ครูนอกระบบ
นาง ณัฐนิธิ อารีย์ อักษรวิทย์

<เล่าสู่กันฟัง>ประเภทของกรรม ๑๖ ประเภท


*ประเภทของกรรม ๑๖ ประเภท*

       ประเภทของกรรมตามคำสอนทางพระพุทธศาสนา แบ่งเป็น ๔หมวดๆ ละ ๔ ประเภท รวม ๑๖ ประเภท ได้แก่

๑.หมวดกิจจะจตุกกะ คือ กรรมว่าโดยหน้าที่ มี ๔ ประเภท ได้แก่

    ๑.๑ชนกกรรม คือกรรมมีหน้าที่ยังวิบากให้เกิดสัตว์โลกทั้งปวงย่อมเกิดด้วยอำนาจของชนกกรรมแต่ละชาติที่เกิดภายใต้กฏแห่งชนกกรรมเป็นพนักงานตกแต่งให้เกิดทั้งหมด

๑.๒อุปัตถัมภกกรรม คือกรรมมีหน้าที่อุปถัมภ์ค้ำชูกรรมอื่นเป็นกรรมที่เข้าไปอุปถัมภ์กรรมของสัตว์ที่เกิดแล้วเมื่ออำนาจของชนกกรรมนำปฏิสนธิแล้วอุปถัมภกกรรมก็เข้าทำหน้าที่อุปถัมภ์ให้ได้รับทุกข์หรือสุขหรืออกุศลกรรมหรือกุศลกรรมให้มีพลังมากยิ่งขึ้น

๑.๓อุปปีฬกกรรม คือกรรมมีหน้าที่เบียดเบียนกรรมอื่นเข้าไปทำร้ายหรือบีบคั้นกรรมอื่นที่มีสภาพตรงกันข้าม ซึ่งมีทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศลเป็นผลให้กรรมฝ่ายตรงกันข้ามอ่อนกำลังลงเสื่อมลง

๑.๔อุปฆาตกกรรม หรืออุปัทเฉทกกรรม คือมีหน้าที่เข้าไปตัดรอนกรรมอื่นที่มีสภาพตรงกันข้ามได้อย่างเด็ดขาดและรวดเร็วเป็นปัจจุบันทันด่วนยิ่งกว่าอุปปีฬกกรรม ซึ่งมีทั้งฝ่ายกุศลและอกุศลเป็นผลให้เจ้าของกรรมได้รับผลทันทีทันใด


๒.หมวดปากะทานปริยายะจตุกกะ คือ กรรมว่าโดยลำดับการให้ผล มี ๔ ประเภท ได้แก่

    ๒.๑ครุกรรม คือกรรมหนักซึ่งมีอำนาจให้ผลเป็นลำดับแรกก่อนกรรมทั้งหลายไม่มีกรรมใดจะมีพลังมาขวางกั้นผลแห่งครุกรรมนี้ได้เลยซึ่งมีทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล

  ๒.๒อาสันนกรรม คือ กรรมที่ให้ผลเวลาใกล้ตายซึ่งมีอำนาจให้ผลเป็นอันดับสองรองจากครุกรรมจะชักนำบุคคลเจ้าของกรรมให้ได้รับผลโดยไม่เนิ่นช้า

  ๒.๓อาจิณณกรรม หรือพหุลกรรม คือ กรรมที่ทำบ่อยๆเนืองๆ ให้ผลเป็นลำดับสาม ถ้าไม่มีครุกรรมและอาสันนกรรม กรรมนี้จะให้ผลเพราะเป็นกรรมที่กระทำบ่อยๆ สั่งสมไว้ในสันดานมากๆ ย่อมจักได้โอกาสให้ผลในชาติต่อไปทันที

๒.๔กตัตตากรรม คือ กรรมที่สักแต่ว่ากระทำ มีอำนาจให้ผลเป็นลำดับที่ ๔ ซึ่งเป็นกรรมที่ผู้กระทำไม่ตั้งใจ ไม่มีเจตนา เป็นสักแต่ว่ากระทำลงไป เป็นกรรมที่มีพลังน้อยที่สุด แต่ก็ย่อมมีโอกาสให้ผล ในบรรดาสัตว์ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสารนี้ ที่จะได้ชื่อว่าไม่มีกตัตตากรรมเป็นอันไม่มี

๓.หมวดปากะกาลจตุกกะ คือ กรรมว่าโดยเวลาที่ให้ผล มี ๔ ประเภท ได้แก่

๓.๑ ทิฐธรรมเวทนียกรรม คือ กรรมที่ให้ผลในชาติปัจจุบันเป็นกรรมที่ให้ผลรวดเร็วปัจจุบันทันด่วน ไม่ต้องไปรอรับผลชาติหน้าหรือชาติไหนๆ ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เป็นกุศลและอกุศล

๓.๒ อุปปัชชะเวทนียกรรม คือ กรรมที่ให้ผลในชาติหน้า เป็นกรรมที่ให้ผลช้าเป็นที่สองรองจากทิฏฐธรรมเวทนียกรรม

๓.๓ อปราปริยะเวทนียกรรม คือ กรรมที่ให้ผลในชาติต่อๆ ไปเป็นกรรมที่ให้ผลช้ารองจาก ๒ ข้อแรก ย่อมให้ผลในชาติที่ ๓ เป็นต้นไป ซึ่งมีทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล

๓.๔ อโหสิกรรม คือ กรรมที่สำเร็จแล้วไม่มีโอกาสให้ผล เพราะทิฏฐธรรมเวทนียกรรมอื่นมีพลังสูงกว่าชิงส่งผลให้เสียแล้วจึงกลายเป็น กรรมที่หมดประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกุศลหรือฝ่ายอกุศล

๔.หมวดปากะฐานจตุกกะ คือ กรรมว่าโดยฐานะให้ผล มี ๔ประเภท ได้แก่

๔.๑ อกุศลกรรม คือ กรรมที่ให้ผลนำไปเกิดในอบายภูมิ ๔ได้แก่ สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน

๔.๒ กามาวจรกุศลกรรม คือ กรรมที่ให้ผลนำไปเกิดในสุคติภูมิ๗ ได้แก่ มนุษย์และสวรรค์ ๖ ชั้น

๔.๓ รูปาวจรกุศลกรรม คือ กรรมที่ให้ผลนำไปเกิดในรูปพรหม ๔ ชั้น

๔.๔ อรูปาวจรกุศลกรรม คือ กรรมที่ให้ผลนำไปเกิดในอรูปพรหม ๔ ชั้น

    ขอจ งพิจารณาดูเถิดว่า เราเกิดมาในชาตินี้ด้วยกรรมอะไรอดีตกาลที่ผ่านมาและในปัจจุบันเราประสบการณ์ ที่ดีและร้ายด้วยอำนาจแห่งกรรมอะไร หากจะพิจารณาด้วยปัญญาก็จะทราบชัดถึงกรรมของตนเองได้เป็นอย่างดี เพราะเหตุว่าสัตว์โลกทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ย่อมจักหนีกรรมไม่พ้นไม่กรรมใดก็กรรมหนึ่งแน่นอนตราบเท่าที่ยังว่ายวนอยู่ใน สังสารวัฏ

คำสำคัญ (Tags): #ผลของกรรม
หมายเลขบันทึก: 510261เขียนเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2012 17:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 19:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท