รู้ทุกข์ พาให้รู้สุข


รู้ทุกข์ พาให้รู้สุข และพรุ่งนี้จะมีบททดสอบใด ๆ มา คิดว่ารับได้ อย่างเก่งก็ รู้ทุกข์รู้สุขและอยู่กับมันกับตนได้ เจ้าค่ะ

จากความคิดเห็นของอาจารย์คนถางทาง

การเทียบถ้ามีปัญญากำกับด้วยก็เป็นสิ่งดี แต่หากไม่มีก็อาจไม่ดี..จนนำความทุกข์มาให้ได้

เช่น เทียบกับคนที่มีทุกข์มากกว่าเรา (เช่น khunrapee ว่า)

หรือเทียบกับคนที่เขามีศีล สมาธิ ปัญญา มากกว่าเรา แล้วเราทะเยอยาน อยากเป็นแบบเขา ...แบบนี้ก็น่าเทียบนะ ผมว่า


และจากส่วนหนึ่งของบันทึกนี้ ทุกข์เพราะเทียบ

เมื่อคิดคำนึงถึงเรื่องรอบ ๆ ตัว

เราเปรียบเทียบงานของเรากับของคนอื่น เราทุกข์เพราะรู้สึกว่า เราน่าจะทำได้ดีเท่ากับหรือดีกว่าคนอื่น เราลืมนึกไปว่า งานของเราสำเร็จแต่ละชิ้น คือพัฒนาการและความงดงาม ความสุข ความสำเร็จเป็นลำดับขั้น ของตัวเราเอง

เราเปรียบเทียบ คนแห่งความรักของเรากับคนอื่นว่า เขาน่าจะเข้าใจเราเหมือนคนอื่นที่ีเข้าใจเรา เราลืมนึกให้ลึกซึ้งลงไปว่า ถ้าเรารักเขาประหนึ่งเป็นคนแห่งความรักของเราจริง ๆ เราต้องไม่มีเงื่อนไขในความรัก

เราเปรียบเทียบอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย

เราลืมนึกไปว่า เวลาที่มีเหลือให้เราอาจไม่มากมายนัก ไม่พอให้เราคิดเปรียบเทียบยืนยาว

มีความสุขกับ สิ่งที่เรามี เป็น อยู่คือ กันดีกว่านะคะ


ความคิดเห็น คุณ rapee 

บ่อยครั้งที่แนะนำคนไข้..

เวลาเรามีความทุกข์ ที่อาจรับไม่ไหว.. ให้มองคนที่แย่กว่าเรา.. เค้ายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข หรือมีความทุกข์ที่พอทน.. เราจะมีกำลังใจเพิ่มขึ้น

ใช้วิธีเทียบเหมือนกันค่ะ


จนกระทั่งได้ตกผลึกความคิดของตัวเองระหว่างรอเวลาขึ้นเครื่องนกแอร์ เจ้าของฉายา เลื่อนเสมอ เป็นดังนี้


 เห็นด้วยมาก ๆ เลยค่ะอาจารย์ถาง


เทียบโดยมีธรรมกำกับเช่นปัญญา


วันนี้นั่งครุ่นคิดว่า ถ้าเราหมั่นทบทวนตนโดยมีธรรมอื่น ๆ กำกับด้วย เราคงไม่มีความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากไป หมกมุ่นแบบมีอคติ หรือหมกมุ่นแบบมีมิจฉาทิฎฐิ

นกแอร์เลื่อนเวลาผู้โดยสารเป็นชั่วโมง จึงใช้เวลาทบทวนสิ่งขัดข้องใจ

เมื่อคิดออก คิดโดยเอาตัวเรา(อัตตา) ออกไปนอกตัว คิดโดยมีเมตตาต่อตนและผู้เกี่ยวข้อง คิดโดยใช้สติปัญญา คิดแบบพยายามแยกแยะถึงและรู้เหตุ ผล ตน ประมาณ กาลเวลา ประชุมชน บุคคล รวมทั้งตั้งใจเอาจิตวิญญาณตนที่พอมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา มาเป็นสรณะ

เป๊ะมาก (ยืมคำเจ้าน้องทอมมาใช้)

เรารนหาเรื่อง หาที่ทุกข์ของเราเอง แต่ไม่เป็นไร ถึงตกลงไปในบ่วงทุกข์ หากพอมีสติ รู้ทุกข์และคาดเดาว่าจะเกิดทุกข์ตามมาอีกมากหลายถ้าไม่รีบกลับลำกลับใจ

เรียกได้ว่ายังดีที่..


รู้ทุกข์ พาให้รู้สุข


และเมื่อมาอ่านเนื้อหาของบันทึกรวมความคิดเห็นในบันทึกนี้ใหม่จนถึงของอาจารย์ถาง

ราวกับอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้วเข้าใจ เกิดความเชื่อมั่นแต่ไม่ประมาท

พรุ่งนี้จะมีบททดสอบใด ๆ มา คิดว่ารับได้

อย่างเก่งก็ รู้ทุกข์รู้สุขและอยู่กับมันกับตนได้ เจ้าค่ะ

ดูดีมีอนาคตขึ้นมาหน่อยค่ะ



ขอบคุณความคิดเห็นของอาจารย์ถางและท่านอื่นๆ อีกครั้งค่ะ


คุณน้องหมอป. อาจารย์ชยพร คุณยายธี คุณพ่อน้องซอมพอ คุณระพี และอาจารย์คนถางทาง


ราตรีสวัสดิ์ค่ะ กับการเดินทางที่ยาวไกลในวันนี้

หมายเลขบันทึก: 511197เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2012 23:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2014 11:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

นกแอร์ เจ้าของฉายา เลื่อนเสมอ  (ชอบฉายานี้มาก)

ต้องขอขอบคุณนกแอร์มา ณ ที่นี้ เพราะทำให้ อ. หมอ PS มีเวลาให้กับ .ตัวเอง. .....

 

รู้ทุกข์ พาให้รู้สุข    หลวงพ่อบอก "ก็อย่าไปติด ทุกข์ ติดสุข เข้าอีกละ"  ................"เป็นกลางๆนั่นแหละดีนะโยม............"

  • อ่านบันทึก 2 เรื่องของอาจารย์หมอ ได้ข้อคิด 2 ค่ะ

 

Ico48  รู้ทุกข์ พาให้รู้สุข    หลวงพ่อบอก "ก็อย่าไปติด ทุกข์ ติดสุข เข้าอีกละ"  ................"เป็นกลางๆนั่นแหละดีนะโยม............"

 

ขอบคุณนะคะ

เป็นกลาง ๆ ทำได้ยากนะคะ

Ico48 ขอบคุณอาจารย์มาสรุปให้ สรุปได้ลึกซึ้งกว่าผู้บันทึกสิคะ

เกิดความมั่นใจเหมือนกันค่ะอาจารย์ภูสุภา

เมื่อมีทุกข์ เดี๋ยวความสุขจะตามมา สลับสับเปลี่ยนกันไป

ฉะนั้นต้องเราต้องเทียบอย่างใช้สมอง.. ไม่ใช่อารมณ์ นะคะ

 

รู้ทุกข์รู้สุขและอยู่กับมันกับตนได้ เจ้าค่ะ

 

วันนี้พี่ที่รักเพิ่งชี้ทางสว่าง(ด้วยการสอน)ให้ฟังว่า เมื่อรู้ทุกข์รู้สุข อยู่กับมันได้ ขั้นตอนต่อไปควรมีความเพียรที่จะพาตนฝึกปฎิบัติ ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง จนกว่าเกิดปัญญา(intuition) 

เมื่อทำได้เท่ากับหลุดวงจรจากทั้งความทุกข์ความสุขแบบหยาบ ไปสู่ภพที่ระลึกรู้ถึงความสุขแบบประณีต

 

ขอให้เพียร และมุ่งมั่นที่จะไปในเส้นทางนี้

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท