.
NEJM ตีพิมพ์เรื่อง 'Understanding health care in the 2012 election'
= "(ทำความ)เข้าใจบริการสุขภาพจากการเลือกตั้ง 2012/2555", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
.
ทีมผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิรอบ เบิร์ท วูด จอฮ์นซัน นำโพลล์ (polls) สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ 37 รายงานที่ทำโดยทีมวิจัยต่างทีมกัน มีทั้งชนิดผ่านโทรศัพท์มีสาย (land-line) และไร้สาย (cell-phone) ทั่วสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นที่จะใช้ในการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดี
ผลการศึกษาพบว่า เมื่อเวลาเปลี่ยนไป, ประเด็นที่ใช้ในการเลือกตั้งก็เปลี่ยนไปดังนี้
.
ปี 2008/2551 (ตัวเลขข้างท้ายเป็นร้อยละของผู้ให้สัมภาษณ์; อันดับ 3 มี 2 ตำแหน่ง เนื่องจากได้คะแนนเท่ากันทางสถิติ หรือต่างกันไม่ถึงระดับนัยสำคัญ)
.
(1). เศรษฐกิจ > 63%
.
(2). สงครามในอิรัก > 10%
.
(3). บริการสุขภาพ > 9%
.
(3). การก่อการร้าย > 9%
.
(5). นโยบายด้านพลังงาน > 7%
.
.
.
(1). เศรษฐกิจ + การจ้างงาน > 51%
.
(2). บริการสุขภาพ + เมดิแคร์ (ระบบประกันสุขภาพ) > 20%
.
เมดิแคร์ (medicare) เป็นระบบประกันสุขภาพสำหรับคนอายุ 65 ปีขึ้นไป และคนพิการ-ป่วยหนักจนทำงานไม่ได้ เช่น ไตวายระยะสุดท้าย ฯลฯ
.
(3). หนี้ภาครัฐ + ภาษี > 14%
.
(4). การทำแท้ง (จะให้การทำแท้งถูกหรือผิดกฎหมาย) > 4%
.
(5). สงครามในอัฟกานิสถาน > 2%.
(5). การตรวจคนเข้าเมือง-ให้สัญชาติกับคนต่างชาติ-คนหลบหนีเข้าเมือง > 2%
.
สหรัฐฯ มีคนหลบหนีเข้าเมืองจากเม็กซิโก-อเมริกากลาง-อเมริกาใต้, คนรุ่นก่อนๆ บางส่วนได้รับสัญชาติสหรัฐฯ ไปแล้ว ปัญหาตอนนี้ คือ จะให้สัญชาติกับพวกที่เหลือหรือไม่ อย่างไร
.
.
อ.ดร.รอบ เบิร์ท เจ. แบรนดอน และคณะ กล่าวว่า ประเด็นเศรษฐกิจ-การจ้างงาน และบริการสุขภาพยังคงเป็นประเด็นใหญ่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสมอ
.
ความเห็นคนอเมริกัน และนักการเมืองในสภาตอนนี้แบ่งเป็น 2 ฝ่ายที่มีความต่างกันแบบสุดๆ แถมยังมีขนาดใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดการแบ่งขั้ว (bi-partisan) รุนแรงในสภา
.
ถ้าการเลือก ตั้งครั้งนี้ได้สมาชิกสภา 2 พรรคใหญ่ขนาดใกล้เคียงกันอีก, จะทำให้ร่างงบประมาณผ่านสภาได้ยาก และเสี่ยงต่อวิกฤติ เช่น รายได้ภาครัฐต่ำกว่ารายจ่าย หรืองบประมาณผ่านสภาไม่ทันกำหนด ฯลฯ
.
ตรงกันข้าม, ถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งได้เสียงข้างมากในสภาไปเลย คงจะทำให้การตัดสินใจอะไรๆ ง่ายขึ้น
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ไม่มีความเห็น