เส้นทางเดิน .... รังสีชุมชน... 6 มิ.ย 2554

ระดมพลครั้งแรก...เปิดฉาก ชรพท. อย่างเป็นทางการ

   

  ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2554 ท่ามกลางความเงียบสงบของ รพ.ชุมชน  ได้มีสายเข้าจากประธานชมรมฯซึ่งทำให้ ข้าฯแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราไม่รู้จักสนิทมักคุ้นกันเลย และไม่เคยประสานงานกันมาก่อน ท่านประธานฯแจ้งว่าจะมีการไปยื่นหนังสือที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเทคนิคการแพทย์ เพื่อเรียกร้องเรื่องตำแหน่งและการเกื้อกูล โดยกำหนดในวันที่ 6 มิ.ย 54 ขอให้ช่วยกันระดมคนในวิชาชีพเพื่อเข้าร่วมการยื่นหนังสือให้มากที่สุด พวกเราหลายคนก็ร่วมด้วยช่วยกันชักชวนเพื่อนๆจากทุกมุมของประเทศ จากทุกคนที่เรารู้จัก เพื่อให้เป็นกลุ่มก้อนมากที่สุด ซึ่งนับเป็นการดำเนินกิจกรรมครั้งแรกของ ชรพท.อย่างเป็นทางการ พอใกล้ถึงวันนัดหมาย ข้าฯได้รับโทร.จากท่านประธานอีกครั้ง แจ้งข่าวร้ายว่า เทคนิคการแพทย์ขอเลื่อนการยื่นหนังสือ เนื่องจากความไม่พร้อมและไม่สามารถรวมคนได้ (อ่าว...เอ็งไม่พร้อมแล้วมาชวนข้าทำไมวะ) ผมเลยบอกกับท่านประธานว่าหากเทคนิคการแพทย์ไม่พร้อม แต่เราพร้อม ทุกคนลางานแลกเวรกันหมดแล้ว เราไม่เลื่อนและขอยกระดับจากที่เราร่วมยื่นหนังสือ เป็นรังสีเราจะเป็นแกนนำในการดำเนินการในครั้งนี้แทน และผมก็ได้เสนอท่านประธานไปว่า ไหนๆเราก็ไปกระทรวงแล้ว ขอไปยื่นที่ กพ.ด้วยเลย เพราะทาง กพ.ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง และกระทรวงมักจะอ้างว่า กพ.ไม่เห็นด้วยในเรื่องตำแหน่ง แต่พอถาม กพ.กลับได้คำตอบว่า กระทรวงต้นสังกัดไม่ส่งข้อมูลให้ ตกลงใครกันแน่ที่แช่แข็งพวกเราไว้ ไปคราวนี้เอาให้รู้กันไปเลย ท่านประธานฯคุณสมบัติบอกว่าท่านไม่มี conection ที่ กพ.เลย หาคนประสานไม่ได้ แต่ที่กระทรวงได้มอบให้คุณประจวบ ประสานเรียบร้อยแล้ว ข้าฯเลยรับอาสาจะประสานกับสำนักงานเลขาธิการ(สลธ) กพ.ให้ เนื่องจากมีน้องคนหนึ่งที่สนิทกันมากรับราชการอยู่ใน สลธ. ข้าฯเลยประสานไปยังน้องคนที่เป็นหนึ่งในทีมหน้าห้องท่านเลขาธิการ กพ.เพื่อขอเข้าพบและยื่นหนังสือ และก็ได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีโดยนัดหมายให้เข้าพบได้ในวันที่ 6 มิ.ย.54 ตามที่เราต้องการ แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องแจ้งชื่อและจำนวนคนที่จะเข้าพบก่อน และให้พบได้ไม่ควรเกิน 7 คน เพื่อยื่นหนังสือ พวกเราดีใจมากเลยที่คนระดับ เลขาธิการ กพ.ให้ความสนใจในความเดือดร้อนของพวกเรา และเปิดโอกาสให้เราเข้าพบและยื่นหนังสือ จึงได้มีการสรุปสาระเนื้อหาข้อเรียกร้องต่างๆที่จะนำไปยื่นจนลงตัว รวมถึงกำหนดตัวบุคคลเข้าพบทั้งที่กระทรวงและที่ กพ. โดยที่กระทรวงมีคุณสมบัติ คุณประจวบ คุณขนิษฐา และวิชาชีพอื่นอีกส่วนหนึ่ง ส่วนที่ กพ.ซึ่งจำกัดจำนวนคนที่เข้าพบ จำเป็นต้องแจ้งจำนวนคนแต่ไม่เกิน 7 คน สรุปว่าให้ท่านสมบัติ คุณประจวบ และข้าฯซึ่งเป็นผู้ประสานงาน เป็นตัวแทนรังสี ส่วนที่เหลือเป็นของวิชาชีพอื่น เมื่อได้ข้อสรุปดังนั้น เราก็ได้แจ้งให้กับวิชาชีพอื่นทราบ เพื่อจัดเตรียมเอกสารข้อเรียกร้องต่างๆซึ่งมีปัญหาเหมือนๆกัน จะได้ไปในแนวทางเดียวกัน

