ทำอย่างไรให้ลูกน้องรัก

     การทำงานในองค์กรใดก็ตาม ย่อมจะมีผู้มีบทบาทความเป็นหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชา และผู้ที่มีบทบาทเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกน้อง คำว่า "ลูกน้อง" มาจากคำไทยที่มีความหมายเป็นทั้ง "ลูก" และ "น้อง" ฉะนั้นการเป็นผู้บังคับบัญชาจึงเป็นทั้งพ่อ แม่ และพี่ ที่ต้องให้ความรักและเข้าใจลูกน้องด้วยความจริงใจ  ส่วนลูกน้องที่ดีก็ต้องเคารพนับถือพ่อ แม่ และพี่เช่นเดียวกัน เมื่อต่างปฏิบัติอย่างดีต่อกัน ความร่วมมือทั้งด้านการงานและส่วนตัวก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ส่งผลให้เกิดผลงานและทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข  วิธีทำให้ลูกน้องรักที่ประสบความสำเร็จอย่างถาวรและง่ายที่สุด มีดังนี้นะคะ

     1. รู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง  ไม่โมโหฉุนเฉียว ความโกรธโมโหฉุนเฉียวเป็นพลังร้ายที่เผาผลาญจิตใจมนุษย์ และมีผลเสียต่อสัมพันธภาพ ลูกน้องไม่ชอบนายที่เอาแต่โมโหฉุนเฉียว เพราะทำให้ใจคอไม่สบาย หวาดระแวง ขาดความมั่นคงทางจิตใจ ขาดความสุข ขาดความมั่นใจ ลูกน้องจึงมักหลีกเลี่ยงงานหรือเลือกทำงานเพียงไม่ให้ถูกดุเท่านั้น

     2.  ไม่เก่งอยู่คนเดียว ไม่มีใครรู้เท่าฉัน (ONE MAN SHOW)  การเป็นหัวหน้า ลูกน้องย่อมเชื่อถือในความสามารถอยู่แล้ว แม้หัวหน้าที่เก่งกว่า รู้ดีกว่า สามารถกว่า ก็ไม่ควรแสดงออกว่าฉันเก่งอยู่คนเดียว  ควรให้เกียรติและให้โอกาสแก่ลูกน้องตามสมควร ลูกน้องก็จะทำประโยชน์แก่งานและยังเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานแก่ลูกน้องเป็นอย่างดี

     3.  ไม่ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ  หัวหน้านั้นมีอำนาจอยู่แล้วตามระเบียบ เปรียบเสมือนดางอาญาสิทธิ์อยู่ในมือ จงใช้อำนาจเมื่อจำเป็นและอย่างมีเหตุผล หัวหน้าอวดและแสดงอำนาจ จะไม่ได้น้ำใจและสติปัญญาของลูกน้อง การใช้อำนาจมากมักจะทำให้เกิดปัญหาข้อร้องเรียน บัตรสนเท่ห์และก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา หัวหน้าจึงควรให้ความเห็นใจ ให้ความรัก จะเป็นการสร้างบารมีกับลูกน้องได้ดีกว่า

     4.  ไม่ตัดสินปัญหาเวลาโกรธ  คนที่กำลังโกรธมักขาดเหตุผล การทำอะไรไปตามอารมณ์โกรธ ย่อมเกิดความเสียหายได้ง่าย ดังนั้น เมื่อมีอารมณ์โกรธอย่าตัดสินใจทันที เพราะจำทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้

     5.  ไม่ลำเอียง  อย่างเป็นอันขาด ! ที่แสดงให้ลูกน้องเห็นว่า รักไม่เท่ากัน เรื่องนี้สำคัญอยู่ที่การกระทำและคำพูด อย่าทำให้ลูกน้องเห็นว่าหัวหน้าพอใจคนใดคนหนึ่ง เพราะจะทำให้ลูกน้องมีความอิจฉาริษยากัน น้อยใจ หวาดระแวง ก่อให้เกิดการแตกแยกและขาดความสามัคคี

     6.  ส่งเสริมให้กำลังใจ  หัวหน้าต้องคอยทำนุบำรุง ดูแล เอาใจใส่ คอยสังเกตความีรู้สึกว่าลูกน้องเขาคิดอย่างไร ซึ่งอาจสังเกตจากงานที่ทำ คนที่มีขวัญกำลังใจดี มีความกระตือรือร้น จะมีผลงานที่ดีกว่า หัวหน้าต้องหมั่นคอยสังเกตลูกน้องที่ขาดกำลังใจ หาทางบำรุงน้ำใจ ส่งเสริมกำลังใจลูกน้อง จะทุ่มกำลังกายกำลังใจ สติปัญญา ความสามารถที่มีอยู่  ซึ่งจะส่งผลดีแก่ตัวลูกน้องเอง ตลอดจนหัวหน้าและงานที่เขาทำอยู่

     ทั้งหมดนี้ คนที่เคยเป็นลูกน้องมาก่อนย่อมทราบดีว่า ตนชอบหัวหน้าแบบไหน ชอบให้หัวหน้าเป็นอย่างไร สิ่งที่เราไม่ชอบหรือเห็นว่าไม่ควรปฏิบัติ เราก็ไม่ควรปฏิบัติต่อลูกน้อง การเอาใจเขามาใส่ใจเรา จึงเป็นเรื่องสำคัญของคนที่เป็นหัวหน้า  เห็นไหมคะ เท่านี้คุณก็จะเป็นผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าที่มีลูกน้องรัก  ห้อมล้อมอยู่รอบข้างอย่างอบอุ่น ทุกคนก็จะมีความสุขในการทำงานและจะส่งผลก่อให้เกิดผลต่อองค์กรในภาพรวมด้วยค่ะ