คนที่เรารักมากที่สุด คือคนที่เราทำร้ายง่ายที่สุด


ทำไม การดูแลจิตใจ มิตรภาพ ความเอื้ออาทรของบางคนจึงหายไป

เมื่อเรารักใครมากๆ หรือสนิทสนมคุ้นเคยกันมากๆ รู้จักอีกฝ่ายเป็นอย่างดี เข้าใจอีกฝ่ายมากว่าใคร

เราย่อมมีโอกาสกระกบกระทั่ง หรือทำร้ายอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายที่สุด

การเริ่มต้นทำร้าย เริ่มจากอาการ งอน โกรธ ไม่พูดด้วย จนถึงขั้นเกิดอาการบาดหมาง หมางเมิน ทั้งๆที่หลายครั้ง เกิดขึ้นมาจากเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

ที่ว่ามานี้ เป็นสิ่งที่สังเกตพบในสภาพสังคมปัจจุบัน ยุคบริโภคนิยมที่มีการแก่งแย่งแขังขันกันมากขึ้น มีเวลาดูแล พูดคุยกันน้อยลง กับคนกลุ่มเล็กๆ ในสังคมเล็กๆอย่างที่กาฬสินธุ์

ทำไมบางคนจึงให้ความสำคัญน้อยลงกับคนที่รักเรา ทั้ง พ่อแม่ แฟน ญาติ แต่กลับให้ความสำคัญกับคนอื่น...มากกว่า


เมื่อลูกๆไม่สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ในวัยชราได้ เพียงแค่การเอาตัวให้รอดในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ก็เป็นภาระที่หนักพอสมควร

ทำไม การดูแลจิตใจ มิตรภาพ ความเอื้ออาทรของบางคนจึงหายไป ทำไมคู่รักที่คบหากันมานาน จึงเลิกรากันอย่างง่ายดาย อย่างไม่มีเยื่อใยต่อกันอีกเลย

ถึงแม้ว่า หลายคนยังคงดูแลเอาใจใส่คนที่เรารัก และรักเราด้วยดีตลอดเวลา และเสมอต้นเสมอปลาย แต่รอยปริเล็กๆในสังคม ที่มีความเอื้ออาทร ความห่วงใย เหลียวแลคนที่เรารักน้อยลง

คนกลุ่มนั้น ได้รับความสำเร็จในตำแหน่ง หน้าที่การงานซึ่งเป็นที่ยอมรับ มีบทบาทในสังคม มีผลงานเป็นที่เชื่อถือ แต่การดูแลคนที่เรารักกลับลดลง

....สำหรับประเด็นที่หยิบยกมาบันทึกนี้ เป็นมุมมองที่สะท้อนจากคนเหงาๆ ในวัยเกษียณที่ควรจะมีลูกหลานแวดล้อมดูแล แต่กลับต้องมาเผยความรู้สึกในประเด็นที่บันทึกนี้กับคนอื่น ....ด้วยความเหงาในจิตใจ


คงต้องหมั่นตรวจสอบ ดูแลความรู้สึกของคนที่เรารักแล้วครับว่า เกิดความรู้สึกเหงา ว้าเหว่เช่นนี้บ้างหรือไม่



หมายเลขบันทึก: 50657เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2006 13:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ผมเห็นคนดีจำนวนมาก ที่พยายามจะเป็นคนดี ด้วยการเก็บกดอารมณ์ จนไม่สามารถตอบสนองกับการกดดันภายนอกได้ แล้วก็จะไปลงเอยด้วยการระบายอารมณ์โกรธใส่คนที่คัวเองรัก

 

...ลืมไป..

..ว่าคนที่ทำให้เราโกรธ เขามาแล้วก็ไป

เราโกรธ แต่ยังฝทนยิ้มหวานให้ 

..ลืมไป... 

ว่าคนที่เรากราดเกรี้ยวใส่ เขาจะยังอยู่กับเรา อีกนาน

(หรือบางคน..อีกไม่นาน)

เราจุึงกราดเกรี้ยวใส่

เพียงเพราะเขาสนิทกับเรา 

ประเด็นนี้โดนกับตัวเองเชียวคะ

  ผมอ่านบันทึกนี้แล้ว สะเทือนใจ ทำไห้นึกถึง การกระทำของเราที่ไม่มีสติ คิดแต่ว่า เรารักกันมาก คงไม่เป็นไรหรอก  มารู้ทีหลัง เกือบจะเสียคนที่เรารักและมีคุณค่า ไป....เศร้าจัง....ครับ

สวัสดีค่ะ

             ที่คุณ นายบอน!-กาฬสินธุ์
ให้ข้อคิดมานั่นถูกต้องค่ะ และเห็นมามากด้วย

              กรณี พ่อแม่ คงเป็นเรื่องที่ขาดความกตัญญูอย่างหนัก ที่จะไปใส่อารมณ์ หรือทำร้ายท่านด้วยวาจา  พูดกันดีๆก็ได้ พ่อแม่ก็พร้อมที่จะรับฟังอยู่แล้ว แต่เท่าที่สัมผัส คนต่างจังหวัด ยังมีความกตัญญูกับพ่อแม่สูงกว่าคนกรุงนะคะ

               กรณี คนรักกัน  ที่เป็นแบบนี้ เพราะ เห็นตัวตนกันมากไป ที่แอบๆไว้ มันออกมาให้เห็น เลยหมดคงวามอดทน อีกเรื่องที่สำคัญมาก คือเรื่องผลประโยชน์

                 กรณี เพื่อนฝูง อาจเป็นเพราะ การขาดความเกรงใจ การพูดจาที่ไม่รักษาน้ำใจบ่อยๆ หรือเรื่องผลประโยชน์  เรื่องเพื่อน มักจะออกทางคำพูดเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

                  สำหรับความเห็นส่วนตัว ทุกคนน่าจะ keep relationship space ไว้ในระดับหนึ่งเสมอ เพื่อมิให้ผิดใจกันง่ายๆค่ะ

ได้อ่านบทความข้างต้น น้ำตาแทบไหลค่ะ ส่วนตัวแล้วคุณพ่อทำงานราชการ ใกล้จะปลดเกษียณแล้ว ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน ดิฉันไม่ได้อยู่ที่เดียวกับท่าน เพราะต้องมาเรียนหนังสือ

ตอนนี้ดิฉัน อายุ 20 ปี แล้ว เวลาเจออะไรที่ทำร้ายความรู้สึกหนักๆ พอได้คุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ กลับใส่อารมณ์กับท่าน พอวางสาย เพิ่งได้รู้ว่าตัวเองกระทำอะไรลงไป เสียใจที่สุดเลยค่ะ

ต่อไปนี้ จะแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องครอบครัว และไม่ว่าเรื่องอื่นๆ ก็จะพยายามแยกแยะออกจากกัน จะใส่ใจความรู้สึกดีๆ กับท่านให้เยอะๆ เผื่อสักวันหนึ่งจะไม่เหลือใคร แต่ก็ยังมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่เสมอ TT^TT~

เหมือนฝัน~

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท