การกระตุ้นให้นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมประเพณีอย่างรู้คุณค่า เข้าใจความหมายจะทำให้ประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นกลายเป็นความรู้ที่คงทน
"บริเวณหน้าเสาธง"
ภาคเรียนที่ ๒ ครูนกมีบทบาทใหม่เพิ่มจากปกติคือ ทำหน้าที่ครูเวรประจำวันที่รับผิดชอบกิจกรรมหน้าเสาธงในทุกๆวันพุธ (ทำหน้าที่แทนพี่ๆ ที่เกษีียณอายุราชการไป) สาเหตุที่ครูนกตกลงรับปากกับพี่ๆที่มาทาบทามเนื่องจาก อยากบอกข่าวเล่าเรื่องกับนักเรียนหลายๆระดับชั้นนอกเหนือจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ และอยากฝึกทักษะการสื่อสารของตนเองด้วย ที่สำคัญได้แรงบันดาลใจจากการดูคลิปวิดีโอที่อาจารย์แผ่นดินนำมาให้ชมเมื่อต้นเดือนนี้ "สัญญาหน้าเสาธง" ที่มีความหมายต่อชีวิตของนักเรียน ต่อครูและผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆคน
ปฐมฤกษ์คือวันนี้ "วันพุธที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕" เริ่มต้นครูนกไปยืนเฝ้าสังเกตการมาโรงเรียนของนักเรียน และการแต่งกาย ตลอดจนพฤติกรรมของนักเรียนในการมาโรงเรียนตอนเช้าเพื่อเป็นข้อมูลในการพูดคุย แต่วันนี้มีเรื่องเด่นประเด็นในใจคือ "การร่วมกิจกรรมลอยกระทงอย่างรู้คุณค่า"
ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตนักเรียนคือ
- นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นส่วนใหญ่จะมาเร็วกว่านักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- นักเรียนแต่งเครื่องแบบกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหมวก
- นักเรียนหลายคนหอบข้าวหอบของพะรุงพะรัง
- นักเรียนหลายคนจะมาอย่างแจ่มใส และมีส่วนน้อยที่มาแบบ "ฉันยังไม่ตื่น"
แต่ด้วยวันนี้มีกิจกรรมหน้าเสาธงหลายอย่างคือ มองรางวัลการทำกระทงของนักเรียนทั้ง ๖ ระดับ ทำให้ครูนกตัดข้อมูลในใจเหลือเพียง "การร่วมกิจกรรมลอยกระทงอย่างรู้คุณค่า"
ครูนกได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของประเพณีลอยกระทง นางนพมาศ และเชื่อมโยงให้เห็นถึงคุณค่าของประเพณีนี้ที่สอนให้คนได้รู้จักกตัญญูรู้คุณต่อสายน้ำที่ให้คุณค่ามากมาย และเชื่อมโยงไปยังคุณค่าทางศาสนา ตลอดจนการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัว นอกจากนี้ครูนกได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่ได้มาจากศูนย์วิจัยเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็กที่บอกว่า อุบัติเหตุในช่วงวันลอยกระทง ผู้ประสบเหตุร้อยละ ๔๐ เป็นเด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ครูนกเลยชี้เห็นที่มาของอุบัติเหตุและการป้องกัน
ประเด็นสำคัญที่จะละเลยไม่ได้คือ เสียงเตือนจากสังคมที่ห่วงใยเยาวชนเกี่ยวกับ การเสี่ยงเสียตัวในวันลอยกระทงมากกว่าวาเลนไทน์
ผลจากการพูดหน้าเสาธงของครูนก เด็กๆที่ครูนกสอนจะสะท้อนกลับว่า
- ครูพูดจาฉะฉานดี (แต่ครูนกอยากปรับเสียงให้เบาลงในโอกาส
ต่อไป)
- ครูพูดเหมือนนักวิทยาศาสตร์เลยค่ะ มีความเป็นมา สุมมติฐาน และอีกมากมาย (สอดคล้องที่พี่ๆบอกว่า พูดสไตล์ครูวิทยาศาสตร์ สั้น กระชับ ตรงประเด็น)
- เด็กๆ บอกว่า พูดแบบนี้ดีทำให้เขาได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้มาก่อน ดีกว่าจะมาบ่นหรือตักเตือน (อยากบอกว่า ทั้งสองอย่างต้องผสมผสานกันไปค่ะ)
- นักเรียนหลายคนปรบมือให้และตั้งใจฟังครูนะค่ะ (เด็กๆจะบอก)
จากเสียงสะท้อนของนักเรียนและเพื่อนครู ครูนกจะพยายามลดระดับเสียงลงอีก และลดความเร็ว ส่วนสาระเนื้อหาจะพยายามให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่ผู้ฟังจะได้ประโยชน์ไปใช้ในการดำเนินชีวิต นี้คือสัญญาหน้าเสาธงของครูนก