หน้าแรก
สมาชิก
เอกชัย กศน.ผักไห่
สมุด
การทำงานของ เอกชั...
รายการสายใย กศน. ...
เอกชัย กศน.ผักไห่
นาย เอกชัย ยุติศรี
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
รายการสายใย กศน. 26 พ.ย., 3, 10, 17 ธ.ค.55
26 พ.ย.55 เรื่อง “การให้บริการทางวิชาการของสถาบันการศึกษาทางไกล”, 3 ธ.ค.55 เรื่อง “จากพระราชดำริสู่ประชาชนโดย กศน.”, 10 ธ.ค.55 เทปซ้ำวันที่ 3 ธ.ค.55, 17 ธ.ค.55 เรื่อง “งานสืบสานบุราณศิลป์”
รายการสายใย กศน.
วันที่
17
ธันวาคม 2555
เรื่อง
“งานสืบสานบุราณศิลป์”
ดำเนินรายการ
โดย นายคุปต์ มะรินทร์
วิทยากร
คือ
- ดร.มาริสา
โกเศยะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก ( วิทยาลัยในวัง )
- เสาวณี รักคง หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมปฏิบัติการ กิจกรรมการเรียนรู้และนิทรรศการ
- นายจักรกริศษ์ สุขสวัสดิ์ ครูภูมิปัญญาไทย
- นายศิริพรรณ ศิริธรรมขันติ วิทยากรงานช่างเขียน
- นายธิติ วิรุฬห์ชาตะพันธ์ นักศึกษา
- ปริ่มพร ชาญสายชลนะธี นักศึกษา
ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจาภิเษก ( วิทยาลัยในวัง ) จัดตั้งขึ้นปี 2539 ขยายมาจากวิทยาลัยในวังชาย ที่ตั้งในพระบรมหาราชวังตั้งแต่ปี 2531 เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงห่วงใยการสืบสานงานช่าง 10 หมู่ ( ใช้กับวังและวัด ) ที่ร่อยหรอหายาก พระองค์ให้ความสำคัญ เช่นเป็นผู้มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้จบหลักสูตรด้วยพระองค์เอง
ต่อมา พ.ศ.2538 ทรงให้ฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ฯครบ 50 ปี โดยให้ขยายวิทยาลัยในวังออกมาอยู่ในที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จำนวน 4 ไร่ โดยกรมการศึกษานอกโรงเรียนร่วมกับสำนักพระราชทานจัดการเรียนการสอนวิชาช่าง 10 หมู่ หลักสูตร 800 ชั่วโมง ( ประมาณ 8 เดือน ) รับนักศึกษาจากต่างจังหวัดทั่วประเทศมาอยู่ประจำในหอพัก เรียนฟรี ผู้อำนวยการท่านแรกคือ มรว.ภิญโญสวัสดิ์ สุขสวัสดิ์
ปัจจุบันปรับเปลี่ยนตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม เพราะผู้เรียนเป็นผู้ใหญ่ เป็นเกษตรกรยากจน ต้องทำงานหารายได้ ไม่ค่อยมีเวลามาอยู่ประจำเป็นเวลายาวนาน จึงเปลี่ยนเป็นการเรียนแบบไป-กลับ และรับนักศึกษาในพื้นที่ แต่ขยายเครือข่ายไปต่างจังหวัด 5 แห่ง เช่นที่ เชียงใหม่ ( ช่างบุดุน ) นครสวรรค์และยโสธร ( จิตรกรรม )
กิจกรรมและผลงานล่าสุดคือ งานช่างศิลป์ในพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี, วันที่ 18 ธ.ค.55 จัดแสดงในงานไทยไฟต์
ช่าง 10 หมู่ แบ่งเป็นหมู่ใหญ่ ๆ คือ ช่างเขียน ช่างปั้น ช่างบุ ช่างกลึง ช่างรัก ( งานประดับมุก, ลายรดน้ำ ) ช่างปูน ช่างหุ่น ( หุ่นกระบอก หุ่นหัวโขน ) หลักสูตรยังเป็น 8 เดือน เรียนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ นอกจากนี้มีวิชางานในวิถีชีวิตหญิงไทยในอดีต ( เย็บ ปัก ถัก ร้อย อาหารขนม เครื่องสด) หลักสูตรระยะสั้น 40 ชั่วโมง วิชางานแกะโฟม งานศิราภรณ์ งานจัดดอกไม้สด
คณาจารย์ มี 3 ประเภท
1. ผู้ทรงคุณวุฒิที่จบมาจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงโดยตรง
2. ภูมิปัญญา ที่ทำเป็นอาชีพหรือเป็นที่ยอมรับ
3. วิทยากรที่เคยเป็นลูกศิษย์แล้วไปฝึกไปเรียนเพิ่มเติม
เป้าหมาย ต้องการให้ผู้ที่จบจากวิทยาลัยในวังทุกท่าน มีงานทำ สามารถพัฒนาการผลิตชิ้นงานสู่สากล
มีภาคีเครือข่าย เช่นด้านวิชาการร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ( คณะวัฒนธรรมศาสตร์ และสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรม ) เครือข่ายเอกชนเช่น ผู้พิพากษาสมทบ ( นำศิลปะไปขัดเกลาจิตใจเด็กและเยาวชนที่ต้องคดี ) เครือข่ายที่เป็นวัด พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ( แสดงนิทรรศการ )
ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยเสริมในการถ่ายทอดความรู้และผลิตชิ้นงาน ผู้เรียนจบยังได้รับประกาศนียบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ ในวิทยาลัยฯมีร้านจำหน่ายผลงานนักศึกษาราคาถูก
ผู้สนใจเรียน ขอเพียงมีใจรักและมีความขยันเท่านั้นก็เรียนได้ ในเดือนมกราคม 56 จะเปิดหลักสูตรช่าง 10 หมู่วิชาช่างหุ่น ส่วนหลักสูตรระยะสั้น 40 ชั่วโมง จะเปิดวิชาร้อยมาลัย งานดอกไม้ ( หลักสูตรระยะสั้นเฉพาะในวิทยาลัย ไม่รวมเครือข่าย มีประมาณ 20-30 หลักสูตร รับสมัครตลอดปี )
มีผู้จบหลักสูตรประมาณ 4-5 พันคนแล้ว สมัครเรียนได้ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก ( วิทยาลัยในวัง ) ต.ศาลายา ( อยู่เลยหลังมหาวิทยาลัยมหิดลไปหน่อย ) อ.พุทธมณทล จ.นครปฐม
รายการสายใย กศน. วันที่
1
0
ธันวาคม
255
5
เทป ซ้ำวันที่ 3 ธ.ค.55 เรื่อง
“จากพระราชดำริสู่ประชาชนโดย กศน.”
รายการสายใย กศน.
วันที่
3
ธันวาคม 2555
เรื่อง
“จากพระราชดำริสู่ประชาชนโดย กศน.”
ดำเนินรายการโดย
นายอิทธิเดช สุพงษ์
วิทยากร คือ
- กิ่งทอง ชุ้นสามพราน ผอ.ศฝก.วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- นายประพันธ์ ทองพราว ครูชำนาญการ ศฝก.วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- ทิพวรรณ สิทธิรังสรรค์ ครูเชี่ยาวชาญ ศฝก.วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- อมรา ชูเสน ผู้แทนเกษตรกรในโครงการพัฒนาพื้นที่รอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร
- นายสุชาญ ศิลอำนวย เลขาธิการมูลนิธิเอ็มโอเอไทย
ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชลบุรี ตั้งเป็นศูนย์อบรมและสาธิตด้านการเกษตรตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 มีความเป็นมาโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้ทอดพระเนตรเห็นความแห้งแล้งและความยากจนของราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณรอบๆพื้นที่วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เมื่อปี พ.ศ. 2525 และทรงทราบถึงพระประสงค์ในการที่จะพัฒนาพื้นที่วัดญาณฯของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกเมื่อครั้งยังทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดญาณสังวรารารามฯอยู่ในขณะนั้นพระองค์จึงทรงมีพระราชดำริ ซึ่งสรุปได้ว่า
- อยากให้วัดมีบทบาทแบบดั่งเดิม เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชุมชน
- ควรมีโรงพยาบาล และโรงเรียนหรือศูนย์เยาวชนเกษตรฯ
- ผู้มาฝึกอบรมควรปรณนิบัติพระ และเรียนรู้ศีลธรรมด้วย
- การพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออกจะมีความสำคัญด้านวัตถุมาก วัดนี้จะต้องสร้างความเจริญทางจิตใจ
คณะที่มาเข้าเฝ้ารับเสด็จ ร่วมกันพิจารณาจัดและดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่วัดญาณฯ ขึ้น หนึ่งในโครงการดังกล่าว ทรงมีพระราชดำรัสให้หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริจักรพันธ์ องคมนตรีร่วมกับหน่วยงานต่างๆพิจารณาจัดตั้งสถานที่ฝึกอบรมด้านการเกษตรให้แก่เยาวชน โดยใช้ชื่อว่า "ศูนย์ฝึกอบรมเยาวชนเกษตรวัดญาณสังวราราม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ในพื้นที่ 32 ไร่เศษ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 มีศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนจังหวัดปราจีนบุรี (สระแก้ว) เป็นผู้ดำเนินการหลัก
วัตถุประสงค์ของโครงการ คือ
1.
เพื่อพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมที่เสื่อมโทรม ให้อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเกษตร
2.
เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรม ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
3. เพื่อเป็นศูนย์บริการการพัฒนาด้านการเกษตรและอบรมความรู้ทางวิชาการด้านเกษตรให้แก่ประชาชนนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพและสามารถพึ่งตนเองได้
4. เพื่อให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนโดยมีการพัฒนาจิตใจควบคู่กับความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคมทั้งเป็นศูนย์กลางติดต่อระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชน
5. เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสให้ดำเนินการเรื่อง
-
การแก้ปัญหาสภาพดินเสื่อมโทรม และให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำแก่ราษฎรทั่วไป
- การทดลองปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพดิน
- การฝึกอบรมควรเน้นเรื่องการใช้น้ำอย่างประหยัด
- ให้มีการติดตามผลการนำความรู้ไปใช้ ของผู้ผ่านการอบรมอย่างสม่ำเสมอ
-
ให้มีกระบวนการการจัดการและการตลาด เพื่อความมั่นใจแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม
-
การแปรรูปและการถนอมอาหาร ควรจัดเป็นหลักสูตรให้สอดคล้องกับการนำความรู้ไปใช้
-
หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชที่ควรส่งเสริมชนิดหนึ่ง เพราะตลาดต่างประเทศต้องการมาก
-
ควรจัดเป็นสถานศึกษาเปิด เพื่อให้บริการแก่ราษฎรผู้ที่มีความสนใจเข้าชมและศึกษาด้วยตนเองด้วย
-
ควรขยายจำนวนผู้เข้าอบรมเพิ่มทีละน้อย ไม่ควรใหญ่โตอย่างรวดเร็วหรือมีปริมาณผู้เข้ารับการอบรมมากเกินไป
ต่อมาได้รับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นสถานศึกษาสังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2535 พร้อมกับชื่อใหม่คือ “ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เน้นเรื่องเกษตรธรรมชาติตามแนวพระราชดำริฯปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มีบทบาทหน้าที่ตามแนวพระราชดำริฯ ดังนี้
1.
จัดการศึกษาฝึกอบรมและสาธิตการเกษตรธรรมชาติตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกษตรธรรมชาติแนวทางอื่นๆ ที่เหมาะสมกับนิเวศเขตร้อนความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร เทคโนโลยีการเกษตร สมุนไพรและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเกษตรธรรมชาติ
2.
เป็นศูนย์การเรียนรู้และเผยแพร่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยเฉพาะด้านเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3.
วิจัยทดลองเผยแพร่เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านเกษตรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและองค์ความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรธรรมชาติ
4.
ส่งเสริม สนับสนุนประสานกับชุมชน หน่วยงานเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนเพื่อแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน โดยเน้นองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5.
ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ในระยะเริ่มต้น มูลนิธิ
MOA เข้ามาสำรวจพื้นที่ดินเมื่อเดือนสิงหาคม 2532 หลังจากนั้นได้ลงนามความร่วมมือกับ 3 หน่วยงาน คือ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย มูลนิธิ MOA International และ กศน. เพื่อศึกษาวิจัยเรื่องเกษตรธรรมชาติ
ให้บุคลากรไปศึกษาดูงานที่ฟาร์มเกษตรธรรมชาติโอฮิโตะ ญี่ปุ่น 3 เดือน กลับมาร่วมกันศึกษาวิจัย 7 ปี สามารถพัฒนาดินและขยายผลสู่เกษตรกร ระยะแรกอบรมเยาวชนและเกษตรกรรอบ ๆ ศฝก.วัดญาณฯ และขยายไปทั่วประเทศ รวมทั้งขยายไปยัง ศฝช.อีก 8 แห่งทั่วประเทศ คัดเลือกผู้ผ่านการอบรมในประเทศทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติไปอบรมที่ญี่ปุ่นอีก ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ แล้วกลับมาอบรมถ่ายทอดต่อ
นอกจากนี้ มูลนิธิ
MOA ไทย ยังดำเนินการเรื่องการจัดการตลาดต่อจากการปลูกไว้กินเองเพื่อสุขภาพ
เรื่องการวางแผนปลูกผัก เรื่องบรรจุภัณฑ์ โดยถ่ายทอดให้เกษตรกรสามารถดำเนินการด้วยตนเอง
ปัญหาสำคัญของเกษตรกรคือ ดินไม่ดี กับ แมลงรบกวน ทำให้เกษตรกรใช้สารเคมีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง แก้ได้ด้วยเกษตรธรรมชาติ ช่วยให้ดินดีขึ้น ใช้ปุ๋ยน้อยลงการกำจัดโรคและแมลงง่ายขึ้น
ศฝก. มีการทำวิจัยต่าง ๆเพื่อแก้ปัญหาของราษฎรและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ เช่นการศึกษาความเป็นไปได้ในการปลูกผักโดยวิธีเกษตรธรรมชาติเพื่อเป็นอาชีพ, การปลูกไม้ดอกสีสดในแปลงเกษตร, การปลูกพืชซ้ำที่, การปลูกพืชโดยใช้ปุ๋ยน้อย, การปลูกพืชผักสวนครัว, การปลูกพืชผักผสมผสานตามฤดูการ, การปลูกพืชโดยใช้เกษตรธรรมชาติอื่น ๆ เช่นองุ่น กุหลาบ สัปปะรด, อิทธิพลของปุ๋ยหมักต่อดาวเรือง, การวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์เกษตรธรรมชาติ ( เมล็ดพันธุ์ผัก 19 ชนิด
เมล็ดพันธุ์ไม้ดอก 9 ชนิด ) ปัจจุบันราคามูลสัตว์ก็แพง จึงมีการวิจัยใช้ปุ๋ยพืชสดให้มากขึ้น
เน้นศึกษาทดลองเพื่อให้ได้องค์ความรู้มาจัดอบรมเผยแพร่สู่เครือข่ายและประชาชน ( อบรมให้ ศฝช.ทุกแห่ง ) มีผู้รับบริการแล้ว 19,995 คน มีฐานเรียนรู้ต่าง ๆ มีป้ายนิเทศในแปลงให้ผู้สนใจเข้าไปเรียนรู้ด้วยตนเอง
จากผลการวิจัยทำให้ได้องค์ความรู้ต่าง ๆ เปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยเคมีกับปุ๋ยหมัก พบว่าให้ผลผลิตไม่แตกต่างกันแต่ผลผลิตจากการใช้ปุ๋ยหมักมีคุณภาพทางอาหารและรสชาติดีกว่า
ใช้เวลาลดการใช้สารเคมี 3-5 ปีเห็นผลชัดเจน
เกษตรธรรมชาติ คือ การเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและสิ่งขับถ่ายจากมนุษย์
หลักการเกษตรธรรมชาติ
1. ปรับปรุงดินให้อุดมสมบูรณ์ดี เหมือนดินป่า (เป็นหัวใจที่สำคัญที่สุด ) โดยใช้ปุ๋ยหมัก ( ปุ๋ยอินทรีย์ ) ปุ๋ยชีวภาพปุ๋ยพืชสด และใช้วัสดุคลุมดิน
2. ปลูกพืชให้หลากหลายชนิด โดยปลูกพืชหมุนเวียนหรือปลูกพืชแซม
3. อนุรักษ์แมลงที่มีประโยชน์ เอาไว้กำจัดแมลงศัตรูพืช โดยไม่ใช้สารเคมี และปลูกไม้ดอกล่อแมลง
ศฝก. จัดงานมหกรรมเกษตรธรรมชาติมาแล้ว 14 ปี มีผู้มาชมประมาณปีละ 25,000 คน ปีนี้จะจัดงานมหกรรมเกษตรธรรมชาติระหว่างวันที่ 6-10ก.พ.56 ในบริเวณ ศฝก. มีนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, การฝึกอบรมอาชีพเพื่อการมีงานทำ,
ชมพืชผักและไม้ดอกในแปลงสาธิต, ประกวดผลผลิตทางด้านเกษตรธรรมชาติ ( มะพร้าว กล้วย ดอกไม้ กล้วยไม้ เห็ด )
, ประกวดวาดภาพ, ประกวดร้องเพลง, ผู้ผลิตพบผู้บริโภค,
การแข่งขันปลูกผักของนักเรียน ฯลฯ
งานของ ศฝก. ส่งผลให้ตระหนักว่า แนวพระราชดำริฯเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้
รายการสายใย กศน.
