีฐานะอะไรทำงานโรงน้ำเดี่ยวเลี้ยงๆเขาเกิดมีลูกเขาเองจะทำยังไง แม่มันไม่สนใจเลยเงินทองก็ไม่ให้ ลูกๆป้าเขาก็ไม่อยากให้เลี้ยงแล้ว ถ้าพาไปสถานสงเคราะห์ทำไงละ นี่ใบเกิดมันอยู่นี่ แม่มันบอกว่าป้าจะทำยังไงก็ทำตะ" ตกลงป้าจะไม่ช่วยเลี้ยงให้ได้สัก 2 เดือนก่อนเหรออยู่ที่นี่ป้าดูแลใกล้ชิดกว่า ที่สถานสงเคราะห์มีเด็กเยอะ บางครั้งก็ดูแลไม่ทั่วถึง "ก็ไม่รู้นี่ถ้าส่งตัวนี้ไปสงเคราะห์แล้วแม่มันฉันก็จะไม่ให้อยู่แล้วให้มันไปหาที่อยู่อื่นเดี่ยวเที่ยวมาติดยาพวกเด็กๆมันไม่รู้อะไร" สรุปว่าป้าคิดว่าจะส่งเด็กไปสถานสงเคราะห์หรือคะ "ต้องใช้อะไรมั่งช่วยติดต่อให้หน่อย ไปอยู่แล้วเขาคิดเงินเท่าไหร่" พยาบาลก็ไม่แน่ใจในรายละเอียดขั้นตอนต่างๆนะคะป้า แต่ถ้าป้าคิดว่าไม่ไหวแล้วพยาบาลจะติดต่อประสานงานให้ ส่วนค่าใช้จ่ายไม่มีคะไม่ต้องจ่ายค่าอะไรทั้งสิ้นคะ วันนี้พยาบาลขอนำสูติบัตรเด็กไปดำเนินการนะคะ ระหว่างนี้ป้าฃ่วยดูแลไปก่อนนะคะคิดว่าวันจันทร์หน้าน่าจะเรียบร้อยไปส่งเด็กได้ แล้วพยาบาลจะส่งข่าวมาแจ้งล่วงหน้าในสัปดาห์นี้
จาก: ปรัชญา (นุ๊ก) [email protected] หัวข้อ: ขออนุญาตสอบถามครับ —————————————
ตอนนี้ผมเป็นทหารเกณฑ์ เเล้วสอบผ่านรอบเเรกนักเรียนนายสิบทหารบก เหลือเเค่ทดสอบร่างกาย กับตรวจสุขภาพ เเต่ผมเพิ่งมาพบว่าผมตาบอด สีเขียว/เเดง ในวันที่ 20 มี.ค. 61 นี้ต้องเข้ารับการทดสอบเเล้ว อยากสอบถามว่าผมควรทำอย่างไรดีครับ พอจะมีวิธีเเก้ไหมครับ ผมอยากเป็นนายสิบมากๆครับ ขอบคุณครับ
ตอบ คุณปรัชญา
พยาบาลไม่แน่ใจว่าทางหน่วยงานที่รับมีเกณฑ์อย่างไร มีงานไหนบ้างในกรมที่ไม่เป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ตาบอดสี
แต่หากไม่เป็นไปตามที่กำหนดก็ขอให้เชื่อมั่นในตนเองยังมีสิ่งที่เหมาะสมกว่ารอเราอยู่ เทคโนโลยีหรือการรักษาตาบอดสีปัจจุบันในปท.ไทยยังมีข้อจำกัดคะ