การส่งเสริมความสุขในทางกิจกรรมบำบัด

ในปัจจุบัน หลายคนเข้าใจว่า ความสุข นั้นต้องซึ่งการแสวงหา แต่แท้จริงแล้ว ความสุขนั้นอยู่รอบๆ ตัวเรา อยู่ที่ว่าเราจะรู้จักนำมาใช้อย่างไร

         ดิฉันได้มีโอกาส พูดคุยกับผู้รับบริการ อายุประมาณ 17 ปี ผู้รับบริการบอกว่าครอบครัวของเขา ค่อนข้างขาดความอบอุ่นเนื่องจาก พ่อและแม่ ไม่ค่อยมีเวลาต้องทำงานเพื่อหารายได้ เวลาตนเองมีปัญหา ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ได้เจอหน้าพ่อและแม่ ตอนเช้าและตอนเย็นก่อนเข้านอน บางครั้งก็ไม่ได้รับประทานอาหารร่วมกัน เขาบอกว่ารู้สึกเบื่อและท้อแท้ บางครั้งนอนไม่หลับ ไม่รู้จะพูดคุยกับใคร ด้วยบุคลิกของเขาที่ขี้อาย และเมื่อไม่นาน เขาได้รู้จักกับเพื่อนที่เป็นเด็กเกเร ไม่เรียนหนังสือ มักจะนั่งเล่นอยู่แถวสนามโรงเรียน เขาบอกว่าเขารู้สึกสบายใจที่ได้คบเพื่อนเหล่านี้ แต่เขารู้ว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ แค่รู้สึก ไม่มีความสุข และ เบื่อหน่ายกับชีวิต 

ดิฉันจึงพูดคุยและแนะนำสิ่งที่ควรปฏิบัติให้แก่ผู้รับบริการ (อ้างอิง ตาม กรอบอ้างอิงทางกิจกรรมบำบัด PEO)

> P(person):พ่อและแม่ มีหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อหารายได้ ก็เหมือนกับตัวเราที่มีหน้าที่เหมือนกันคือ การศึกษา เราต้องรู้จักตนเองก่อน ว่าแท้ที่จริงแล้วตนเองต้องการอะไร และอยากที่จะทำอะไร พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิต สักวันเราต้องเพิ่งพาตนเอง 

>E(environment) : ในเมื่อตอนนี้สถาพแวดล้อมภายในบ้าน ขาดความอบอุ่น ไม่พูดคุยกัน แต่เราบอกว่าเราไม่มีความสุข เราก็ควรที่จะปรับ สิ่งแวดล้อม ของเราเอง โดยไม่ต้องรีรอ ให้ผู้อื่นเข้าหา เช่น ชักชวนพ่อแม่ มารับประทานอาหารร่วมกัน หรือ ถ้าเรารู้สึกว่าเตียงนอนของเรา นอนไม่สบาย ห้องนอนทำให้รู้สึกหม่นหมอง เราก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ตกแต่งบ้าน ห้องนอนให้น่าอยู่ บางครั้งเมื่อเรามองไปรอบๆ อาจทำให้เรารู้สึกเย็นตา สบายใจ

>O (Occupantion) ลองหาเวลาว่าง พูดคุยกับพ่อแม่ ทำกิจกรรมร่วมกันนอกบ้านเช่น เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า หรือรับประทานอาหารนอกบ้านร่วมกัน แต่ถ้าพ่อแม่ไม่มีเวลาออกไปนอกบ้าน เราก็ลองชักชวนให้ทำกิจกรรมภายในบ้านก็ได้ เช่น ปลูกต้นไม้ หรือไม่ถ้าเห็นแม่ทำอาหาร เราก็เข้าไปช่วย ก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นนะคะ^{^}