วันที่
26
พฤศจิกายน 2555
เรื่อง
“การให้บริการทางวิชาการของสถาบันการศึกษาทางไกล”
ดำเนินรายการโดย
นายอิทธิเดช สุพงษ์
วิทยากร คือ
- นายสุรศักดิ์ เพิ่มผล ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาทางไกล
- วิไล แย้มสาขา ครูเชี่ยวชาญ หัวหน้าส่วนจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สทก.
- วาสนา โกสีย์วัฒนา ครูเชี่ยวชาญ หัวหน้าส่วนพัฒนานวัตกรรมการศึกษาทางไกล สทก.
สถาบันการศึกษาทางไกล เป็นสถานศึกษาส่วนกลาง สังกัดขึ้นตรงสำนักงาน กศน. มีบทบาทในการ
1. จัดและส่งเสริมการศึกษาทางไกลหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. จัดและส่งเสริมการศึกษาทางไกลหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง ที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและการเปลี่ยนแปลงของสังคม
3. วิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล ( หลักสูตร สื่อกระบวน การเรียนการสอนการวัดผลประเมินผล ) ให้มีคุณภาพ เป็นตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ นำไปใช้ในสถานศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ ( เป็นการช่วยกลุ่มงานพัฒนา กศน.ด้วย เพราะสถานศึกษาต่าง ๆ มีภาระมาก ไม่พร้อมในการพัฒนาเอง ) แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
- การพัฒนารายวิชาเลือกในหลักสูตรสถานศึกษา
- การพัฒนาชุดการเรียนทางไกล ทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาต่อเนื่อง ( เป็นชุดวิชาที่เป็นทั้งตำราและครู เพื่อการเรียนด้วยตนเอง )
- การพัฒนาข้อสอบวัดผลประเมินผล ทั้งระหว่างภาค ( ทุกวิชา ) และปลายภาค ( ข้อสอบปลายภาคเฉพาะวิชาบังคับ ส่วนข้อสอบซ่อมทุกวิชา ) และ คลังข้อสอบเทียบโอนความรู้
ส่วนที่ 1-2 เปิดให้สถานศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศดาวน์โหลดไปใช้ได้ หรือขอเป็นแผ่น CD
ส่วนที่ 3 สถานศึกษาต้องทำหนังสือราชการมาขอโดยตรง จะส่งให้ตอนใกล้สอบ และส่งแยกกันระหว่างข้อสอบกับเฉลย ( ยกเว้นข้อสอบระหว่างภาค ส่งให้พร้อมกันทั้งข้อสอบและเฉลย )
ในการพัฒนาทางวิชาการนี้ เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญ และร่วมคิดร่วมทำตั้งแต่การพัฒนาหลักสูตร พัฒนาชุดการเรียน ออกข้อสอบ
การสนับสนุนทางวิชาการ ด้านต่าง ๆ
1) ด้านการพัฒนาบุคลากร
- จัดอบรม/เป็นวิทยากร โดยตรง
- ช่วยกลุ่มพัฒนา กศน. ทำสื่อ ทำข้อสอบ ทำหลักสูตร หรือเชิญเครือข่ายมาร่วมพัฒนา
2) ด้านการสัมมนาก่อนจบหลักสูตร
3) ด้านระเบียบและแนวปฏิบัติต่าง ๆ
- ระเบียบสถานศึกษา ( เกี่ยวกับ การรับสมัคร การเรียนการพบครู การแต่งกาย การเข้าสอบ ... )
- ระเบียบการวัดผลประเมินผล
- หลักเกณฑ์การเทียบโอน
- กพช.
4) ด้านการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร
- การแนะแนว เช่น ปฐมนิเทศ จดหมายข่าว
- กิจกรรมชมรม
- การสอนเสริมและสื่อเสริม
- ครูที่ปรึกษาประจำรายวิชา
เขียนใน
GotoKnow
โดย
เอกชัย กศน.ผักไห่
ใน
การทำงานของ เอกชัย กศน. อ. ผักไห่
คำสำคัญ (Tags):
#รายการสายใย กศน.
หมายเลขบันทึก: 510205
เขียนเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2012 10:32 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2013 15:08 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (2)
Dr. Ple
เขียนเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2012 12:14 น. (
)
ดีจังเลย เป็นการเชื่ิยม สายงานเข้าด้วยกัน นะคะ
ขอบคุณค่ะ
เอกชัย กศน.ผักไห่
เขียนเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2012 12:40 น. (
)
ขอบคุณ ดร.Ple
ครับ
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
เอกชัย กศน.ผักไห่
สมุด
การทำงานของ เอกชั...
รายการสายใย กศน. ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท