GDPได้ครอบงำวิถีชีวิตเรามานานเกือบ ๗๐ ปี บัดนี้ เรารู้ว่าตัวชี้ทิศนี้ไม่สมบูรณ์ มีข้อด้อยตรงที่ปกปิดความอยุติธรรมในสังคม และเป็นดัชนีชี้ไปข้างหลัง ไม่ชี้ไปข้างหน้า นิตยสาร ไทม์ ฉบับวันที่ ๒๒ ต.ค. ๕๕ ลงบทความ The Pursuit of Happiness น่าสนใจมาก
ผู้ที่เห็นความบิดเบี้ยวของ จีดีพี และหาทางเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรมคือกษัตริย์ของประเทศเล็กๆ ที่มีพลเมืองไม่ถึงล้าน คือภูฏาน เมื่อ ๓๐ ปีมาแล้ว ได้เสนอ GNH (Gross National Happiness) ขึ้นมาแทน
จนเมื่อ ๒ ปีที่แล้ว (๒๕๕๓) จึงมีการวัด GNH ครั้งแรกของภูฏาน โดยการสำรวจพลเมือง ๘,๐๐๐ คน จากพลเมืองทั้งหมด ๗๓๘,๐๐๐ คน ผลคือดัชนีGNH ของประเทศภูฏาน เท่ากับ ๐.๗๔๓ จากคะแนนเต็ม ๑
ตัวอย่างคำถามในการสำรวจ ได้แก่ มีคนที่ท่านหวังว่าจะพึ่งได้กี่คนเมื่อท่านเจ็บป่วย ท่านคุยกับลูกในเรื่องทางจิตวิญญาณบ่อยแค่ไหน ท่านใช้เวลาสังสรรค์กับเพื่อนบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไร ในภาระหนี้สินที่ท่านมีอยู่ในปัจจุบัน ท่านรู้สึกสบายใจแค่ไหน เป็นต้น หลังจากนั้น จึงนำมาแปลงเป็นคะแนน
OECD ก็คิดดัชนีใหม่เหมือนกัน ชื่อ Your Better Life Indexประเทศแคนาดา มี Canadian Index of Wellbeingโดยใช้แนวคิดทำนองเดียวกันกับ GNH แต่ไม่ใช้วิธีสำรวจ ใช้วิธีคำนวณจากสถิติ ๖๔ ตัว ประเทศอังกฤษก็เติม ๔ คำถามเกี่ยวกับความรู้สึกมีความสุขเข้าไปในแบบสอบถาม household survey เมื่อปีที่แล้ว และมี Centre for Well-Beingอยู่ใน Economic Foundation
กระแสแสวงหาดัชนีชี้ทางชีวิตแบบใหม่ มีอยู่ใน สรอ. ด้วย รัฐแมรี่แลนด์ เริ่มใช้ Genuine Progress Indicator (GPI) สำหรับสร้างความมั่นใจว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจมีความมั่นคง
ประเทศไทยเราเริ่มการพัฒนา NPI (National Progress Index) มา ๒ ปีแล้ว อ่านได้ที่นี่ อ่านแล้วจะเห็นว่า ความก้าวหน้า/ความสุขของผู้คน ของประเทศ หรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง มีความซับซ้อนมากเกินกว่าที่จะลดทอนลงเหลือตัวเลขตัวเดียว
วิจารณ์ พานิช
๒๑ พ.ค. ๕๕
ไม่มีความเห็น