ณัฐวุธ แก้วสุทธา* สถาพร นิ่มกุลรัตน์**
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างในการถูกดูดซับฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟัน
ภายหลังจากการใช้โซเดียมฟลูออไรด์เจลที่ผลิตจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒที่ความเข้มข้นร้อยละ 1.1 และ
ร้อยละ 2 ในผิวเคลือบฟันปกติ และผิวเคลือบฟันที่จำลองสภาวะฟันผุ โดยเป็นการศึกษาในห้องปฏิบัติการโดย
คัดเลือกฟันกรามแท้ของมนุษย์ที่ไม่มีรอยผุจำนวน 20 ซี่ มาเป็นตัวอย่างในการทดสอบ แบ่งฟันเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ
10 ซี่ โดยวิธีสุ่มอย่างง่าย คือ กลุ่มที่บริเวณผิวเคลือบฟันปกติ และกลุ่มผิวเคลือบฟันมีการจำลองสภาวะฟันผุ
ฟันในแต่ละกลุ่มจะถูกทดสอบด้วยโซเดียมฟลูออไรด์เจล ความเข้มข้นร้อยละ 1.1 และร้อยละ 2 เป็นเวลา 4 นาที
จากนั้นจะนำฟันตัวอย่างมาทดสอบการดูดซับฟลูออไรด์ด้วยวิธีเอซิดเอ็ช-ไบออฟซี ทำการวัดปริมาณความเข้มข้น
ของฟลูออไรด์และมวลแคลเซียมด้วยเครื่องวิเคราะห์อิออนในสารละลาย และเครื่องสเปคโทรโฟโตมิเตอร์ชนิด
วัดการดูดซับอะตอม บันทึกค่าความเข้มข้นของฟลูออไรด์และการดูดซับฟลูออไรด์ที่ผิวเคลือบฟัน วิเคราะห์
ข้อมูลทางสถิติด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การทดสอบความแปรปรวนสองทางแบบวัดซํ้า และ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มด้วยการทดสอบแบบทูกีย์ (Tukey HSD) และการทดสอบที (t-test) ที่
ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการศึกษาพบว่า ค่าความเข้มข้นของฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟัน หลังการทดสอบ
ด้วยโซเดียมฟลูออไรด์ทั้งความเข้มข้นร้อยละ 1.1 และ ร้อยละ 2 ทั้งในผิวเคลือบฟันปกติและผิวฟันที่จำ�ลอง
สภาวะฟันผุ มีค่าสูงขึ้นและแตกต่างจากความเข้มข้นของฟลูออไรด์เบื้องต้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001)
นอกจากนี้ พบว่า การใช้โซเดียมฟลูออไรด์เจลที่มีความเข้มข้นร้อยละ 2 นั้น ทำให้เกิดการดูดซับฟลูออไรด์ใน
ผิวเคลือบฟันสูงกว่า โซเดียมฟลูออไรด์เจลความเข้มข้นร้อยละ 1.1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และ
การดูดซับฟลูออไรด์ในผิวเคลือบฟันที่มีการจำลองสภาวะฟันผุมีค่าสูงกว่าผิวฟันปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
(p<0.001)
คำสำคัญ : โซเดียมฟลูออไรด์ การดูดซับฟลูออไรด์ การทดสอบเอซิดเอ็ช-ไบออฟซี*
อ่านฉบับเต็ม pdf format ได้ที่
ไม่มีความเห็น