     เช้าตรู่วันที่ 6 มิ.ย. 54 เวลานัดหมายของสหวิชาชีพ หน้าเสาธงกระทรวงสาธารณสุข ชาววิชาชีพรังสีจากทุกมุมของประเทศนี้เริ่มทะยอยกันมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเวลา 9.00 น. นับได้ประมาณ 200 คนเศษ แล้ววิชาชีพอื่นล่ะ ? มาน้อยมาก มีแต่แกนนำมาเพื่อยื่นหนังสือ ส่วนเทคนิคการแพทย์มาร่วมหลายสิบคนอยู่ เรามีการเตรียมแผ่นป้ายข้อความต่างๆที่อยากแสดงออก เรียกร้องในสิ่งที่ไม่เป็นธรรม และมีป้าย"ชมรมรังสีการแพทย์ชุมชนแห่งประเทศไทย"เป็นป้ายที่ใหญ่สุด เป็นการประกาศศักดาก็ว่าได้ เมื่อได้เวลาพอสมควรคนของเรามากขึ้นๆเราเริ่มพูดผ่านโทรโข่ง ข้าราชการในกระทรวงที่เริ่มทะยอยมาทำงานก็เริ่มให้ความสนใจ(เก้าโมงกว่าเพิ่งเริ่มมาทำงาน เราต่างจังหวัดแปดโมงเช้าต้องเซ็นต์ชื่อเข้างานและเริ่มให้บริการ)แกนนำก็ทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อและประสานงานกันตลอดเวลา และตรวจสอบข่าวสารกันเป็นระยะ และมีข่าวที่ไม่ค่อยดีออกมาจากผู้ประสานงานภายในกระทรวงว่า รองปลัดอาจเปลี่ยนแปลงนัดหมาย เนื่องจากอ้างว่าติดภาระกิจ พวกเราเริ่มไม่พอใจกับการเบี้ยวนัด ไม่รักษาคำพูดของผู้ใหญ่ในกระทรวง เราเริ่มกระจายกันไปนั่งปิดทางเข้า สำนักปลัด จนมี จนท.ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเข้ามาเจรจา ขอให้เราส่งตัวแทนของแต่ละวิชาชีพเข้าไปนั่งคุยในห้องประชุม และจัดแจงให้เราได้ยื่นหนังสือ  

