หนังสือ รายงานวิจัย การศึกษาความเป็นไปได้ของการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในการรักษาผู้ป่วยธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้ผมย้อนรำลึกชาติกลับไปสมัยหนุ่มๆ ที่ผมเริ่มต้นชีวิตแพทย์เป็นหมอโรคเลือด หรือโลหิตวิทยา ฝึกวิทยายุทธอยู่กับ ศ. พญ. สุภา ณ นคร และ ศ. นพ. ประเวศ วะสี
จนเมื่อผมไปทำงานที่ มอ. ช่วงแถวๆ ปี ๒๕๓๑ - ๓๕ ผมมุ่งมั่นพัฒนารูปแบบของการป้องกันและควบคุมโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ด้วยวิธีตรวจคัดกรองหาคู่สมรสที่เสี่ยงจะมีลูกเป็นโรค และตรวจวินิจฉัยทารกในครรภ์ (อ่อนๆ) หากเป็นโรคก็ให้พ่อแม่ตัดสินใจว่าจะยุติการตั้งครรภ์หรือไม่ โดยต้องมีการให้คำปรึกษาอย่างจริงจัง ผมได้เรียนรู้จากการทำงานนี้มาก เป็นการเรียนรู้หลากหลายด้าน รวมทั้งการพัฒนาระบบ และพัฒนาคน
ตอนนี้วิธีการตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดนี้ดำเนินการไปทั่วประเทศ ครอบคลุมการตั้งครรภ์ถึงหนึ่งในสาม
แต่ก็ยังมีเด็กเกิดใหม่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมียเพิ่มขึ้น
เมื่อความรู้และเทคโนโลยีด้านเซลล์ต้นกำเนิดพัฒนาขึ้น โอกาสรักษาโรคเลือดจางธาลัสซีเมียให้หายขาดก็เป็นไปได้ และมีการพัฒนาวิธีการขึ้นในประเทศไทย เท่าที่ผมทราบก็ที่ ศิริราช (ศ. นพ. สุรพล อิสระไกรศีล) และที่ รามาฯ (ศ. นพ.สุรเดช หงส์อิง)
แต่วิธีรักษาโดยการปลูกถ่าย stem cells นี้แพงมาก เป็นไปไม่ได้ที่คนยากจนจะจ่ายไหว รายงานการวิจัยตรวจสอบความคุ้มค่าตามข้างบน จึงมีประโยชน์มาก และเป็นความตื่นเต้นในชีวิตของผม ที่ได้มีโอกาสเห็นวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด นอกเหนือจากวิธีปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งยากและแพงกว่ามาก
จากในรายงาน จะเห็นว่า แม้รัฐจะจ่ายค่าบริการในโรงพยาบาล ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นที่พ่อแม่ของเด็กต้องจ่าย เป็นเงินมาก ยากที่คนจนจะเข้าถึงได้
วิจารณ์ พานิช
๒ ต.ค. ๕๕
ไม่มีความเห็น