     ในขณะที่แกนนำเข้าไปเจรจาในกระทรวง ข้าฯในฐานะผู้ประสานก็ดำเนินการทางด้าน กพ.ไปด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แต่การมาของเราที่หน้ากระทรวง ทาง กพ.ได้ส่งคนมาดูและรายงานกลับไปยังเจ้านาย ข้าฯได้รับโทร.จากหน้าห้องเลขา กพ.ประสานยืนยันมาอีกรอบถึงเวลานัดหมาย 10.00 น. และจำนวนคนเข้าพบไม่เกิน 7 คน ซึ่งข้าฯก็ยังยืนยันตามนั้น และข้าฯได้ล่วงหน้าเดินทางไป กพ.ก่อน เพื่อดูความพร้อมและสถานที่นัดพบ ข้าฯเดินทางไปพร้อมกับคุณประจวบ ถึง กพ.ก็พบกับผู้ประสานฝั่ง กพ.นัดแนะถึงขั้นตอนต่างๆ และเดินดูสถานที่รอบๆ ใกล้เวลานัดหมายได้รับแจ้งจากแกนนำที่กระทรวงว่ากำลังออกเดินทางจากกระทรวงมายัง กพ.พร้อมกันนั้นข้าฯก็ได้รับโทร.จากทีมงานท่านเลขา กพ.ว่าทำไมเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่ตกลงกันไว้ ข้าฯงงมาก ตอบกลับไปว่าข้อตกลงทุกอย่างเหมือนเดิม ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ทางทีมงานท่านเลขาสอบถามถึงการเคลื่อนพลเดินจาก กระทรวงมายัง กพ.เดินกันมาเต็มถนน ไหนว่าจะมาแค่ 7 คน (งานเข้าแล้วซิ) ข้าฯเลยขอประสานงานดูก่อน แต่ยังไม่ทันทำอะไร ชาววิชาชีพรังสีและสหวิชาชีพ นำหน้าโดยคุณวิทูรย์ก็ผ่านหน้าประตู กพ.เข้ามาพอดี เดินกันเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ แต่.... มากันเยอะมากและเต็มถนน ข้าฯเลยเข้าใจทีมงานท่านเลขา กพ. ซักครู่หนึ่งก็ได้รับ sms จากทีมงานท่านเลขา แจ้งว่าท่านติดภาระกิจด่วน รองนายกฯจุมพล เรียกเข้าพบ จึงขอส่งตัวแทนและทีมงานเลขาเข้าร่วมรับข้อร้องเรียนและรับฟังปัญหา โดยมี ผอ.ฝ่ายจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทนเป็นหัวหน้าทีม และข้าฯก็ได้รับเชิญให้เข้าพบก่อนเพื่อประสานงาน และได้รับแจ้งเป็นการส่วนตัวว่า ผู้ใหญ่ท่านไม่สะดวกออกมารับหนังสือหรอก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจะเป็นการผูกมัดตัวท่านเอง เพราะเรามากันเยอะและไม่เป็นไปตามที่คุยกันไว้ ท่านฝากขอโทษทางแกนนำมาด้วย และให้ ผอ.ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงเป็นผู้รับเรื่องแทน (เอ้อออ. ผู้ใหญ่กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง)และเราก็ได้ยื่นหนังสือตามความตั้งใจและแกนนำทุกวิชาชีพได้รับเชิญเข้าห้องประชุมรวมถึงตัวข้าฯเองด้วย อย่างเป็นกันเองและเริ่มเปิดประเด็นปัญหาต่างๆและตอบข้อซักถามจากทีมงานท่านเลขา ส่วนเพื่อนร่วมวิชาชีพทาง กพ.ได้เปิดห้องประชุมใหญ่ไว้รับรองขณะที่รอแกนนำที่อยู่ในห้องประชุม หลังจากถกกันนานพอสมควร พอหอมปากหอมคอและได้รับคำตอบแนวทางของ กพ.ที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเรา ทางแกนนำก็ได้นำแนวทางดังกล่าวมาแจ้งให้เพื่อนร่วมวิชาชีพทราบในห้องประชุม ก่อนที่จะมีการแยกย้ายกันไปอย่างสงบ  ภาระกิจการระดมพลครั้งแรกของชมรมก็ได้เสร็จสิ้นสำเร็จเกินเป้าที่ตั้งไว้ ก้าวแรกของชมรมฯจบลงอย่างสวยหรูและติดตาตรึงใจ ตราบจนทุกวันนี้ ขอบคุณเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมในวันนั้นทุกท่านครับ ขอบคุณจริงๆ